‘แม้ว’ ไล่ทุบ- ‘ภูมิใจไทย’ ไม่หมู ‘แดง-น้ำเงิน’ ทนอยู่แบบตบจูบ

“จับปฏิกิริยาของพรรคภูมิใจไทยผ่านการลงมติในสภาผู้แทนราษฎรล่าสุด สะท้อนให้เห็นเหมือนกันว่าค่ายสีน้ำเงินก็ไม่ได้หงอ ส่วนหนึ่งอาจเพราะพวกเขารู้ว่าพรรคเพื่อไทยยังไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้”

นาทีนี้ศึกฝ่ายค้าน-รัฐบาลยังไม่เดือดเท่ากับศึกรัฐบาลด้วยกันเอง

แรงขึ้นเรื่อยๆ สำหรับการขบเหลี่ยมของพรรคอันดับ 1 และพรรคอันดับ 2 ในรัฐบาล ระหว่าง "พรรคเพื่อไทย" กับ "พรรคภูมิใจไทย"  

งัดกันแรง หากใครไม่รู้นึกว่าอยู่กันคนละฝั่ง

"พรรคเพื่อไทย" และ "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำจิตวิญญาณค่ายสีแดง เปิดฉากใส่แบบไม่มีกั๊ก ไม่มีเก็บอารมณ์ แม้ไม่ได้เอ่ยชื่อ แต่หลายคนรู้ว่าน่าจะหมายถึงค่ายสีน้ำเงิน

เริ่มตั้งแต่งานสัมมนาพรรคเพื่อไทยที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระหว่างบรรยายพิเศษ "ทักษิณ" ใช้จังหวะหลายช่วงทั้งแขวะ ทั้งแซะ "พรรคร่วมรัฐบาล" โดยเฉพาะเรื่องการทำงาน

“ถ้าอยู่ด้วยกันก็ต้องด้วยกันสิ วันหลังไม่อยากอยู่ต้องบอกให้ชัดเจน เราเป็นคนพูดรู้เรื่อง ห้ามหนี ต่อไปใครหนีก็บอกว่าถ้าหนีก็ส่งใบลาออกมาด้วย ง่ายดี ผมเป็นคนเกลียดพวกอีแอบ ตรงไปตรงมาง่ายๆ อยู่ก็อยู่ ไม่อยู่ก็ไม่ต้องอยู่ ถ้าอยู่ก็ต้องสู้ด้วยกัน”

หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตไปที่ 2 พรรคร่วมที่ "ทักษิณ" คุมไม่ได้คือ "พรรคภูมิใจไทย" กับ "พรรครวมไทยสร้างชาติ" แต่ให้น้ำหนักไปที่รายแรกมากกว่า

เพราะไม่กี่วันก่อนหน้านั้น ระหว่างช่วยผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี "ทักษิณ" เพิ่งจะแขวะพรรคภูมิใจไทยที่ออกมาคัดค้านร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ที่นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอ 

“พรรคภูมิใจไทยอาจจะพูดเร็วไปหน่อย ยังไม่ได้ถามว่าตกลงเป็นมติของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ซึ่งภูมิใจไทยรีบหล่อเร็วไปนิด ขอให้หล่อช้าๆ หน่อย และไม่ต้องอธิบาย เพราะพรรคร่วมรัฐบาลต้องฝึกการทำงานร่วมกัน”

กับคนที่เก็บอาการไม่เก่งอย่าง "ทักษิณ" ดูแล้วน่าจะมีอะไรในใจเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของพรรคภูมิใจไทยมาสักพักใหญ่ๆ แล้ว

ขณะเดียวกันยังพอสะท้อนให้เห็นว่า ผู้นำจิตวิญญาณค่ายสีแดงยังไม่สามารถละความโกรธในอดีตกับคนชื่อ "เนวิน ชิดชอบ" ได้ รวมถึงไม่ได้มองพรรคภูมิใจไทยเป็นมิตร หากแต่เป็นหุ้นส่วนธุรกิจที่ต้องทำงานร่วมกันเพราะไม่มีทางเลือกอื่นเท่านั้น

ปฏิเสธไม่ได้ว่าพรรคภูมิใจไทยคือ "ตัวแปร" สำคัญในหลายเรื่องที่ทำให้เป้าหมายของพรรคเพื่อไทยสะดุด ไม่ว่าจะเป็นร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ที่ส่งผลต่อระยะเวลาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อภิมหาโปรเจกต์อย่างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เรื่อยมาจนถึงกฎหมายสกัดรัฐประหาร

เรื่องพวกนี้สะดุดหมดเพราะพรรคภูมิใจไทยไม่เอาด้วย ซึ่งมันสร้างความหงุดหงิดใจให้กับพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำรัฐบาล

คำพูดของนายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ระหว่างการลงมติร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ น่าจะใกล้เคียงกับความรู้สึกของคนในพรรคเพื่อไทยที่มีต่อพรรคภูมิใจไทยตอนนี้ได้เป็นอย่างดี

“ผมพูดด้วยน้ำตา พรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน แถลงนโยบายด้วยกันว่าจะเร่งจัดทำรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้นโดยเร็วที่สุด โดยยึดโยงประชาชนและหลักการประชาธิปไตย พรรคร่วมทุกพรรคต้องปฏิบัติตามนี้ ไม่เช่นนั้นจะลงเรือลำเดียวกันได้อย่างไรต่อไป”

หรือกรณีการเสียชีวิตของ "สจ.โต้ง" ชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ มูลเหตุและแรงจูงใจสำคัญมาจากการที่ "สจ.โต้ง" จะให้ภรรยาลงชิงเก้าอี้นายก อบจ.ปราจีนบุรี ในนามพรรคเพื่อไทย จนขัดแย้งกับ "บ้านใหญ่วิลาวัลย์" ของนายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี ซึ่งทำการเมืองระดับชาติกับพรรคภูมิใจไทย

โดย "ทักษิณ" ออกตัวชัดว่าสนับสนุนภรรยา สจ.โต้ง พร้อมประกาศจะกวาดล้างผู้มีอิทธิพล ซึ่งพรรคการเมืองที่มีเหล่า "บ้านใหญ่" ตามจังหวัดต่างๆ อยู่ในสังกัดมากที่สุดคือ พรรคภูมิใจไทย

"ทักษิณ" กำลังเปิดปฏิบัติการทวงคืนพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดที่พรรคภูมิใจไทยเข้าไปครอบครอง ทั้งในการเมืองท้องถิ่นและการเมืองระดับชาติ

เรียกว่า "ทักษิณ" และ "พรรคเพื่อไทย" เปิดฉากบู๊ใส่พรรคภูมิใจไทยแรงๆ ต่อเนื่อง

หากแต่ดูเหมือนว่าค่ายสีน้ำเงินจะไม่เกรงกลัว โดยเฉพาะช็อตล่าสุด ที่แม้ "ทักษิณ" จะแซะต่อเนื่อง และพรรคเพื่อไทยกดดันเรื่องร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ แต่ สส.ของค่ายสีน้ำเงินกลับโหวตไปคนละทิศกับพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ

มิหนำซ้ำก่อนลงมติ "ไชยชนก ชิดชอบ" เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ลูกชายของ "เนวิน" ยังลุกขึ้นสวนหมัดใส่นายอดิศรแบบแสบๆ คันๆ  

จับปฏิกิริยาของพรรคภูมิใจไทยผ่านการลงมติในสภาผู้แทนราษฎรล่าสุด สะท้อนให้เห็นเหมือนกันว่าค่ายสีน้ำเงินก็ไม่ได้หงอ

ส่วนหนึ่งอาจเพราะพวกเขารู้ว่าพรรคเพื่อไทยยังไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ เพราะพรรคภูมิใจไทยยังมีความจำเป็น และสถานการณ์ขณะนี้ยังไม่เหมาะที่จะหักกัน 

แม้พรรคภูมิใจไทยจะมีเพียงเสียงในสภาผู้แทนราษฎร 71 คน ยังไม่รวมงูเห่าที่เลี้ยงไว้ แต่ยังมีกลไกอื่นที่สามารถให้คุณให้โทษกับพรรคเพื่อไทยได้ ไม่ว่าจะเป็นวุฒิสภาที่มีเป็นขุมข่ายอำนาจสำคัญ ทั้งเรื่องการผ่านกฎหมายและการคัดเลือกบุคคลเข้าไปดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ 

โดยเฉพาะองค์กรอิสระ ที่หลังจากค่ายสีน้ำเงินสร้างฐานที่มั่นในสภาสูงได้ ทำให้มีอำนาจในการคัดสรรคนเข้าไปทำหน้าที่ตามองค์กรต่างๆ

ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา "องค์กรอิสระ" คือตัวปิดเกมบรรดานายกฯ และคณะรัฐมนตรีที่มาจากพรรคเพื่อไทยมาแล้วหลายคน   

ต่อให้กำจัดพรรคภูมิใจไทยได้ แต่เครือข่ายเหล่านี้ก็ยังดำรงอยู่ ฉะนั้น คนที่ไม่หมูจริงๆ คือ "ค่ายสีน้ำเงิน"

อย่างไรก็ดี แม้ความสัมพันธ์ของสองพรรค "แดง-น้ำเงิน" จะไม่ค่อยราบรื่น หากแต่ต่างฝ่ายต่างยังต้องเดินเบียดกันไปแบบนี้จนสุดทาง

พรรคเพื่อไทยไม่กล้าพลิกขั้วไปจับมือกับพรรคก้าวไกลในเทอมนี้ ในขณะที่พรรคภูมิใจไทยก็ยังไม่มีกองกำลังมากพอที่จะพลิกขึ้นมานำเองในชั่วโมงนี้ได้เหมือนกัน 

ทางเดียวที่พรรคเพื่อไทยจะทอนอิทธิฤทธิ์ของพรรคภูมิใจไทยได้คือ สนามเลือกตั้ง ด้วยการทวงคืนพื้นที่ที่เสียให้พรรคภูมิใจไทยกลับคืนมาให้ได้มากที่สุด และทำให้ตัวเล็กที่สุดในสภาผู้แทนราษฎร

จึงไม่แปลกที่ "ทักษิณ" จะเดินสายช่วยผู้สมัครนายก อบจ.หาเสียงแบบถี่ยิบ เพื่อเริ่มต้นปลุกชีพกองกำลังและฐานที่มั่นซึ่งเคยเป็นของตนเองขึ้นมาใหม่  

พรรคเพื่อไทยจะตัวใหญ่เหมือนเดิมได้ และสู้กับพรรคประชาชนได้ จึงต้องเริ่มจากการทวงคืนจากพรรคภูมิใจไทย

และความเข้มข้นระหว่างสองพรรคจะเดือดขึ้นมากๆ ในการเลือกตั้ง สส.ครั้งหน้า

ปัจจุบันก็ทนอยู่กันไปแบบตบจูบๆ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ไอติม' เลี่ยงยื่นซักฟอก ใช้กลไกอื่นตรวจสอบรัฐบาลแทน

'พริษฐ์' ปัดตอบยื่นซักฟอกรัฐบาล ขอใช้กลไกอื่นของสภาตรวจสอบเข้มข้นแทน เชื่อถกแก้ รธน. วาระ 2 จบภายใน 3 วัน นัดประชุมวิปฝ่ายค้านวางกรอบ 9 ธ.ค.

รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%

'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2

'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'

นายกฯ ประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตร ถวายพระราชกุศล 'ร.9'

นายกฯ เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 'ในหลวง ร.9' วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค. 2568