สถานการณ์ในเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ตรงข้ามกับ อ.แม่สอด จ.ตาก ขณะนี้หลังกองกำลังผสม นำโดยกองทัพปลดปล่อยชาติกะเหรี่ยง (Karen National Liberation Army-KNLA) ยึดฐานทหารพม่าได้ 3 ฐาน และในฐานบัญชาการมีการมอบตัวซึ่งกองกำลังผสมสามารถควบคุมเมืองเมียวดีได้ 90% แต่ยังมีที่ค้างอยู่ 1 ฐาน คือ ค่ายผาซอง ห่างจากแนวชายแดนไทยประมาณ 5 กิโลเมตร ซึ่งเป็นที่ตั้งของ บก.พัน.ร.275, กองพันปืนใหญ่ที่ 310 และ บก.พล.ร.เบา 44 ส่วนหน้า ซึ่งในค่ายผาซองมีกำลังพลอยู่ประมาณ 400 คน แนวโน้มสถานการณ์จะนำไปสู่การเสียพื้นที่ และสูญเสียอำนาจในการปกครอง
กลุ่มต่อต้านเจรจาเพื่อให้ยอมแพ้อยู่ แต่ตลอดช่วงเช้าถึงบ่ายวานนี้ ฝ่ายทหารเมียนมาในค่ายนี้ยังไม่ตอบรับ เนื่องจากเป็นที่ตั้งสำคัญ และมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงคือ ผบ.พล.ร.เบา 44 อยู่ด้วย แต่คาดว่าฝ่ายทหารเมียนมาไม่สามารถส่งกำลังมาเพิ่มเติม หรือให้การสนับสนุนได้ อาจจะต้องรอดูผลการต่อรองในที่สุด
จากจุดเริ่มของพันธมิตรกลุ่มต่อต้าน 3 กลุ่มหลักภายใต้ชื่อ กลุ่มภราดรภาพ ที่มีกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์โกก้าง ตะอาง อาระกัน ในการใช้กำลังเข้ายึดพื้นที่ต่างๆ ในเมียนมาซึ่งถือว่ามีศักยภาพสูงในการสู้รบ อีกทั้งมีตัวแปรสำคัญคือมีประชาชนเข้าร่วมในกองกำลัง รวมทั้งกลุ่มย่อยอื่นๆ ด้วย
ฝ่ายรัฐบาลพ่ายแพ้จากกลุ่มต่อต้านอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นธรรมชาติทางทหารต่อเรื่องขวัญกำลังใจ เมื่อเห็นว่าฐานที่มั่นอื่นๆ ถูกโจมตีและสูญเสีย และมีกำลังพลที่ยอมจำนนและหนีทัพเป็นจำนวนมาก รวมถึงอาวุธฝ่ายทหารเมียนมาถูกยึดไปอยู่ในการครอบครองของกลุ่มต่อต้าน ส่งผลให้เพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพให้ฝ่ายรุก ทำตลอด 6 เดือนที่ผ่านมากลุ่มต่อต้านจึงได้รับชัยชนะอย่างเห็นได้ชัด
ย้อนกลับมาที่เมือง “เมียวดี” ซึ่งถือเป็น เมืองเศรษฐกิจที่สำคัญ ยุทธวิธีการรบเป็นไปในลักษณะการชิงเมือง ซึ่งมีนัยทางด้านสงครามและเรื่องการค้า ผลประโยชน์ปนๆ กันอยู่ เนื่องจากเมืองดังกล่าวเป็นศูนย์กลางการค้า ที่ตั้งของธุรกิจสีเทาจากจีนเข้ามาปักหลักสร้างอาณาจักร รวมถึงมีการลงทุนสร้างหมู่บ้านจัดสรรขึ้นมาในพื้นที่กว้างขวาง ทำให้มีเม็ดเงินที่หมุนเวียนอยู่ในนี้จำนวนไม่น้อย ทหารเมียนมาจึงต้องพยายามปกป้องเมืองเมียวดีเอาไว้
ที่สำคัญ มี “หม่อง ชิต ตู่” อดีตแกนนำกองกำลังพิทักษ์ชายแดน หรือ BGF ถอนตัวจากรัฐบาลเมียนมา แต่ตอนนี้ตั้งตัวเป็นคนกลางดูแลไม่ให้เมือง “เมียวดี” เป็นสนามรบ เนื่องจากกลุ่มของ “หม่อง ชิต ตู่” มีผลประโยชน์จากการค้าขายในเมืองเมียวดี ขณะเดียวกันผลประโยชน์ของจีนก็ให้ “หม่อง ชิต ตู่” ดูแลด้วย
สำหรับผลกระทบต่อไทย ต้องยอมรับว่าเมืองเมียวดีรับสินค้าจากฝั่งไทยจำนวนมาก ผู้ประกอบการไทยค้าขายกับเมียนมาหลายสิบปีก็จะเกิดความระส่ำระสายพอสมควร แต่ปัจจุบันก็ยังเห็นว่ามีการเปิดทำมาค้าขายอยู่เป็นปกติ เพราะ “หม่อง ชิต ตู่” เป็นผู้คุมเกม และประสานงานเพื่อไม่ให้เกิดการสู้รบที่หนักไปกว่านี้
สถานการณ์ในภาพรวมเชื่อว่าผู้นำเมียนมารู้ดีว่ากองทัพของตนเองเสียหลักไปมาก คนที่เข้ามาประสานงานในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาคือฝ่ายจีน โดยการเชิญทุกฝ่ายที่สู้รบ รวมถึงฝ่ายรัฐบาลเมียนมาไปคุยกันที่เมืองคุนหมิง 4 ครั้ง และที่ปักกิ่ง 1 ครั้ง เพื่อพยายามดูแลสถานการณ์ในเมียนมาไม่ให้เกิดความรุนแรงมากไปกว่านี้ เพราะผลประโยชน์ของจีนมีทั้งก๊าซ น้ำมัน ท่าเรือน้ำลึก การลงทุนต่างๆ มีมูลค่ามหาศาล
มีการคาดการณ์ในอนาคตว่า หากฝ่ายกะเหรี่ยงหรือกลุ่มต่อต้านสามารถยึดเมืองเมียวดีไว้ทั้งหมด สิ่งที่จะเกิด 2 ประการคือ ฝ่ายเมียนมาสามารถเจรจากับกลุ่มกะเหรี่ยงได้ มีการแบ่งภาษีกัน ก็จะทำให้การค้าขายสามารถเดินหน้าต่อไปได้ และหากฝ่ายเมียนมาใช้ความรุนแรงปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในแหล่งชุมชนและพื้นที่เศรษฐกิจ ก็จะเกิดผลกระทบกับประเทศไทย คือ น่าจะมีผู้อพยพหนีข้ามมาเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม พลเอกนิพัทธ์ ทองเล็ก ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงกับประเทศเพื่อนบ้าน มองว่า ผลกระทบกับไทยอย่างแรกคือผู้หนีภัยจากการสู้รบ อย่าลืมว่าสถานการณ์ในบริเวณชายแดนประเทศเมียนมาไม่ได้เพิ่งเกิด ปัจจุบันมีผู้ตกค้างอยู่ในประเทศเราถึง 9 หมื่นคนที่อยู่ใน 7 ศูนย์อพยพ ต้องใช้งบประมาณในการดูแลพอสมควร ดังนั้นเราต้องเข้มแข็ง และมีความชัดเจนในการช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมอย่างมีขอบเขต ภายใต้หลักการที่เรายังต้องทำต่อไป ส่วนแนวโน้มสถานการณ์จะไปทางไหนเชื่อว่า ทางเมียนมาคงไม่ได้ล่มสลายภายในปีเดียว แต่จะค่อยๆ ทรุดลง
พลเอกนิพัทธ์มองว่า ครั้งนี้กองทัพเมียนมาสูญเสียมาก กลุ่มต่อต้านสามารถตีรุกคืบได้หลายเมือง ยิ่งทำให้กลุ่มกองกำลังต่างๆ ฮึกเหิมและห้าวหาญมากขึ้น ซึ่งกองทัพเมียนมารู้ดีว่าเขาเสียหลักไปมากเหมือนกัน เมื่อถามถึงแนวคิดในการใช้กำลังทางอากาศเข้ายึดพื้นที่คืนในเมืองเมียววดีนั้น พลเอกนิพัทธ์กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลเขาใช้สูตรนี้ในการตอบโต้ฝ่ายต่อต้าน แต่สำหรับเมืองเมียวดีนั้นเชื่อว่าจะไม่ใช้แนวทางนี้ เพราะพื้นที่ดังกล่าวสำคัญในเรื่องเศรษฐกิจและมีตัวประสานเป็นการนำกลุ่มที่ดูแลผลประโยชน์ตรงนี้อยู่ จึงเชื่อว่าจะใช้การต่อรองกันเป็นหลัก
ในส่วนของไทย ในการเป็นตัวกลางเจรจานั้น พลเอกนิพัทธ์กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายในการจะไปบอกให้ทุกฝ่ายหยุดการสู้รบ เพราะสงครามในเมียนมาเป็นเรื่องผลประโยชน์ของแต่ละกลุ่มที่ต้องการเป็นรัฐอิสระ บทบาทหลักน่าจะอยู่ที่จีน และญี่ปุ่น รวมถึงอินเดีย ที่ช่วยด้านการพัฒนา โดยเฉพาะจีนแสดงบทบาทมาตั้งแต่ต้นและมีความใกล้ชิดกับทางเมียนมา ซึ่งคงต้องติดตามดูสถานการณ์ต่อไป
ขณะที่ นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ (กมธ.) สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงสถานการณ์ที่กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นยูได้ยึดเมืองเมียวดี ตรงข้ามแม่สอด และในขณะนี้มีผู้อพยพหนีภัยสงครามข้ามแดนมาแล้วบางส่วนนั้น ในเรื่องนี้คณะ กมธ.ต่างประเทศได้เคยมีข้อเสนอแนะถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง 4 ข้อ ซึ่งยังใช้ได้ทุกข้อ ดังนี้ รีบตั้งกลไกติดตามสถานการณ์ในเมียนมาอย่างใกล้ชิด, มีแผนรองรับผู้อพยพหนีภัยสงครามและผลกระทบการสู้รบในเมียนมา, ช่วยเหลือทางมนุษยธรรมให้ครอบคลุมทั้งคนเมียนมาและชนกลุ่มน้อยที่ได้รับผลจากการสู้รบ, ผลักดันการเจรจาสันติภาพในเมียนมาโดยผ่านกลไก "ทรอยก้าพลัส" ไทยควรเป็นหัวหอกเชิญประธานอาเซียน จีน อินเดีย เข้ามาผลักดันการเจรจาสร้างสันติภาพในเมียนมา ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ตรงเป้าที่สุดและได้จังหวะเวลาที่สุด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แถลงผลงาน3เดือน‘รัฐบาลอิ๊งค์’ โชว์อนาคตประเทศ รอดหรือร่วง?
ได้เวลาตีปี๊บผลงานรัฐบาล 90 วันของ “นายกฯ อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี วันนี้ 12 ธันวาคม 2567 ในหัวข้อ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง” (2025 Empowering Thais : A Real Possibility) ซึ่งจัดเป็นครั้งแรกของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) พร้อมถ่ายทอดสดให้คนไทยได้รับชม
นายกฯ อิ๊งค์บอกข่าวดี! เมียนมาจะปล่อย 4 คนไทยหลังปีใหม่
นายกฯ เผยข่าวดีปม 4 คนไทยเรียบร้อยหลังปีใหม่ ส่วนเรื่องคดีความต้องคุยกันต่อ
กม.สกัดรัฐประหาร‘ส่อแท้ง’ พรรคร่วมไม่อิน-ไม่เอา
ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่...) พ.ศ. .... ฉบับ ‘หัวเขียง’ ที่นายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยเสนอ ส่อแวว ‘แท้ง’ ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มต้น
จับ“ไทย”ชน“เมียนมา” เด้งเชือกรับมือเกมมหาอำนาจ
หลังจากที่กองกำลัง “ว้าแดง” ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงข่าวลือความตึงเครียดระหว่างทหารไทยกับว้าแดงบริเวณชายแดน อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ทำให้ “ข่าวลือ” ดังกล่าวเริ่มเบาเสียงลง
'ภูมิธรรม' แจงเหตุเมียนมายังไม่ปล่อยตัว 4 คนไทย ยันทำทุกวิถีทางแล้ว
'ภูมิธรรม' แจง 4 คนไทยยังกลับไม่ได้ เหตุรอรัฐบาลเมียนมาตัดสินใจ ยํ้าทำทุกวิถีทางแล้ว หากเกิดในประเทศไทยต้องทำเช่นกัน ปัดโยงการเมือง
พท.ยึดอำนาจกองทัพ สกัดลากรถถังตรึงทำเนียบฯ
เรียกเสียงครางฮือไปทั่วแวดวงทหารและแวดวงการเมือง กับการขยับของ สส.เพื่อไทย ที่เข้าชื่อกันเสนอร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม เข้าสภาฯ ที่ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นประชาชนผ่านเว็บไซต์ของสภาฯ