ส่องสมรภูมิเลือกตั้ง 'ปักษ์ใต้' เดือดพล่าน!

เท้าความเลือกตั้งปี 62 ภาคใต้เปลี่ยนไปเยอะ ฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ที่ครอบครองมานาน โดนพรรคการเมืองยี่ห้ออื่นตีแตกไปหลายเมือง

เซียนการเมืองวิเคราะห์ว่า สาเหตุมาจากการตัดสินใจของ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ซึ่งขณะนั้นเป็นแม่ทัพประชาธิปัตย์ ประกาศไม่เอา “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อีกทั้งเป็นการเลือกตั้งแบบบัตรใบเดียว ประชาชนโดนมัดมือชกต้องตัดสินใจเด็ดขาดเลือกเพียงพรรคใดพรรคหนึ่งเท่านั้น ผนวกกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เข้าเกณฑ์เป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งส่วนใหญ่ จริตทันสมัยตรงกับพรรคสีส้ม จึงทำให้ในครั้งนั้น พรรคพลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ประชาชาติ และก้าวไกล ได้แจ้งเกิดในภาคใต้

จากปี 62 สู่ปี 66 การเลือกตั้งใน “ดินแดนสะตอ” ก็เปลี่ยนไป!!!

คำพูดที่ว่า ประชาธิปัตย์ส่งเสาไฟฟ้าลงยังได้ ส.ส.ใช้ไม่ได้อีกแล้ว แม้เลือกตั้งซ่อมในระยะ 4 ปีที่ผ่านมา “ประชาธิปัตย์” เป็นฝ่ายได้รับชัยชนะก็ตาม แต่ไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่าเลือกตั้งที่จะถึง พรรคจะกลับมาดีดั่งเดิม เพราะต้องยอมรับว่าชัยชนะที่ได้มาในแต่ละครั้งเหนื่อยยากแสนเข็ญ ไม่ใช่หมูๆ เหมือนในอดีต คู่แข่งแข็งแรง หายใจรดต้นคออยู่ตลอดเวลา

 “พลังแห่งกระสุน” เริ่มทำงาน มีข้อมูลรายงานว่าพรรคการเมืองเตรียมเสบียงไว้เพียบ

เมื่อปลายเดือนกุมภาฯ ที่หาดใหญ่ สงขลา “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” ยังเคยปราศรัยเว่า “พรรคของเราเป็นพรรคที่พร้อมที่สุดในบรรดาพรรคการเมือง เพราะประชาธิปัตย์เป็นพรรคแรกที่ประกาศตัวผู้สมัครครบทั้ง 58 เขต พรรคประชาธิปัตย์ไม่พร้อมเรื่องเดียวคือเรื่องเงิน แพ้เพื่อนตลอดกาล นอกนั้นพร้อมหมด ทั้งคนและนโยบาย”

นี่คือหนึ่งคำยืนยันว่าการเลือกตั้งรอบนี้มีเทศกาลสาดกระสุนแน่นอน เพราะแต่ละพรรคการเมืองทราบแล้วว่าวิธีการนี้เจาะภาคใต้ได้

อย่างไรก็ตาม สแกนสนามด้านขวานประเทศมีหลายพื้นที่สนุกน่าติดตาม และต้องบอกว่าส่วนใหญ่เป็นการขับเคี่ยวกันเองของพรรค (เคย) ร่วมรัฐบาลเดียวกัน ประกอบด้วย ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย และพรรครวมไทยสร้างชาติที่แตกร่างมาจากพลังประชารัฐ

เริ่มต้นที่ภูมิใจไทย ต้องรักษาแชมป์ให้ได้ที่จังหวัดเป้าหมาย ทั้งระนอง สตูล และที่ขาดไม่ได้คือ “พัทลุง” พื้นที่ของ “นาที รัชกิจประการ” แม่ทัพภาคใต้ของภูมิใจไทย ต้องติดตามว่าไม้เบื่อไม้เมาอย่าง “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” ที่ตอนนี้ย้ายไปสังกัดพลังประชารัฐเรียบร้อยแล้ว จะเอาคืนได้หรือไม่ และคงต้องดูประชาธิปัตย์ด้วยว่าจะรักษาเก้าอี้ตัวเดิมในพื้นที่ “นริศ ขำนุรักษ์” เก่าไว้ได้หรือไม่

และที่ไม่พูดถึงไม่ได้ พื้นที่ร้อนแรงหนึ่งในการแข่งขัน คือ “กระบี่” ขับเคี่ยวระหว่าง “ประชาธิปัตย์” กับ “ภูมิใจไทย” เป็นจังหวัดแรกๆ ที่ผู้สมัครมีการพาดพิงกันสูง และหัวหน้าพรรคของทั้ง 2 พรรคก็เอาเรื่องพอตัว ต่างฝ่ายต่างประกาศปักธง โดยค่ายน้ำเงินส่ง 3 ชายล้วน กิตติ กิตติธรกุล (โกหนึ่ง) เขต 1 เบอร์ 2, ถิรเดช ตั้งมั่นก่อกิจ (ส.จ.ม้อ) เขต 2 เบอร์ 4, สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง (โกสุทธิ์) เขต 3 เบอร์ 1

ด้านค่ายสีฟ้า ส่ง 1 หญิง 2 ชาย ต่างวัยแต่หัวใจกระบี่เหมือนกัน ธนวัช ภูเก้าล้วน (โกเคี่ยง) เขต 1 เบอร์ 3, สาคร เกี่ยวข้อง (โกแดง แรงดี) เขต 2 เบอร์ 5, พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล (น้ำผึ้ง) เขต 3 เบอร์ 5

ส่วน “สงขลา” เมืองหลวงของประชาธิปัตย์ ที่บอกเช่นนี้เพราะบุคคลสำคัญของพรรคเป็นคนสงขลาถึง 2 คน ได้แก่ “นิพนธ์ บุญญามณี” ผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรค และอดีต รมช.มหาดไทย “เดชอิศม์ ขาวทอง” รองหัวหน้าพรรคดูแลภาคใต้ จะลุ้นแลนสไลด์ก็คงยากหน่อย เพราะขณะนี้ปรากฏว่ามี “ม้ามืด” จุรี นุ่มแก้ว ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 จากพรรคชาติพัฒนากล้า ฝีปากและลีลาหาเสียงเป็นเลิศ ชูแนวคิดร่างทรงประชาชน ปลุกชาวบ้านต่อต้านกระสุน ขอให้เลือกลูกชาวบ้านธรรมดาเข้าไปนั่งเป็น ส.ส.ในสภาสักคน สวนกระแสบ้านใหญ่ทายาทการเมือง ซึ่งต้องบอกว่าตอนนี้กระแสนิยมในโซเชียลดีวันดีคืน เหลือเพียงอีกไม่กี่วันก็จะได้พิสูจน์จะแปลเป็นคะแนนจนได้เข้าวินหรือไม่ ต้องรอลุ้น

ข้ามมาที่ “นครศรีธรรมราช” รอบที่แล้วแชร์กันคนละครึ่ง ประชาธิปัตย์ครึ่งหนึ่ง พลังประชารัฐครึ่งหนึ่ง เที่ยวนี้ขุนพลลุงป้อม ย้ายตามลุงตู่ไปลงสมัคร ส.ส.ในนามรวมไทยสร้างชาติ สายแข็งประชาธิปัตย์ยอมรับว่ากระแส “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาแรง แต่ยังไม่มีรายงานแน่ชัดว่า ชาวนครศรีธรรมราชจะเทให้ “ลุงตู่” ทั้ง 2 บัตรเลือกตั้งเลยหรือไม่  

อีก 2 จังหวัดห้ามพลาดคือ ตรัง ที่มี “ชวน หลีกภัย” เป็นสัญลักษณ์ จังหวัดนี้เกิดปัญหาในเขตเลือกตั้งของ “สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล” ลูกศิษย์นายหัวชวนและลูกหม้อเก่าที่จำใจต้องจากประชาธิปัตย์ไป จากกรณีที่เขาบอกว่าไม่ได้รับความยุติธรรมจากการทำโพลของรองหัวหน้าภาคใต้ จนทำให้ “สมบูรณ์” ชวดการลงสมัครในนามประชาธิปัตย์ เขตนี้ “ชวน” ออกตัวแรง ชัดเจนไม่ขอหาเสียงให้ผู้สมัครในสังกัดประชาธิปัตย์ เพราะไม่ต้องการแข่งขันกับ “สมบูรณ์”

ในส่วนของพังงา แน่นอนว่าแพ้ไม่ได้ เพราะเป็นจังหวัดบ้านเกิดเมืองนอนของ “หัวหน้าจุรินทร์” โดยเฉพาะในเขต 2 อำเภอท้ายเหมือง ตะกั่วป่า คุระบุรี กะปง เป็นสนามแห่งศักดิ์ศรี ขืนปล่อยให้เก้าอี้เป็นของพรรคอื่นเสมือนว่าโดนเหยียบจมูก

อย่างไรก็ตาม แชมป์เก่าปักษ์ใต้ครองพื้นที่นานนม ยังมีคนกันเองที่แยกตัวออกไปอยู่ “รวมไทยสร้างชาติ” ท้าชิงในจังหวัด “สุราษฎร์ธานี” เป็นจังหวัดที่น่าลุ้นอีกเช่นกัน เมื่อการเลือกตั้งที่แล้วถือว่าหักปากกาเซียน เพราะพรรครวมพลังประชาชาติไทย ของลุงกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่ได้แม้แต่ที่นั่งเดียว และกลับกลายเป็นว่าประชาธิปัตย์ต่างหากที่ได้แบบยกจังหวัด มารอบนี้พลพรรคสายลุงกำนันสุเทพไปรวมร่างอยู่ที่รวมไทยสร้างชาติเรียบร้อยแล้ว จึงต้องจับตาว่าจะมีการถล่มเอาคืนกันอย่างไร และ “บัญญัติ บรรทัดฐาน” หัวหอกสำคัญแห่งเมืองสุราษฎร์ของประชาธิปัตย์ยังจะขลังอีกไหม 

ขณะที่ “ภูเก็ต” บอกได้สั้นๆ ว่าประชาธิปัตย์ตีคู่สูสีกับพลังประชารัฐ ทว่า จังหวัดชุมพร “รวมไทยสร้างชาติ” ได้ตระกูล “จุลใส” ไปเป็นตัวหลัก งานนี้ ประชาธิปัตย์มีหนาว

ปิดท้าย 3 จังหวัดชายแดนใต้ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส คาดกันว่าน่าจะเป็นการแชร์กันของหลายพรรคการเมือง ทั้งประชาชาติ ประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ

นี่คือความเคลื่อนไหวบางส่วนของสมรภูมิรบเลือกตั้งปี 66 ภาคใต้ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการตัดคะแนนจากฝ่ายเดียวกันทั้งนั้น ไม่แน่เก้าอี้ ส.ส.ในหลายเขตเลือกตั้งอาจตกเป็นของ “ตาอยู่” อย่างพรรคก้าวไกล อีกไม่นานเกินรอ 14 พฤษภานี้รู้เรื่อง!.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คณะสอบวินัย"บิ๊กโจ๊ก"ส่อเค้าวุ่นไม่จบ “สราวุฒิ”จ่อเกษียณโยนเผือกร้อนสีกากี

สู้กันทุกกระบวนท่าเต็มสรรพกำลังอภิมหาศึก “สีกากี” สำนักงานตำรวจแห่งชาติ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ที่ถูกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนพัวพันคดีเว็บพนันออนไลน์ ระบุว่า “การสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมาย”

'จิราพร' คาดได้เป็นเสนาบดีเพราะ'เศรษฐา' ต้องการพลังคนรุ่นใหม่!

'น้ำ จิราพร' เผยได้เป็นรัฐมนตรีป้ายแดงเพราะนายกฯ หวังใช้พลังคนรุ่นใหม่ขับเคลื่อนงาน รับ อายุน้อยสุดในครม. ตื่นเต้นแต่ไม่ตระหนกพร้อมทำทุกหน้าที่

รัฐบาลฟุ้งเดินหน้าศูนย์กลางการบินของภูมิภาค

รัฐบาลมุ่งยกระดับการดำเนินงานในด้านการรักษาความปลอดภัยและนโยบายเกี่ยวกับด้านการบิน เดินหน้าประเทศสู่เป้าหมายการเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค

รัฐบาลตีปี๊บ มิ.ย.ลงทะเบียน 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์

​โฆษกรัฐบาลเผย OFOS สร้างคน ยกระดับ ศักยภาพคนไทย พร้อมลงทะเบียน มิ.ย.2567 ตั้งเป้ายกระดับคนไทยสร้างสรรค์ มีคุณภาพ 296,610 คน ภายในปีงบประมาณ 2567 ต่อยอดพัฒนา 20 ล้านคน ในเวลา 4 ปี