‘คมนาคม’เร่งสปีดลุยหนีบ’รัฐ-เอกชน’ถกเชื่อมรถไฟไทย-สปป.ลาว

ศักดิ์สยาม’เตรียมนำทัพ ‘Team Thailand’7 กระทรวงฯ-ผู้ประกอบการเอกชน ลงพื้นที่ สปป.ลาว 30 ส.ต.-1 ก.ย.นี้ ถกเชื่อมต่อรถไฟไทย-ลาว-จีน ผุดตั้งคณะทำงานร่วม 5 ประเทศ เพิ่มมาเลเซีย-สิงคโปร์ แก้ปัญหาคอขวด-คุ้มค่าการลงทุนเมกะโปรเจกต์ สั่ง ทล.ศึกษาสะพานมิตรภาพข้ามโขงแห่งที่ 7 ออกแบบรองรับรถไฟ-รถยนต์ คาดศึกษาเสร็จต้นปี 66 
 
8 ส.ค.2565-นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 30 ส.ค.-1 ก.ย. 2565 “Team Thailand” ซึ่งประกอบด้วย กระทรวงคมนาคม, กระทรวงการคลัง, กระทรวงการต่างประเทศ, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กระทรวงพาณิชย์, กระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงสาธารณสุข รวมถึงภาคเอกชน อาทิ สภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมลงพื้นที่ สปป.ลาว เพื่อหารือเกี่ยวกับโครงการเชื่อมต่อทางรถไฟ ช่วงหนองคาย–เวียงจันทน์ พร้อมทั้งนั่งรถไฟลาว-จีน เชื่อมไปยังหลวงพระบางด้วย โดยมีผู้บริหารระดับสูงของ สปป.ลาว และผู้ประกอบการเอกชนเข้าร่วมด้วย 
 
ทั้งนี้ การลงพื้นที่ในครั้งดังกล่าว เพื่อศึกษาสภาพและศักยภาพของพื้นที่ตลอดแนวเส้นทางของโครงการฯ เพื่อนำมาประเมินอุปทานด้านการคมนาคม และจัดทำแผนการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศไทย รองรับการขนส่งทั้งผู้โดยสาร และสินค้า รวมถึงศูนย์บริการตรวจคนเข้าเมืองแบบเบ็ดเสร็จในจุดเดียว (One Stop Service) ซึ่งถือเป็นการบูรณาการการเชื่อมโยงโครงข่ายทางรถไฟระหว่างไทย-ลาว-จีน ในการเพิ่มขีดความสามารถ และศักยภาพระบบโลจิสติกส์ไทยด้วยการขนส่งผ่านระบบราง ที่จะช่วยลดต้นทุนทางด้านเวลาและด้านโลจิสติกส์ 
 
“ได้มอบหมายให้กรมทางหลวง (ทล.) ไปดำเนินการศึกษาสำรวจออกแบบการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 7 หรือสะพานมิตรภาพไทย–ลาว (หนองคาย–เวียงจันทน์ แห่งที่ 2) เนื่องจาก ทล. มีประสบการณ์การก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย–สปป.ลาวมาแล้ว 6 แห่ง โดยจะใช้งบประมาณเหลือจ่าย วงเงินศึกษาประมาณ 10 ล้านบาท โดยจะใช้ระยะเวลาศึกษา 6 เดือน คาดว่า จะศึกษาแล้วเสร็จในช่วงต้นปี 2566”นายศักดิ์สยาม กล่าว 
 
ทั้งนี้ ทล.จะมีการศึกษาเปรียบเทียบว่า สะพานดังกล่าว จะรองรับรถไฟเพียงอย่างเดียว แต่เมื่อพิจารณาแล้วเมื่อสร้างสะพานแล้วก็ควรให้สามารถรองรับได้ทั้งหมด ทั้งรถยนต์, รถไฟความเร็วสูง และรถไฟทางคู่ แบบไม่ต้องรอหลีกทาง อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นเห็นด้วยว่า สะพ่นดังกล่าว จะมีทางรถไฟ ส่วนจะมีเส้นทางสำหรับรถยนต์หรือไม่นั้น จะต้องมีการหารืออีกครั้ง เนื่องจากทาง สปป.ลาว แจ้งว่า ใช้งบประมาณสูง ซึ่งในตามปกตินั้น การก่อสร้างจะลงทุนคนละครึ่งระหว่างไทย–สปป.ลาว 
 
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า ได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ไปพิจารณาถึงเส้นทางรถไฟจีน-ลาว ที่เป็นทางเดียว (Single Track) ขณะที่ ไทยเป็นทางคู่ โดยนายกรัฐมนตรีให้ไปพิจารณาว่า จะเกิดปัญหาคอขวดหรือไม่ นอกจากนี้ ยังรวมถึงเส้นทางด้านใต้เชื่อมต่อไปยังประเทศมาเลเซียด้วย ทั้งนี้ จากการหารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มาเลเซียไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น เห็นควรตั้งคณะทำงานร่วมกัน 5 ประเทศ ระหว่างจีน-ลาว-ไทย-มาเลเซีย-สิงคโปร์ โดยมีประเทศไทยเป็นคนกลางในการเชื่อมต่อดังกล่าว เพื่อแก้ปัญหาคอขวด และให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่มากที่สุด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลห่วงความปลอดภัยช่วงสงกรานต์ แนะศึกษาเส้นทางก่อนเดินทาง

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลห่วงใยความปลอดภัยของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2567 ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดยาวตั้งแต่ 12 - 16 เมษายน

รมช.คมนาคม ย้ำป้องกัน-ลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตนได้มอบนโยบายและเปิดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์