
วันพุธที่ 8 ธ.ค.นี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะนัดฟังคำวินิจฉัยในคดีที่อาจจะนำไปสู่ "การเลือกตั้งซ่อม" ใน 2 เขตเลือกตั้งในพื้นที่ภาคใต้คือ "ชุมพรและสงขลา"
ที่เป็นพื้นที่เลือกตั้งของชุมพล จุลใส ส.ส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) หรือลูกหมี อดีตแกนนำ กปปส. กับ ถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลาหลายสมัยจาก ปชป. อันเป็นผลพวงมาจากคำพิพากษาของศาลอาญาในคดี กปปส.เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ที่เป็นปัญหาข้อกฎหมายเรื่องสมาชิกภาพการเป็น ส.ส. ที่คณะกรรมการการเลือกตั้งยื่นคำร้องให้ศาลชี้ขาดเรื่องสมาชิกภาพ ส.ส.ของ ส.ส.ห้าคนที่เป็นอดีตแกนนำ กปปส.ทั้งหมด
ซึ่งนอกจากชุมพล-ถาวรแล้วยังมีอดีตแกนนำ กปปส.อีกสามคนที่ศาลจะวินิจฉัยคือ พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์-ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ สอง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อจากพลังประชารัฐ (พปชร.) และอิสสระ สมชัย ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อจาก ปชป.
อย่างไรก็ตาม ในทางการเมืองหลายพรรคการเมืองแม้แต่คนในพรรค ปชป.มองข้ามช็อตไปแล้วว่า ยังไงวันที่ 8 ธ.ค.นี้ ผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะทำให้ "มีการเลือกตั้งซ่อมที่ชุมพร" แน่นอน ส่วนที่สงขลายังมีโอกาสพลิกได้แบบ 50-50 คือศาลอาจยกคำร้อง ทำให้ถาวรยังได้เป็น ส.ส.ต่อไป เนื่องจากผลคำพิพากษาของศาลอาญาในคดีดังกล่าวของถาวรกับชุมพลแตกต่างกัน
กรณีของถาวรมีปัญหาข้อกฎหมาย เพราะหลังศาลอาญามีคำตัดสิน แต่ปรากฏว่าระหว่างยื่นคำร้องขอปล่อยตัว ศาลอาญาไม่ให้ประกันตัว แกนนำ กปปส.หลายคนที่รวมถึงตัวนายถาวรด้วย จึงถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร รวมสองวันหนึ่งคืน ระหว่างรอศาลอุทธรณ์มีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งต่อมาศาลอุทธรณ์ก็มีคำสั่งให้ปล่อยชั่วคราว แต่เกิดปัญหาว่าการที่ถาวรถูกคุมตัวดังกล่าว ทำให้ต้องหลุดจากการเป็น ส.ส.หรือไม่ แต่กรณีของชุมพล แม้จะถูกคุมขังเช่นกัน แต่ศาลอาญาตัดสินให้เพิกถอนสิทธิ์การเลือกตั้งด้วยเป็นเวลาห้าปี ทำให้มีการมองว่าชุมพลน่าจะขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส.ในสมัยปัจจุบัน แต่สำหรับถาวรยังมีโอกาสจะได้ลุ้นรักษาสถานะการเป็น ส.ส.ของตัวเองไว้ได้อยู่
ขณะที่ "พุทธิพงษ์-ณัฏฐพล-อิสสระ" ทั้งสามคนเป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ แต่ในกลุ่มสามคนดังกล่าวพบว่า ณัฏฐพลและอิสสระถูกศาลอาญาตัดสินตัดสิทธิ์การเมืองห้าปีเช่นเดียวกับชุมพล
ดังนั้นเป็นไปได้ที่ณัฏฐพลและอิสสระอาจจะหลุดจากการเป็น ส.ส. แต่ที่ต้องลุ้นคือกรณีของพุทธิพงษ์ เพราะไม่ได้โดนตัดสิทธิ์การเมืองห้าปี แต่ถูกศาลออกหมายขังเช่นเดียวกับกรณีของถาวร ทำให้หากศาลเห็นว่าพุทธิพงษ์ไม่หลุดจาก ส.ส. เขาก็จะกลับมาเป็น ส.ส.ได้อีก เพราะที่ผ่านมาอยู่ระหว่างการถูกพักการปฏิบัติหน้าที่
มีกระแสข่าวว่า การตัดสินของศาล รธน. วันที่ 8 ธ.ค. ที่มีการวิเคราะห์กันว่าอาจจะทำให้ต้องมีการเลือกตั้งซ่อมที่ชุมพร ข่าวว่าให้จับตา อาจมีความเป็นไปได้ที่พรรค พปชร.ซึ่งมี ส.ส.เขตภาคใต้ 14 คน อาจจะไม่ส่งคนลงเลือกตั้งซ่อมที่ชุมพรก็เป็นได้
เพราะมีข่าวว่า ลูกหมี-ชุมพลมีการพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับแกนนำ พปชร. ว่าหากเป็นไปได้ อยากให้ พปชร.ไม่ส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมเพื่อหลีกทางให้ตนเอง จะได้ส่งเครือญาติลงสมัครเป็น ส.ส.ชุมพรแทน ด้วยเพราะอายุสภาชุดนี้ก็เหลืออีกแค่ปีกว่าเท่านั้น จึงไม่อยากให้พรรครัฐบาลด้วยกันเองมาแข่งกันแบบดุเดือด แบบตอนเลือกตั้งซ่อมที่นครศรีธรรมราช
ท่ามกลางกระแสข่าวว่า มีสัญญาใจกันว่าเลือกตั้งสมัยหน้า ชุมพลจะให้คนในกลุ่มตัวเองในพื้นที่ชุมพร รวมถึงอาจดึงพี่ชาย ลูกช้าง สุพล จุลใส ส.ส.ชุมพร เขต 3 พรรครวมพลังประชาชาติไทยย้ายมา พปชร.
ซึ่งเรื่องนี้กลุ่ม 14 ส.ส.ภาคใต้ พปชร.ได้ยินข่าวมาตั้งแต่ตอนที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร.ไปลงพื้นที่ชุมพรเมื่อ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งวันดังกล่าว ลูกหมี-ชุมพล ไปร่วมต้อนรับบิ๊กป้อมและคณะด้วยตัวเอง
ข่าวจากพรรค พปชร.แจ้งว่า สุดท้ายแล้วการที่ พปชร.จะส่งคนลงเลือกตั้งซ่อมที่ชุมพรหรือไม่ จะอยู่ที่การตัดสินใจของสามคนหลักในพรรคคือ พลเอกประวิตร-ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค และอนุมัติ อาหมัด ที่ลาออกจาก ส.ว.มาดูแลพื้นที่เลือกตั้งภาคใต้ของ พปชร. ซึ่ง ส.ส.ภาคใต้หลายคนเท่าที่คุยกันยังไม่เชื่อมั่นเต็มร้อยว่ากลุ่มของลูกหมีจะย้ายมา พปชร.แบบยกทีม เพราะถึงเวลาเลือกตั้งใหญ่จริงๆ กลุ่มลูกหมีอาจไม่มาก็ได้ แต่ตอนนี้ก็มาขอให้บิ๊กป้อมหลีกทางให้ก่อน ซึ่งคนใน พปชร.ตั้งข้อสังเกตว่า ลูกหมี-ชุมพล กับพลเอกประวิตร ก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอยู่ ทำให้บิ๊กป้อมอาจให้ พปชร.หลีกทางให้กลุ่มลูกหมี แต่ก็ต้องดูด้วยว่ากลุ่ม ส.ส.ภาคใต้ พปชร.จะยอมหรือไม่
"ส่วนที่สงขลานั้น ทีมภาคใต้ พลังประชารัฐมองว่ามีโอากาสที่ถาวรอาจจะรอด ศาลยกคำร้องทำให้ไม่ต้องเลือกตั้งซ่อม แต่หากมีเลือกตั้งซ่อมจริง ถาวรก็ไม่สามารถลงเลือกตั้งซ่อมได้ แต่เลือกตั้งรอบหน้าใหญ่กลับมาลงได้เพราะไม่โดนตัดสิทธิ์ ในส่วนของพลังประชารัฐ ชัดเจนแล้วว่า อนุมัติ อาหมัด หัวหน้าทีมภาคใต้ เตรียมคนไว้แล้ว โดยเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ เพราะคนเดิมเป็นคนของ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล ที่ตอนนี้ออกจากพลังประชารัฐไปอยู่กับพรรคกล้าแล้ว โดยคนที่เตรียมไว้คือ อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ ทายาทบริษัท ศรีตรังโกลฟส์ จำกัด (มหาชน) ที่ทำธุรกิจส่งออกยางแปรรูป-ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยางรายใหญ่ ที่เป็นธุรกิจระดับหมื่นล้านบาท ซึ่งมีฐานการผลิตในภาคใต้ไว้ชนกับประชาธิปัตย์ในเขตเลือกตั้งของถาวร ไม่ว่าจะเลือกตั้งใหญ่หรือเลือกตั้งซ่อม โดยที่ผ่านมาอนุกูลได้เปิดตัวหาเสียงที่สงขลามาสักระยะแล้ว
ทางพลังประชารัฐได้ข่าวว่า เดชอิศม์ ขาวทอง หรือนายกฯ ชาย ส.ส.สงขลา อดีตนายก อบจ.สงขลา ที่ตอนนี้มีบทบาทสูงในประชาธิปัตย์ ต้องการส่งภรรยาตัวเองคือ สุภาพร กำเนิดผล รองนายก อบจ.สงขลา ลงสมัครหากถาวรไม่รอดในวันพุธนี้ ส่วนเจ้าของพื้นที่คือถาวรยังไม่มีการเคลื่อนไหวมากนัก โดยมีข่าวในพื้นที่ว่าถาวรได้บอกกับทีมงานที่สงขลาว่า ยังมั่นใจว่ามีโอกาสที่ศาลจะยกคำร้อง ทำให้ยังได้เป็น ส.ส.ต่อไป ตัวถาวรเลยยังไม่ขยับอะไร" แหล่งข่าวจากกลุ่ม 14 ส.ส.จังหวัดภาคใต้พลังประชารัฐระบุ
พุธที่ 8 ธ.ค.นี้มาลุ้นกันว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยอย่างไร สุดท้ายจะทำให้ต้องมีการเลือกตั้งซ่อมหรือไม่ หรือจะมีคำวินิจฉัยที่พลิกความคาดหมายเกิดขึ้น รวมถึงต้องดูว่าหากมีการเลือกตั้งซ่อมแล้วจะมีการจับมือกันในทางลับระหว่าง พปชร.กับ ปชป. เพื่อหลีกทางให้กันหรือไม่ หรือจะมารบกันเองแบบตอนเลือกตั้งซ่อมที่นครศรีธรรมราช.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เด็ก ปชป.' ขยี้ก้าวไกลการละคร จ่อร้อง ปปช. ฟันจริยธรรม 'หมออ๋อง'
'อี้ แทนคุณ' ซัดก้าวไกลการละคร ฮั้วยื้อเก้าอี้ไร้ศักดิ์ศรีหนัก ปลุกคนไทยไล่ 'หมออ๋องเชียร์เบียร์' เลิกเล่นเกมรัก(ซ้อน)ทรยศ จ่อร้อง ป.ป.ช. สอบฝ่าจริยธรรมร้ายแรง
โจทย์ใหญ่ “บิ๊กต่อ” ว่าที่ ผบ.ตร.คนที่ 14 กู้วิกฤตศรัทธากลับคืนองค์กรตำรวจ
เคาะจบเรียบร้อย ด้วยมติ 9 ต่อ 1 งดออกเสียง 2 คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. มีมติเห็นชอบ “บิ๊กต่อ”- พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร.อาวุโสอันดับ 4 ขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนที่ 14
'จุรินทร์' เผยความสัมพันธ์ใน ปชป. ดีขึ้น พร้อมทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลให้เกิดผลดีแก่ประเทศ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่พรรคประชาธิปัตย์จะแยกตัวไปตั้งพรรคใหม่ เพื่อดึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นหัวหน้าพรรค
ไม่รีบ! ปชป.ตั้งเป้าได้หัวหน้าพรรคคนใหม่ไม่เกิน พ.ย.
'ชัยชนะ' ตั้งเป้า ปชป.ได้หัวหน้าพรรคคนใหม่ไม่เกินต้นพ.ย. ย้ำยังเป็นชื่อ 'นราพัฒน์' เหมือนเดิม
'จุรินทร์' ย้ำเนื้อหารัฐธรรมนูญสำคัญไม่แพ้ที่มา!
'จุรินทร์' ชี้แก้ รธน.เนื้อหาสำคัญไม่แพ้ที่มา เพราะบังคับใช้ด้วยเนื้อหา จะใช้ฉบับไหนเป็นตัวตั้งดูให้รอบคอบ คิดไม่ถึงจะยื้อไปถึง 4 ปี
เส้นทาง “ทรงวิทย์-เจริญชัย” สู่โจทย์กองทัพยุคใหม่
แม้จะยังไม่ได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) และผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) อย่างเต็มตัว แต่ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี รอง ผบ.ทสส. และ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ รอง ผบ.ทบ.ก็เริ่มทำหน้าที่ในช่วงรอยต่อแล้ว