
เท้าความก่อนหน้านี้ แวดวงการเมืองพูดเป็นเสียงเดียวกัน พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีคนลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แต่สุดท้ายก็ได้ “สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์” มาเป็นผู้สมัครในนามพรรค
โดยได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่ตึกสามย่าน มิตรทาวน์ ซึ่งสังคมให้ความสนใจในระดับดีเลยทีเดียว ถือว่ายุทธศาสตร์ทำเป็นลับๆ ล่อๆ ก่อนหน้าจะเปิดตัวประสบผลสำเร็จ
หลายคนรอฟังนโยบายอย่างใจจดจ่อว่าจะพัฒนาและปรับปรุงเมืองหลวงอย่างไร จะดูแลชาวกรุงเทพมหานครอย่างไร ซึ่งในวันเปิดตัว “ดร.เอ้” ร่ายยาวบนเวทีเป็นชั่วโมงๆ แนะนำตัวพร้อมโชว์วิสัยทัศน์ ฟังแล้วประชาชนก็เริ่มเคลิ้ม ทำเอาคนกรุงคันไม้คันมืออยากเข้าคูหากากบาทเดี๋ยวนั้น
ขณะเดียวกันก็คงทำให้พรรคคู่แข่งลนลานต้องหาทางเคลื่อนไหวบ้างแล้ว ไม่เช่นนั้นกระแสอาจโดนกลบได้ เพราะต้องยอมรับว่า “ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์” โปร์ไฟล์ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงานเฟอร์เฟ็กต์
แต่ไม่วายโดนโลกโซเชียลถล่มทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝั่งไอโอสามกีบ ขุดเรื่องสมัยยังเป็นอธิการบดีมาโจมตี แต่ “ดร.เอ้” ก็กล่าวไว้ว่าเป็นเรื่องปกติ ถือเป็นการรับน้อง!!!
ในประเทศนี้คนเก่งมีมากมาย แต่สุดท้ายตกม้าตายเพราะอธิบายสื่อสารไม่เป็น ทว่า “สุชัชวีร์” ไม่ใช่ เขาได้รับคำชื่นชมว่าเป็นคนสื่อสารดี พูดเก่ง ฟังแล้วอยากให้มาเป็นผู้ว่าฯ กทม.
บนเวทีโชว์ vision ไว้หลายเรื่อง ทั้งแก้มลิงใต้ดิน แก้ไขปัญหาน้ำท่วม จัดการต้นตอฝุ่นพิษ ยกระดับคุณภาพการศึกษาผ่านโรงเรียนในสังกัด กทม.เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่แค่คุยฟุ้ง เพราะที่ผ่านมาการันตีด้วยผลงาน เป็นวิศวกรทำแก้มลิงที่วัดดังย่านเยาวราช รวมทั้งขุดอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดินสายแรกของประเทศไทย สายหัวลำโพง
นอกจากนี้ยังประกาศจะปรับปรุงรถเมล์ ฟุตบาท ดูแลการศึกษาให้เหมือนลูกของตัวเอง ดูแลสาธารณสุขตั้งแต่เด็กยันผู้สูงอายุ
หลังจากนี้ก็คงต้องจับตาการลงพื้นที่พบปะชาว กทม. ล่าสุดเจ้าตัวเปิดเผยว่าตั้งใจจะไปเจอชาวธนบุรี ดูทะเลอ่าวไทยกัดเซาะตลิ่งแถวบางขุนเทียน และไปต่อที่บางบอน บางแค ส่วนทีมงานคุณภาพ รองผู้ว่าฯ กทม.นั้น ยังอุบไต๋ แต่เปิดสเปกต้องเป็นนักเปลี่ยนแปลง นักสู้ มีความรู้จริงในงานที่จะได้ดูแล
เปิดตัวอย่างเป็นทางการต้องยอมรับว่ากระแสมา และเป็นจุดสนใจ “สุชัชวีร์” คือความหวังใหม่ของการกอบกู้ประชาธิปัตย์ให้คืนสู่สนามการเมือง โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองกรุง ที่เมื่อการเลือกตั้งใหญ่ ส.ส. 2 ปีที่แล้ว ไม่มีผู้แทนราษฎรใน กทม.แม้แต่คนเดียว
เสียงบอกเล่าจากในพรรคว่า เขาเป็นเจ้าโปรเจ็กต์ไม่พอ แต่เขาคนนี้ได้ศึกษาแล้วว่าถ้าได้ทำจริงจะเอางบประมาณจากส่วนใดแล้ว บางคนฟันธง ถ้าได้ขึ้นเวทีดีเบตระหว่าง “สุชัชวีร์” กับ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” รับรองว่า “สุชัชวีร์” พูดเก่งกว่า คล่องกว่าแน่นอน
ล่าสุด “ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร” หรือผู้ว่าฯ หมูป่า ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ตอบคำถามสื่อมวลชนเชิงปฏิเสธ “อยากเดินออกจากราชการด้วยการเกษียณอายุราชการ” ประกอบกับที่อยู่ตามทะเบียนบ้านไม่ตรงกับคุณสมบัติ จึงอาจรับสมัครคัดเลือกผู้ว่าฯ กทม.ไม่ได้
เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ยิ่งเป็นการเสริมความมั่นใจให้พรรคประชาธิปัตย์ เพราะอย่างน้อยที่สุด พรรคพลังประชารัฐก็ยังต้องงมหา และบางทีอาจหาไม่ได้ หรืออาจจะหาได้ แต่โปร์ไฟล์ไม่เท่ากับ 2 ม้าเต็งในสนามขณะนี้ และจะดีกว่านี้ ถ้าพลังประชารัฐไม่ส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งต้องรอลุ้นกันต่อว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด
แต่ถ้าเป็นจริง ก็จะเป็นการประลองกันไปเลยว่าระหว่างฐานเสียงเพื่อไทย ก้าวไกล กับประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ ฝ่ายไหนฐานเสียงในกรุงเทพฯ จะแน่นกว่ากัน
ท้ายสุดฝากไว้ให้คิด ที่ผ่านมาคนกรุงเทพฯ ชอบเลือกผู้ว่าฯ กทม.ที่เป็นฝ่ายค้าน เพราะเชื่อว่าจะช่วยคานอำนาจรัฐบาลได้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ
เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569
'ภัยพิบัติการเมือง เมื่อกฎบริจาค กลายเป็นสนามแข่งพรรคใหญ่'
ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมในหลายพื้นที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย
พลิกเกม"น้ำท่วม"สู้ศึกเลือกตั้ง สมรภูมิการเมืองช่วงชิงชัยชนะ
แรงกดดันของสังคมที่มีต่อ "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาด บกพร่อง และล่าช้า ในการสั่งการเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
วิกฤตน้ำท่วมทำรัฐบาลรวน อาจป่วนถึงการแก้รัฐธรรมนูญ
วิกฤตในการบริหารสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของภาคใต้ โดยเฉพาะที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นอกจากความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมหาศาลแล้ว ยิ่งทำให้รัฐบาลสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาสาธารณชน
รัฐบาลอ่อนหัด โครงสร้างล้าหลัง ฉุดเชื่อมั่น'อนุทิน-ภท.'จมดิ่งกับน้ำท่วม
วิกฤตมหาอุทกภัยถล่ม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้ สร้างความหายนะราวกับคลื่นสึนามิ ซากปรักหักพังของเมืองเสมือนวันสิ้นโลก
ปี69เดือด!เลือกตั้งทุกระดับ 'กกต.-ประชาชน'ตัดสินอนาคต
ปี 2569 กลายเป็นปีที่ท้าทายที่สุดสำหรับประชาธิปไตยไทย ด้วยการเลือกตั้งหลายระดับที่กระชั้นชิดกันอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ที่คาดว่าจะพ่วงด้วยการลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ และบันทึกความเข้าใจ (MOU)


