สแกนจุดแข็ง 'อนุทิน' ขั้วที่ 3 เหนือความขัดแย้ง

การเมืองไทยติดหล่มความขัดแย้งมาเนิ่นนานนับสิบปี เริ่มจากสงครามสีเสื้อเหลือง-แดง ต่อด้วยเผด็จการกับฝ่ายที่อ้างว่าเป็นประชาธิปไตย รวมทั้งฝ่ายอนุรักษนิยมกับฝ่ายหัวก้าวหน้า ที่มีความคิดหมิ่นเหม่ต่อความมั่นคงของชาติจนยากที่จะยุติลงได้ 

เนื่องจากแต่ละฝ่ายพร้อมใช้สารพัดวิชาเพื่อให้ตัวเองกลับเข้ามาสู่อำนาจผ่านระบบเลือกตั้ง จนชาติไม่สามารถหลุดพ้นจากความขัดแย้ง จากขั้วการเมืองเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นระบอบ 3 ป. หรือระบอบทักษิณ ฯลฯ   

กระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ ซูเปอร์โพล ปลุกความหวังใหม่ของคนไทยด้วยการเปิดเผยผลสำรวจความต้องการของประชาชน และพบว่า อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มีคะแนนมาเป็นอันดับหนึ่ง ที่ชาวบ้านเชื่อว่าจะเป็นผู้นำเหนือความขัดแย้ง หรือเรียกได้ว่าเป็นการเมืองขั้วที่ 3 

​โดยมีคะแนนเหนือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ที่มีคะแนนมาอันดับ 2 และ น.ส. แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวคนเล็กของนายทักษิณ ชินวัตร และ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ฯลฯ  

"ผลสำรวจดังกล่าวเผยสาเหตุเพราะนายอนุทินเป็นนักการเมืองที่มีคู่ขัดแย้งน้อย พูดน้อย ใครด่ามาถือเป็นข้อเตือนใจ เป็นคนจิตใจดี มีผลงานช่วยเหลือต่อชีวิตชาวบ้าน ผู้ป่วยผ่าตัดหัวใจและอวัยวะอื่น ๆ มายาวนาน แก้วิกฤตโควิดได้ ไม่มีประวัติด่างพร้อย แต่มีฐานะดี และชาวบ้านเชื่อว่าคนมีฐานะดีจะช่วยพวกเขาได้" นายนพดล กรรณณิกา ผอ.สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยไว้ 

สอดคล้องกับสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา ยูซอฟ อิสฮะก์ แห่งประเทศสิงคโปร์ ได้เผยแพร่บทความโดย ดร.เติมศักดิ์ เฉลิมพลานุภาพ ภายใต้หัวข้อ "อนุทิน ชาญวีรกูล : ผู้ท้าชิงตำแหน่งผู้นำประเทศไทยที่เข้มแข็งที่สุด”   

​โดยระบุว่า นายอนุทินคือคู่ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่มีความเข้มแข็งมากที่สุด พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคการเมืองที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีความเชื่อถือว่าจะเป็นทางเลือกที่ 3 เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยก้าวไปข้างหน้า หลีกเลี่ยงการปะทะระหว่างฝ่ายสนับสนุนอดีตนายกฯทักษิณ-พรรคเพื่อไทย กับฝ่ายสนับสนุนกองทัพและพรรคพลังประชารัฐ

ขณะที่บุคลิกของนายอนุทินไม่ต้องการการเผชิญหน้า และมีความจงรักภักดี เป็นปัจจัยให้ได้รับการสนับสนุนโดยกลุ่ม ส.ว.ที่สำคัญ ชัยชนะของนายอนุทินคือทางลงจากตำแหน่งที่ดีที่สุดของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ​ซึ่งทั้ง 2 จะไม่ถูกการเมืองเล่นงานย้อนหลัง นับตั้งแต่ภูมิใจไทยมาอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของนายอนุทิน ปรากฏว่าพรรคมีการเติบโตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และเป็นหนึ่งในกำลังสนับสนุนที่เข้มแข็ง และมีความสำคัญต่อพลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี 

​นอกจากนั้นยังเป็นพรรคที่มีระบบการจัดการภายในที่ดี มีวินัย และโหวตในสภาไปในทิศทางเดียวกัน ไม่มีปัญหาความขัดแย้งภายในซึ่งต่างจากพรรคร่วมอย่างพลังประชารัฐและพรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่ ส.ส.ของพรรคไม่พบการย้ายไปร่วมกิจกรรมกับพรรคอื่น กลับกัน ในรอบ 3 ปี พรรคภูมิใจไทยมี ส.ส.จากพรรคอื่นมาร่วมกิจกรรมด้วยจำนวนมาก

ดร.เติมศักดิ์ ระบุว่า ในวัย 56 ย่าง 57 ปีของนายอนุทิน ถือว่ามีประสบการณ์การเมืองมากพอสมควร และจุดนี้ทำให้เขาโดดเด่นกว่าแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย 

​ในทางการเมือง นายอนุทินไม่เคยโจมตีฝ่ายกองทัพ ขณะที่พรรคเพื่อไทยและอีกหลายพรรคหาทางโจมตี 2 นายพลอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่เกิดขึ้นย่อมสร้างความกลัวแก่ 2 นายพล ว่าหากลงจากตำแหน่งอาจจะต้องถูกจัดการทางการเมือง เช่นนี้แล้วจึงมีความพยายามขัดขวางการมีอำนาจของพรรคเพื่อไทย และจากสายตาของกลุ่ม ส.ว. นายอนุทินคือตัวเลือกที่ดีในการสนับสนุนให้ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีในอนาคต 

อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ ส.ว.วางใจในตัวนายอนุทิน คือจุดยืนเรื่องความจงรักภักดี ซึ่งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับพรรคอนุรักษนิยมรูปแบบเดียวกัน

“นายอนุทินมีคุณสมบัติที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป เขาไม่มีคู่แข่งรายอื่นมาเทียบเคียง นอกจากนั้น นี่ยังถือว่าเป็นนักการเมืองที่มีประสบการณ์ ขณะที่พรรคภูมิใจไทยกำลังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีนักการเมืองที่ช่ำชองงานมาร่วมพรรค หากนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ต้องลงจากตำแหน่งโดยที่ยังกลัวการถูกล้างแค้นทางการเมือง หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยคือทางออกที่ดีที่สุด” นักวิชาการแห่งประเทศสิงคโปร์วิเคราะห์ไว้ 

รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ ม.บูรพา กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันที่ความขัดแย้งมันแตกแยกร้าวลึก ขยายจากยอดบนไปสู่ประชาชน มันต้องการคนที่จะเข้ามาแล้วประสานรอยร้าวตรงนี้ พร้อมกับพาให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้า แก้ปัญหาปากท้องประชาชน ต้องทูอินวัน ทรีอินวัน แต่เป็นคนกลางๆ แล้วคุณสมบัตินายอนุทินเป็นอย่างไร ส่วนตัวถ้าได้มานั่งเป็นนายกฯ ก็ไม่แปลกใจ มันสมควรกับเวลา กับสถานการณ์แล้ว นี่คือนักการเมืองสายประนีประนอม มีความรู้ มีความสามารถ มีบารมี คุยกับกองทัพรู้เรื่อง และเคารพคนรุ่นเก่า 

นับเป็นข้อมูลที่ประชาชนจะนำไปพิจารณาก่อนตัดสินว่าจะให้โอกาสเลือกใช้งาน "อนุทิน" เพื่อหลุดจากความขัดแย้งขั้วเดิมๆ หรือไม่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดิจิทัลวอลเล็ตสะดุด'พรบ.ธ.ก.ส.' แจกเงินหมื่น‘ลูกผีลูกคน’อีกแล้ว

ภาพ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง นำทีมหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค หรือแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี มาแถลงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เห็นชอบหลักการ โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

'อนุทิน' ไม่กังวลแบงก์ชาติท้วงแจกเงินดิจิทัล ชี้หากไม่ถูกกฎหมาย กฤษฎีกา-สภาพัฒน์ต้องแจ้งมา

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย มีหนังสือเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาเกี่ยวกับการเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต

คณะก้าวหน้า-ธนาธรปักธง "สว.สีส้ม" แชร์เก้าอี้สภาสูง

การเมืองช่วงเดือนพฤษภาคม วาระสำคัญเรื่องหนึ่งที่ต้องติดตามก็คือ การได้มาซึ่ง วุฒิสภา-สภาสูง ชุดใหม่ ที่จะมาแทนสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ชุดปัจจุบัน ที่จะหมดวาระลงในวันที่ 10 พ.ค. แต่ต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่า สว.ชุดใหม่จะเข้าปฏิบัติหน้าที่

จับตา ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ '1ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์' ผ่าน THACCA

นางวิรังรอง ทัพพะรังสี ประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิรูปประเทศ ในฐานะนิสิตเก่าคณะรัฐศาสตร์ รุ่น 30 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ว่า

ศึก“วางคน-วางเกม”รับมือ สะท้อนผ่านวอรูม“เมียนมา”

ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางหลังจาก นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจบริหารสถานการณ์อันเนื่องมาจากความไม่สงบในเมียนมา

‘บิ๊กโจ๊ก’ดิ้นสู้หัวชนฝา ยื้อแผน‘ฆ่าให้ตาย’

ความเคลื่อนไหวของ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เที่ยวล่าสุด ถือเป็นการเขย่าวงการการเมือง ตำรวจ และองค์กรอิสระ