“แบงก์ชาติ”เหยียบเบรกมาตรการ LTV มั่นใจไม่กระทบผู้ซื้อรายได้น้อย คลังจ่อยืดมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ

31 ต.ค. 2565 – นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า จากทิศทางเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจน และทั่วถึงมากขึ้น และภาคอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มปรับดีขึ้นต่อเนื่องทั้งอุปสงค์และอุปทานรวมทั้งการจ้างงานในภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องทยอยปรับดีขึ้นดังนั้น ธปท.จึงเห็นควรไม่ต่ออายุมาตรการ LTV หรือหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่ออื่นที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัย ซึ่งจะครบกำหนดการผ่อนคลายชั่วคราวภายในวันที่ 31 ธ.ค.2565

ภายหลังจากมีการผ่อนคลายชั่วคราวจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 3 เมื่อวันที่ 3 เม.ย.2564 เพื่อต้องการเติมเม็ดเงินใหมเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีธุรกิจเกี่ยวเนื่องจำนวนมาก โดยการเพิ่มแรงจูงใจในการซื้อที่อยู่อาศัยให้กลุ่มผู้ที่มีกาลังซื้อ โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางขึ้นไปที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไม่มากนัก และมีความสามารถรองรับการก่อหนี้เพิ่มได้

“มองว่าการไม่ต่ออายุดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบหรือเป็นอุปสรรคต่อการซื้อที่อยู่อาศัยของกลุ่มผู้มีรายได้น้อย เนื่องจากเกือบทั้งหมดกู้ซื้อที่อยู่อาศัยหลังแรกที่มูลค่าต่ำกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งมาตรการ LTV ปัจจุบันสำหรับซื้อที่อยู่อาศัยหลังแรกที่ราคาไม่เกิน 10 ล้านบาทผ่อนคลายมากอยู่แล้ว โดยกำหนดการปล่อยสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) อยู่ที่ 100% อย่างไรก็ดี อาจจะกระทบลูกค้ากลุ่มที่มีรายได้สูง หรือราคาบ้านสูงกว่า 10 ล้านบาทเล็กน้อย เนื่องจากต้องวางเงินดาวน์เพิ่มเติมบางส่วนประมาณ 10-20%” นางสาวชญาวดี กล่าว

อย่างไรก็ดี หากการขยายระยะเวลาการผ่อนคลายมาตรการอาจเอื้อให้เกิดการสะสมความเสี่ยงในระบบการเงินในระยะต่อไปได้ เช่น การเก็งกำไรอสังหาริมทรัพย์โดยผู้มีรายได้ปานกลางถึงสูงและส่งผลต่อระดับหนี้ครัวเรือนให้เพิ่มสูงขึ้นในอนาคตได้ ดังนั้น มองไปข้างหน้าจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ทำให้การปรับทิศทางนโยบายการเงินจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป เหมาะสมกับบริบทเศรษฐกิจไทย (gradual and measured) ประกอบกับเป็นสัญญาณที่ดีต่อผู้ประกอบการที่จะมีความมั่นใจมากขึ้น

สำหรับตัวเลขการโอนอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2565 พบว่ามียอดการโอนขยายตัวสูงถึง 8.5% และจำนวนตัวเลขการเปิดโครงการใหม่เฉลี่ยอยู่ที่ 9,000 หน่วยต่อเดือน เทียบกับช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 ในปี 2562 จะเฉลี่ยอยู่ที่ 9,200 หน่วยต่อเดือน

“ในแง่มาตรการ LTV ถือเป็นมาตรการผ่อนคลายชั่วคราวมีการประกาศใช้ตั้งแต่เมื่อไร-31 ธ.ค. 65 ซึ่งเราดูสัญญาณและทบทวนแล้วว่าจะไม่ต่ออายุมาตรการชั่วคราว เมื่อครบกำหนดมาตรการก็จะกลับไปเหมือนเดิม ซึ่งมองว่าไม่ได้กระทบการซื้อบ้าน เนื่องจากสัดส่วนมากกว่า 86% เป็นการซื้อบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นบ้านหลังแรกที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริง และระดับบ้านเกิน 10 ล้านบาทอาจจะต้องเพิ่มเงินดาวน์บ้าง 10-20%”นางสาวชญาวดี กล่าว

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างการพิจารณาต่ออายุมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ในส่วนของการลดค่าธรรมเนียมการโอนและการจดจำนอง ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในปีนี้

“ผมยังไม่ทราบ และไม่แน่ใจเรื่องมาตรการ LTV เพราะเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของ ธปท. ในการพิจารณา ส่วนของคลังนั้น เรากำลังดูอยู่อยากทำเป็นแพคเก็จ ทั้งการลดค่าธรรมเนียมการโอน การจดจำนอง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการหารือกัน 2-3 รอบแล้ว อยากทำออกมาเป็นแพคเก็จที่ครอบคลุม จึงต้องมาดูภาพทั้งหมด” นายกฤษฎา กล่าว

อย่างไรก็ดี มาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์นั้น มีการกำหนดลดค่าธรรมเนียมการโอนจาก 2% เหลือ 0.01% ส่วนค่าธรรมเนียมการจดจำนองจาก 1% เหลือ 0.01%

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พิชัย' เซ็ง 'แบงก์ชาติ' ไม่ลดดอกเบี้ยถามสังคมแบบนี้ควรมีอิสระไหม!

'พิชัย' ผิดหวัง 'แบงก์ชาติ' ไม่ลดดอกเบี้ย ทั้งที่ภาพรวมเศรษฐกิจแย่ แต่กลับไม่เดือดร้อน ชี้ไม่ใช่หน้าที่แบงก์ชาติมากำหนดอัตราการเติบโต แนะอย่าอ้างว่าต้องอิสระบนความเดือนร้อนของประชาชน

นายกฯ แขวะ 'ธปท.' ชมคนพูดลดดอกเบี้ยจิตใต้สำนึกดี

'เศรษฐา' แขวะ 'แบงก์ชาติ' ไม่ยอมหั่นดอกเบี้ย ชมเปาะเหล่าทัพ-หน่วยงานรัฐ มีจิตสำนึกดีอยากให้ลด ขอบคุณเห็นความลำบากประชาชน ย้ำเรื่องหนี้สารตั้งต้นหายนะประเทศ

'กุนซือนายกฯ' กระทุ้งอีก! 'ธปท.' ต้องเร่งลดดอกเบี้ย

'พิชัย' ห่วงเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำ หลังเงินเฟ้อติดลบ 5 เดือนซ้อนสวนทางโลก จี้ ธปท. หั่นดอกเบี้ยนโยบาย ลดช่วงห่างเงินกู้เงินฝาก ตามสภาพัฒน์ฯ แนะนำ