คลังผนึก 18 หน่วยงานจัดมหกรรมร่วมใจแก้หนี้

“คลัง” ผนึก 18 หน่วยงาน จัดมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน ปูพรม 3 กิจกรรมช่วยลูกหนี้ ชูปรับโครงสร้างหนี้-สร้างรายได้-สร้างอาชีพ-สร้างภูมิคุ้มกันทางการเงิน

4 พ.ย. 2565 – นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง กล่าวว่า วันที่ 4-6 พ.ย. 2565 จะมีการจัดงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ครั้งที่ 1 เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงการคลัง ธปท. และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ และหน่วยงานพันธมิตร 18 หน่วยงาน เพื่อแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้หนี้ครัวเรือน โดยในงานจะมีกิจกรรมประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ 1. การแก้ไขปัญหาหนี้สินที่มีอยู่เดิม ผ่านการแก้ไขหนี้ การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ หรือการปรับเงื่อนไขการชำระนี้ 2. การสร้างรายได้ผ่านการสร้างอาชีพหรืออาชีพเสริม และ3. การสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ประชาชนด้วยการส่งเสริมทักษะในการประกอบอาชีพ เพื่อให้ประชาชนสามารถมีรายได้ที่เพียงพอและมั่นคง

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ ธปท. ได้มีการเปิดให้มีการลงทะเบียนเพื่อแก้ไขปรับปรุงโครงสร้างหนี้แบบออนไลน์ ซึ่งพบว่า มีจำนวนคนที่เป็นหนี้จริงลงทะเบียน 9.6 หมื่นราย คิดเป็น 2.4 แสนรายการ เพราะลูกหนี้บางรายเป็นหนี้มากกว่า 1 ประเภท โดยในจำนวนนี้กว่า 3.6 หมื่นราย หรือ 15% เป็นลูกหนี้ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ปัจจุบันภาพรวมการปล่อยสินเชื่อยังทำได้อย่างต่อเนื่อง มีการเติบโตมากขึ้น ขณะเดียวกันสถาบันการเงินก็มีการกันสำรองไว้ส่วนหนึ่งเพื่อใช้ในการดูแลลูกหนี้ที่อาจจะมีปัญหาในอนาคตต ส่วนหนี้เสียในระบบที่สามารถรวบรวมได้อย่างเป็นทางการ ณ ช่วงกลางปี 2565 พบว่า มีหนี้เสียในระบบทั้งสิ้น 8.53 แสนล้านบาท คิดเป็น 3.47% จากยอดสินเชื่อคงค้างทั้งสิ้น 24 ล้านล้านบาท โดยในจำนวนนี้แบ่งเป็นหนี้เสียของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ราว 3 แสนกว่าล้านบาท หรือ 5% และของธนาคาร

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินได้เตรียมมาตรการช่วยเหลือลูกค้าประชาชนและผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เตรียมไว้เป็นพิเศษสำหรับงานนี้ ได้แก่ มาตรการแก้หนี้ เงื่อนไขพิเศษสำหรับลูกหนี้ทุกประเภทสินเชื่อ โดยลูกหนี้ที่เป็นเอ็นพีแอลกรณีปิดบัญชี มีทั้งยกเว้นดอกเบี้ยที่ค้างชำระให้เต็มจำนวน ลดหนี้เงินต้นสูงสุด 20% หรือจ่ายเฉพาะเงินต้น กรณีผ่อนชำระธนาคารพักชำระเงินต้นให้ 1 ปี และลดอัตราดอกเบี้ย ส่วนลูกหนี้ที่ไม่เป็นเอ็นพีแอลแต่ผ่อนไม่ไหว มีผ่อนปรนให้เลือกพักชำระเงินต้น หรือลดอัตราดอกเบี้ย หรือขยายระยะเวลาการผ่อนชำระออกไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละประเภทสินเชื่อและร่วมพูดคุยเพื่อหาทางออกร่วมกัน ภายใต้ความตั้งใจของรัฐบาลที่ต้องการช่วยเหลือและแก้ปัญหาหนี้สินอย่างยั่งยืนให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบาง

สินเชื่อแก้หนี้เพิ่มทุน ซึ่งเป็นสินเชื่อตามมติ ครม.ภายใต้งานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้โดยเฉพาะ เป็นสินเชื่อผ่อนปรนเกณฑ์อนุมัติ อัตราดอกเบี้ยต่ำ โดยไม่ต้องมีหลักประกัน และไม่ต้องมีผู้ค่ำประกัน เพื่อนำเงินไปเสริมสภาพคล่องในการดำรงชีพ หรือลงทุนประกอบอาชีพ สำหรับผู้มีรายได้ประจำ /ประกอบอาชีพอิสระ ผู้ประกอบการรายย่อย/พ่อค้า/แม่ค้า/หาบเร่แผงลอย ให้กู้ไม่เกินรายละ 20,000 บาท ผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 2 ปี ปลอดชำระหนี้เงินต้น 6 งวดแรก คิดอัตราดอกเบี้ยคงที 0.35% ต่อเดือน (Flat Rate) ไม่ต้องใช้หลักประกัน
นอกจากมาตรการแก้หนี้และสินเชื่อแก้หนี้เพิ่มทุน ที่เป็นบริการหลักสำหรับงานนี้แล้ว ธนาคารยังได้จัดโปรโมชั่นเงินฝากในโอกาสนี้ด้วย ได้แก่ เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษเพื่อการเกษียณ 10 ปี เป็นเงินฝากระยะยาว สำหรับเก็บออมไว้ใช้ในยามเกษียณ รับฝากเฉพาะบุคคลธรรมดา เริ่มต้นฝากขั้นต่ำ 1,000 บาท ฝากสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท กำหนดดอกเบี้ยแบบ Step up จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นตามช่วงเวลาที่ธนาคารกำหนด สูงสุด 9% ในปีที่ 10 คิดเป็นดอกเบี้ยเฉลี่ย 3.45% ต่อปี (ดอกเบี้ยไม่เสียภาษี) เทียบเท่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 4.06% ต่อปี เพียงรับใบจองสิทธิ์ภายในงานนี้ แล้วไปฝากได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 4 – 30 พ.ย. 2565

นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า บสย. ได้เตรียม 3 มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ในงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ ได้แก่

1.มาตรการ บสย.พร้อมช่วย ผ่อนปรน ลูกหนี้ค้ำประกันสินเชื่อ 3 ระดับตามความสามารถในการชำระหนี้ เพื่อบรรเทาภาระหนี้ 3 ระดับ ได้แก่ 1.ตัดเงินต้น หนี้ลด หมดเร็ว 2. ดอกเบี้ย 0% และเน้นตัดเงินต้น 3.ผ่อนนาน 7 ปี ยืดระยะเวลาให้ลูกหนี้ไปต่อได้

2.มาตรการเสริมสภาพคล่อง เปิดโครงการใหม่ล่าสุด ค้ำประกันสินเชื่อ BI 7 วงเงิน 10,000 ล้านบาท รองรับความต้องการผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทุกกลุ่มที่ต้องการสินเชื่อ แต่ยังขาดหลักประกัน วงเงินค้ำสูงสุดต่อราย 100 ล้านบาท ระยะเวลาค้ำประกันสูงสุด 10 ปี และ3.ศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงินเอสเอ็มอี(บสย.F.A. Center) ยกขบวนให้คำปรึกษาปัญหาหนี้ ปรับโครงสร้างหนี้ ตลอดงาน 3 วัน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อาคม' แจงยังไม่ต้องขยายเพดานวงเงิน มาตรา 28 แม้มีเงินเหลือ 1.8 หมื่นล้านบาท

“อาคม” ชี้ยังไม่จำเป็นต้องขยายเพดานมาตรา 28 ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง สั่ง สศค. ไล่เช็คบิลหน่วยงานเร่งปิดโครงการคืนยอดเพื่อให้มีวงเงินนอกงบใช้จ่ายมากขึ้น

'คลัง' การันตีเศรษฐกิจไทยแกร่งแจงบาทอ่อนหนุนส่งออก

“คลัง” การันตีเนื้อแท้เศรษฐกิจไทยแข็งแกร่ง มองบาทอ่อนช่วยหนุนมูลค่าส่งออก พร้อมเกาะติดตลาดการเงินโลก ชี้หากสัญญาณออกมาดีเป็นผลบวกกับไทย กำชับตลาดทุนดูแลคริปโตฯ เดินเครื่องคุย กฟผ. เล็งขายบอนด์อุ้มโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดใหญ่ที่สุดในโลก

'อาคม' เชื่อตั้งรัฐบาลใหม่ช้าไม่กระทบเศรษฐกิจ

“อาคม” เชื่อตั้งรัฐบาลใหม่ล่าช้าไม่กระทบเศรษฐกิจ ยันนักลงทุนมั่นใจเสถียรภาพการเงิน-การคลังประเทศ ชูเป้าลงทุนชัดเจน โยนเคาะงบประมาณปี 67 พร้อมจี้ทำนโยบายการคลังแบบมุ่งเป้า เน้นกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อน

'อาคม' การันตีไตรมาส 2 ส่งออกฟื้นยันฐานะการเงิน-คลังยังแจ่ม!

“อาคม” การันตีไตรมาส 2 ส่งออกฟื้น ฟุ้งจัดเก็บรายได้ 5 เดือนทะลุเป้า การันตีฐานะการเงิน-การคลังประเทศยังแกร่ง จับตาสถานการณ์แบงก์ต่างชาติล่มใกล้ชิด พร้อมแจงให้รอดูไปก่อน หลังพรรคการเมืองลุยออกนโยบายโหมใช้เงินเกินเบอร์

'คลัง' ยกเครื่องรีดรายได้มั่นใจเศรษฐกิจไทยปีนี้โตทะลุ4%

“คลัง” มั่นใจเศรษฐกิจไทยปี 2566 โตทะลุ 4% เร่งเครื่องลงทุนภาครัฐ ลุ้นส่งออกตีปีก จับตาปัญหาภูมิรัฐศาสตร์-วิกฤติแบงก์ทั่วโลก พร้อมกาง 5 ปัจจัยท้าทาย ยกเครื่องรีดรายได้ ลดกู้หวังหดงบขาดดุลต่ำกว่า 3% ต่อจีดีพี