สถานการณ์การเมืองตอนนี้ ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านเริ่มกดดันกันไปมา โดยเฉพาะฝ่ายค้านที่หลังจากนี้จะเปิดเกมนับองค์ประชุม ซึ่งถือเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับจัดการรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ที่มีเสียงห่างกันไม่กี่สิบเสียงเท่านั้น
ถ้านับนิ้วจะพบว่า รัฐบาลมี 255 เสียง ฝ่ายค้าน 239 เสียง ทว่า ในฝ่ายค้านก็ดูจะมีงูเห่าซ่อนตัวอยู่ อย่างเช่นพรรคพลังประชารัฐ ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และพรรคไทยสร้างไทย ที่มีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นหัวหน้า มี สส. 6 คน แต่เป็น สส.หักหลังพรรคไปแล้ว 3 คน
การแก้เกมนี้ เป็นหน้าที่ของ “วิสุทธิ์ ไชยณรุณ” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ถึงกับต้องออกปาก รอบแรกขอร้อง สส.ให้ความร่วมมือในการประชุมสภาฯ ให้อยู่ร่วมประชุมกันจนเลิก ห้ามป่วย ห้ามตาย!! ห้ามสาย ห้ามลา ห้ามขาด การประชุมสภาฯ จะได้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
และขอทุกคนมีกำลังใจทำหน้าที่ในสภาฯ หากเราร่วมแรงร่วมใจกันการประชุมอยู่ได้ ส่วนคนที่เป็นรัฐมนตรี และเป็น สส.ด้วยนั้น ขอให้วันพุธ พฤหัสบดี หอบงานมาทำที่สภาฯ และขอให้ไปประสานรัฐมนตรีพรรคอื่นด้วย มั่นใจว่า การทำงานหลังจากนี้ยิ่งเหลือน้อย ยิ่งรักกันมาก ความสามัคคีเกิด ปัญหาองค์ประชุมล่มคงจะไม่มี
ถึงแม้ว่าขณะนั้นรัฐบาลจะมีความมั่นใจเป็นอย่างมาก ว่าเสียงปริ่มน้ำของตนเองจะไม่เป็นผลเสียต่อองค์ประชุม ทั้งที่เรื่องนี้ค้านสายตาคอการเมืองก็ตาม
แต่เรื่องเทสระบบของฝ่ายค้านชุดนี้เป็นที่เลื่องลือว่าเอาจริงแน่นอน จึงเล่นเกมนับองค์ประชุม ถึงแม้ภายหลังจะบอกว่าไม่ใช่เป็นการเล่นเกม แต่ใครๆ ก็รู้ว่า นี่แหละคือเกม ซึ่งท้ายที่สุดประธานที่ประชุมก็ชิงปิดหนีสภาล่มไปเสียก่อน
เรื่องร้อนถึง “วิสุทธิ์” ที่ต้องออกมาพูดลงแส้อีกครั้งว่า วันประชุมสภาฯ ทุกวันพุธ และพฤหัสฯ ขอให้ประชาชนสอดส่องดูว่า ผู้แทนฯ ต้องไม่อยู่ในพื้นที่ ต้องมาทำหน้าที่ในสภา ซึ่งใน 1 เดือน ขอแค่ 8 วัน เงินเดือนหลักแสนบาท ต้องทำหน้าที่ในสภา ต่อไปนี้ถ้าสภาล่ม ใครไม่อยู่ในที่ประชุม ไม่ว่าจะเป็น สส.หรือรัฐมนตรี ที่เป็น สส. หากไม่อยู่ประชุม ตนจะเปิดเผยรายชื่อต่อสื่อมวลชน ให้ประชาชนได้ทราบว่าบุคคลนั้นละทิ้งหน้าที่ ไม่รับผิดชอบงานสภา
“ขอแค่อาทิตย์ละ 2 วัน ไม่สามารถทำได้ ทั้งที่ต้องรับผิดชอบร่วมกัน เดี๋ยวจะเปิดเผยให้ทราบว่าใครบ้างที่ขี้เกียจ สันหลังยาว พี่น้องจะได้รู้ ต่อไปจะได้ไม่ต้องเลือกอีก จะได้ทราบ จะได้เห็นชัดเจน” นายวิสุทธิ์กล่าว
พูดได้เลยว่าเรื่องนี้กดดันไปถึงรัฐมนตรีที่เป็น สส.ด้วย ยิ่งเป็น สส.แบ่งเขต ก็จะให้คนในพื้นที่วิจารณ์การทำงานในสภาฯ ว่าไม่มีความรับผิดชอบ เพราะหากเปิดชื่อ ประชาชนก็จะรู้ว่า สส.ในเขตหรือคนที่ตัวเองเลือกเป็นอย่างไร
ส่วนเรื่องการลาออกของรัฐมนตรีป้ายแดงที่ควบตำแหน่ง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยนั้น มี 3 คน ได้แก่ “ชูศักดิ์ ศิรินิล” “พ่อมดดำ” สุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ “หญิง” ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่โดนสมาชิกในพรรครุมจวก ให้ลาออกจาก สส.เพื่อให้ไปดำเนินการเรื่องรัฐมนตรีให้เต็มที่ และให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปขึ้นมาแทน จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่ององค์ประชุม
ล่าสุด “พ่อมดดำ” และ “ลิณธิภรณ์” จ่อจะลาออกจาก สส.บัญชีรายชื่อ ส่วน “อาจารย์ชู” เป็นบุคคลสำคัญเรื่องกฎหมาย อาจจะต้องควบคู่ตำแหน่ง สส.และรัฐมนตรี เป็นกรณียกเว้น
ปัญหาใหญ่สำคัญในขณะนี้ของพรรคแกนนำรัฐบาลคือ ในสภาฝ่ายรัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำ เป็นงานยากที่จะผลักดันนโยบายต่างๆ ผ่านร่างกฎหมายต่างๆ ซึ่งเรื่องนี้ “พรรคเพื่อไทย” แจงว่า จากปัญหาที่บอกว่าเราไม่สามารถดำเนินนโยบายได้ เพราะเสียงในสภาปริ่มน้ำหรือเกินครึ่งไม่มากนั้น เรื่องนี้ได้มีการกำชับกับพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคผ่านกลไกของวิปรัฐบาล ตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา และในวันที่ 9 ก.ค. เราจะดำเนินการเพื่อรักษาองค์ประชุมอย่างเข้มข้น เพราะการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลนอกเหนือจากของฝ่ายบริหารแล้ว ฝั่งนิติบัญญัติซึ่งเป็นสภาผู้แทนราษฎรก็มีความสำคัญเช่นกัน เราเชื่อมั่นว่าเราจะรวบรวมเสียงของทุกพรรคการเมืองในฝั่งของรัฐบาลมาเป็นองค์ประชุม และสามารถดำเนินนโยบายของฝั่งนิติบัญญัติควบคู่กันได้อย่างลุล่วง
วาระแรกที่ต้องลุ้นว่าจะล่มหรือไม่ล่ม ในวันที่ 9 ก.ค.นี้คือ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ.....(คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ) ถ้าไม่มีคนยกมือคัดค้านก็สามารถเอาออกได้เลย แต่ถ้ามีคนคัดค้านก็ต้องโหวตกัน ซึ่งแน่นอนว่าต้องนับองค์ประชุม
ดังนั้นรอดูว่าด่านนับองค์ประชุมด่านแรก สส.ฝั่งรัฐบาลจะสามัคคีผ่านพ้นด่านองค์ประชุมไปได้หรือไม่ แต่อย่างนั้นท้ายที่สุด หากสภาล่มเรื่อยๆ ก็จะเป็นข้ออ้างนำไปสู่การยุบสภา เพราะหมดความชอบธรรม เนื่องจากรัฐบาลไม่สามารถคุมเสียงข้างมากได้ และข้อหาที่สำคัญอีกประการ คือ ไม่สามารถในการขับเคลื่อนเรื่องกฎหมายได้อีกต่อไป
หากฝ่ายค้านเล่นเกมนับองค์ประชุมบ่อยครั้ง ก็ทำงานต่อไม่ได้ ทั้งเรื่องกรรมาธิการ เรื่องกฎหมาย นั่งกันไม่ติด วิ่งวุ่นกันทั้งสภาฯ ดูท่าแล้วรัฐบาลชุดนี้น่าจะลำบากเรื่องเสียง สส. แม้กระทั่งจะขอนับยังลำบาก หรือนี่อาจจะเป็นการเปิดทางให้นายกฯ ชิงลาออก หรือในอนาคตถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ แพทองธาร ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป นายกฯ ก็อาจต้องตัดสินใจยุบสภาให้มันรู้แล้วรู้รอด แล้วกลับไปเลือกตั้งใหม่.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คิกออฟเลือกตั้ง69เช็กความพร้อมกกต. เปิดคู่มือผู้สมัครสส.ก่อนออกหาเสียง
ประเทศไทยกำลังเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ครั้งใหม่ หลังจากพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2568 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.2568
‘เท้ง’พลาดซ้ำ รีบผลัก‘ภท.’ พา‘พรรคส้ม'ผูกมัดตัวเอง
ไม่ว่าจะคิดมาดีแล้ว หรือไม่ทันระวัง การรีบประกาศว่า หากพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล พรรคประชาชนจะไปเป็นฝ่ายค้านของ ‘เท้ง’ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ถือเป็นเรื่องที่นักเลือกตั้งซึ่งมีประสบการณ์ทางการเมืองสูงไม่เลือกจะทำ
'โอ๊ค' เข้าเยี่ยม 'ทักษิณ' คุยเรื่องหลานๆ พร้อมฝากให้กำลังใจ 'ยศชนัน'
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณด้านหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม ถนนงามวงศ์วาน กรุงเทพมหานคร ระหว่างการเดินทางเข้าเยี่ยม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการเข้าเยี่ยมครั้งที่ 27 ภายหลังถูกคุมขังครบ 3 เดือน เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา การเข้าเยี่ยมครั้งนี้มี นายพานทองแท้ ชินวัตร หรือโอ๊ค บุตรชายคนโตของนายทักษิณ ชินวัตร
ท็อปไฟว์5ข่าวดังการเมืองไทย68 ยุบสภาฯไคลแมกซ์ปิดท้ายปี
นับถอยหลังเหลือเวลาอีกแค่สัปดาห์เศษก็จะสิ้นปี 2568 เข้าสู่ปีใหม่ 2569 ที่เป็นปีมะเมีย ซึ่งตำราโหราศาสตร์บางสำนักบอกว่า จะเป็นปีม้าธาตุไฟ โดยการเมืองไทยปี 2569 เรื่องสำคัญที่สุดก็คือ การเลือกตั้ง สส.ในวันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 ที่จะนำมาสู่การจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง
สนามเลือกตั้งเมืองหลวง-กทม. ศึกชิง33เก้าอี้-แย่งเสียงปาร์ตี้ลิสต์ พรรคส้มเหงื่อตก หลายพรรครอเจาะยาง
หนึ่งในสาเหตุทางการเมืองที่คนยังเชื่อว่า พรรคส้ม-พรรคประชาชน จะชนะการเลือกตั้งในวันที่ 8 ก.พ.2569 ก็เพราะมองว่า สนามเลือกตั้งเมืองหลวง กรุงเทพมหานคร ที่มี
แนวรบสุดท้ายสู้สแกมเมอร์ ปัจจัยที่ต้องปิดจ๊อบชายแดน
แม้สถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดน "ไทย-กัมพูชา" ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนอีสานใต้ ฝ่ายไทยจะสามารถยึดเป้าหมายในหลายพื้นที่ และ มีแนวโน้มที่ดีใน 13 แนวรบ แต่ก็ยังประมาทไม่ได้ เพราะดูเหมือนว่า "กัมพูชา"

