‘เสี่ยนิด’ ส่อแววตกเก้าอี้ 2 ขั้วชิงตั้งรัฐบาลอีกรอบ

คงไม่มีผู้นำประเทศไหนที่ประโคมข่าวว่าประเทศตนเองกำลังเผชิญภาวะวิกฤตเศรษฐกิจเหมือนรัฐบาลไทยที่มี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง เป็นนายกรัฐมนตรี

เพราะหากบอกว่าเศรษฐกิจของประเทศกำลังวิกฤต เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณด้านลบต่อการลงทุน กระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ แล้วใครจะกล้ามาลงทุน?

แต่ขณะเดียวกันที่นายเศรษฐาไปโลดโชว์กับนักลงทุนต่างประเทศ พูดกับผู้นำประเทศต่างๆ กลับพูดตรงข้าม คุยโวว่าประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี พร้อมรองรับสำหรับการลงทุน

การพยายามบอกว่าเศรษฐกิจวิกฤต ก็เพื่อเชื่อมโยงกับโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ที่จะออกเป็น พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ซึ่งจะต้องเข้าเงื่อนไขทางกฎหมาย

โดยมาตรา 53 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 พ.ศ.2561 บัญญัติว่า การกู้เงินของรัฐบาลนอกเหนือจากที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะ ให้กระทรวงการคลังกระทำได้ก็แต่โดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายที่ตราขึ้นเป็นการเฉพาะ และเฉพาะกรณีที่มีความจําเป็นที่จะต้องดำเนินการโดยเร่งด่วนและอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตของประเทศ โดยไม่อาจตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีได้ทัน

นอกจากนี้ การกู้เงินดังกล่าวยังเกี่ยวกับกฎหมายอีกหลายฉบับ พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ.2548 มาตรา 62 บัญญัติว่า รัฐต้องรักษาวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ฐานะทางการเงินการคลังของรัฐมีเสถียรภาพและมั่นคงอย่างยั่งยืน ตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ และจัดระบบภาษีให้เกิดความเป็นธรรมแก่สังคม

ขณะที่ นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 และแนวโน้มปี 2566-2567 ตอบคำถามตอนหนึ่งที่ว่าเศรษฐกิจไทยถึงขั้นวิกฤตหรือไม่ ว่า ยังขยายตัวได้ดี ตั้งแต่หลังผ่านสถานการณ์โควิด-19 เศรษฐกิจไทยก็มีความผันผวนมาตลอด โดยเฉพาะจากปัจจัยภายนอก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเงินเฟ้อสูง ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวตามที่คาด และผลกระทบจากสงคราม ซึ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย ในขณะที่เศรษฐกิจภายในของไทยเองยังสามารถเติบโตได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการบริโภคหรือการท่องเที่ยว

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้นำตัวเลขที่ออกมาจากสภาพัฒน์ ที่ระบุว่า จีดีพีไทยในไตรมาสที่ 3 ปีนี้โตขึ้น 1.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน พร้อมอธิบายตัวเลขจีพีดีว่าคืออะไร คำนวณอย่างไร ก่อนสรุปว่าปัญหาของเศรษฐกิจไทยเป็นเรื่องการส่งออกที่หดตัวตามเศรษฐกิจโลก การลงทุนของรัฐที่หดตัวลง และการลงทุนภาคเอกชนที่ถึงแม้จะโตขึ้น แต่โตน้อยเมื่อเทียบกับการเติบโตของปีก่อน ไม่ใช่วิกฤตเศรษฐกิจอย่างที่รัฐบาลพยายามประโคมข่าว

แต่ นายเศรษฐา ก็งัดเรื่องหนี้ของประชาชนมาออกมาเพื่อตอกย้ำให้เห็นว่าเศรษฐกิจวิกฤตจริงๆ โดยบอกว่าหนี้นอกระบบอาจใหญ่กว่าหนี้ในระบบ ซึ่งจะประชุมกันวันที่ 28 พ.ย. จะแถลงข่าวใหญ่ในวันที่ 12 ธ.ค.

แกนนำรัฐบาลยังบอกว่าได้ส่งร่างกฎหมายให้กฤษฎีกาพิจารณาแล้ว แต่ นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม.ว่า ได้พบกับ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง ในกรณีที่รัฐบาลมีข้อสอบถามเรื่องการออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต

“เมื่อเช้าผมทวงถามจากรัฐมนตรีเรื่องนี้ เพราะผมถูกด่าว่าทำงานช้า ทั้งที่เรื่องยังไม่ส่งมาถึงผม ทางสภาพัฒน์ก็รอ เพราะนึกว่าเรื่องได้ส่งมาที่ผมแล้ว ทุกคนคิดแบบนี้ แต่ปรากฏว่านักข่าวรู้มากกว่าผมอีก” นายปกรณ์ ระบุ

เท่ากับประจานการทำงานของรัฐบาลที่อ้างว่าเศรษฐกิจวิกฤต แต่กลับยังไม่รีบนำร่างกฎหมายส่งให้กฤษฎีกาพิจารณา

ทั้งนี้ต้องจับตาหากกฤษฎีกาวินิจฉัยว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์กฎหมาย รัฐบาลจะใช้เป็นเงื่อนไขในการพับโครงการดังกล่าวหรือไม่ แต่หากจะดันทุรัง ส่งร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน เข้าสู่การพิจารณาของสภา หากไม่ผ่านสภา นายกฯ ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก เนื่องจากเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับการเงิน

และยังต้องฝ่าด่านองค์กรอิสระอีกหลายด่าน ทั้ง ป.ป.ช. กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ หากวินิจฉัยว่ามีความผิด ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ นายเศรษฐา ก็มีสิทธิ์ติดคุก และตกเก้าอี้ซ้ำรอย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ จากโครงการรับจำนำข้าว

ขณะเดียวกัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังทำโผบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจทั่วประเทศในระดับรองผู้บังคับการ-ผู้กำกับ ตามกองบัญชาการตำรวจต่างๆ จนถึงสารวัตรทั่วประเทศ นายเศรษฐา ได้พูดในที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทยว่า "ผู้กำกับใหม่ ซึ่งผมมั่นใจว่าคงมีผู้ผิดหวังมากกว่าผู้สมหวังในห้องนี้ที่ขอตำแหน่งไป เพราะรู้สึกมันเยอะเหลือเกิน แต่ก็มีไม่น้อยที่ได้สมหวัง แต่ก็เป็นผู้กำกับใหม่ซึ่งเราจะต้องพูดคุยเรื่องนี้กันให้เข้าใจถึงถ่องแท้ และต้องกำจัดปัญหานี้ออกไป ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งเราเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ"

วันถัดมานายกฯ ปฏิเสธว่าไม่เคยแทรกแซง ก้าวก่ายการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ “เราพูดเรื่องความ ไม่ได้พูดเรื่องคน ความคือมีปัญหาในพื้นที่” ซึ่งเป็นการแก้ตัวน้ำขุ่นๆ หลังทำปืนลั่นกลางที่ประชุมพรรคเพื่อไทย

แม้นายกฯ จะนั่งเป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) มีอำนาจในการพิจารณาแต่งตั้ง ผบ.ตร. แต่ข้าราชการตำรวจในระดับล่างลงมาต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ทางกฎหมาย

จึงกลายเป็นประเด็นร้อนให้ฝ่ายค้านจับผิดว่า น่าจะมี สส.ของพรรคเพื่อไทยเป็นจำนวนมากกระทำผิดตามมาตรา 185 (3) ของรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ระบุไว้ว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสมาชิกวุฒิสภา ต้องไม่ใช้สถานะหรือตําแหน่งการเป็น สส.หรือ สว. กระทําการใดๆ อันมีลักษณะที่เป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมือง ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม ในเรื่องดังต่อไปนี้

การบรรจุ แต่งตั้ง โยกย้าย โอน เลื่อนตําแหน่ง เลื่อนเงินเดือนหรือการให้พ้นจากตําแหน่งของข้าราชการซึ่งมีตําแหน่งหรือเงินเดือนประจํา และมิใช่ข้าราชการการเมือง พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ กิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่ หรือราชการส่วนท้องถิ่น

สำหรับมาตรา 186 บัญญัติว่า รัฐมนตรีต้องไม่ใช้สถานะหรือตําแหน่งกระทําการใดไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม อันเป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมืองโดยมิชอบตามที่กําหนดในมาตรฐานทางจริยธรรม

เมื่อนายกฯ บอกว่า มีไม่น้อยที่สมหวัง ก็เท่ากับความผิดสำเร็จ สส.จะเข้าข่ายมาตรา 185 นายกฯ ก็จะเข้าข่าย ม.186

ฝ่ายนิติบัญญัติโดยคณะกรรมาธิการการตำรวจ และคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ จึงเรียกนายเศรษฐาเข้าชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าว

ด้าน นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบนายกรัฐมนตรี และ สส.เพื่อไทย อาจเข้าข่ายฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง อาจถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองไม่เกิน 10 ปีตามที่กฎหมายกำหนดด้วย

ในส่วนของพรรคก้าวไกลก็มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ เมื่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์รายการ “กรรมกรข่าว คุยนอกจอ” ยอมรับว่าช่วงจัดตั้งรัฐบาลได้ไปพบ นายทักษิณ ชินวัตร ที่ฮ่องกงจริง ทั้งที่ช่วงนั้นมีการเปิดโปงตั๋วเครื่องบินว่านายธนาธรเดินทางไปฮ่องกง แต่แกนนำคณะก้าวหน้า-ก้าวไกลต่างปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง

แม้ นายธนาธร จะปฏิเสธว่าไม่ได้คุยเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล เพราะไม่มีตำแหน่งทางการเมือง หากไปต่อรองก็ถูกยุบพรรค แต่คงไม่มีใครเชื่อ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า นายธนาธร เปรียบเสมือนเจ้าของพรรคก้าวไกล เช่นเดียวกับ นายทักษิณ ที่เป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทย และทั้ง 2 คนยังเป็นผู้จัดการรัฐบาลตัวจริง ส่วน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล ก็เปรียบเสมือนหุ่นเชิด เหมือน นายเศรษฐา นั่นเอง  ว่ากันว่า มีการเสนอสูตรจัดตั้งรัฐบาลแล้วพานายทักษิณกลับบ้านโดยไม่ต้องติดคุก ให้เพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลกับก้าวไกล แล้วร่วมกันแก้ไขรัฐธรรมนูญ ล้มล้างผลพวงการรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 ให้คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ คำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่เป็นผลต่อเนื่องจากรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ตกเป็นโมฆะ ให้เรื่องที่อยู่ในกระบวนพิจารณา ที่เกิดจากการริเริ่มของ คตส.ยุติลง

แต่ทักษิณไม่เอาด้วย ไปเอาสูตร ดีลลับลังกาวี ฮั้วกับกลุ่ม อนุรักษนิยม

อย่างไรก็ตาม นายธนาธร บอกว่า "เราพยายามเสนอสิ่งที่เราอยากจะทำ ไม่รู้คนอื่นคิดอย่างไร แต่พรรคเพื่อไทยคือมิตรสำหรับผม แม้จะอยู่คนละฝั่งก็ตาม เพื่อไทยเป็นรัฐบาล เราเป็นฝ่ายค้าน ก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน ถึงแม้ว่าผมจะรู้สึกเสียใจและเจ็บปวดที่สุดที่พรรคเพื่อไทยไม่ได้จัดตั้งรัฐบาลกับเรา"

จากคำพูดของนายธนาธร จึงไม่แปลกที่พรรคก้าวไกลไม่ตรวจสอบกรณี น.ช.ทักษิณ นักโทษหนีคุกคดีทุจริต 8 ปี ได้รับอภัยลดโทษเหลือจำคุก 1 ปี กลับประเทศแล้วไม่ยอมนอนคุกแม้แต่วันเดียว ยังนอนอยู่ รพ.ตำรวจ ชั้น 14 ขณะที่สังคมกังขาเรื่องการใช้อภิสิทธิ์ชน อยู่เหนือกระบวนการยุติธรรม ทำให้คนไม่เท่ากัน

แต่อย่างไรก็ตาม 2 พรรคนี้มีชุดความคิดเดียวกันคือ เป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ แม้การจัดตั้งรัฐบาลครั้งที่ผ่านมาต้องแยกทางกัน แต่ที่นายธนาธรเปิดเผยว่า เพื่อไทย-ก้าวไกลเป็นพันธมิตรกัน ก็น่าจับตาว่าหากนายเศรษฐาต้องพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็ต้องมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ท่ามกลางกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี อาจจะคัมแบ็กอีกครั้ง

จุดเปลี่ยนการเมืองจะอยู่ในช่วงวันที่ 11 พ.ค. 2567 ที่สมาชิกวุฒิสภาหมดอำนาจโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี หากนายเศรษฐาพ้นเก้าอี้นายกฯ เพื่อไทย-ก้าวไกลหวังจะลากเกมให้พ้นหลัง 11 พ.ค.2567 แต่ ประยุทธ์-ประวิตร ต้องเร่งปิดเกมก่อน สว.หมดอำนาจ

การชิงจัดตั้งรัฐบาลรอบใหม่ก็จะเข้มข้นอีกครั้ง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ในหลวง พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายกฯ นำ ครม.ชุดใหม่ เฝ้าฯ ถวายสัตย์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีนำคณะรัฐมนตรี

'ดิจิทัลวอลเล็ต เสี่ยงได้ไม่คุ้มเสีย เหตุเพิ่มภาระหนี้ล้น กระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาวไม่ได้

อาจารย์ธรรมศาสตร์ หวั่น ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ได้ไม่คุ้มเสีย เหตุ ‘กระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาวไม่ได้’ แถมเพิ่มภาระหนี้ล้น สถานะการคลังน่าเป็นห่วง Worst-case scenario หากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจอีกครั้ง แนะรัฐบาลพิจารณาให้รอบคอบ ยังมีอีกหลายวิธีที่ทำให้เกิดประสิทธิภาพมากกว่า

เลขาฯเพื่อไทย ชี้นายกอบจ.ทยอยลาออก เป็นยุทธศาสตร์ของแต่ละคน

นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหลายคน ทยอยยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งนายกอบจ. ที่ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทยจะมีใครลาออกหรือไม่นั้น