30 ธ.ค. 2565 – แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ภายหลังที่นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หารือกับตัวแทนคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) นำโดย นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย เพื่อทำความเข้าใจถึงราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้การคำนวณค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงานกกพ.) ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต้องจ่ายค่าเอฟที 154.92 สตางค์ต่อหน่วย คิดเป็นค่าไฟฟ้าเฉลี่ยที่ต้องจ่ายจริงที่หน่วยละ 5.33 บาทในรอบบิลเดือน ม.ค. – เม.ย. 2566
ทั้งนี้ นายสุพัฒนพงษ์ ได้ชี้แจงรายละเอียดถึงปัญหาหลักคือ กำลังผลิตก๊าซในอ่าวไทยที่ไม่เป็นไปตามเป้าหายไปเกือบ 600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน จากสัญญาที่ต้องผลิตให้ได้ถึง 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เนื่องจากปัจจัยการเปลี่ยนผ่านผู้รับสัมปทานและไม่สามารถเข้าพื้นที่เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตได้ ซึ่งทางกระทรวงพลังงานได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และได้รับการยืนยันจาก บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ผู้รับสัมปทานรายใหม่ว่าอยู่ระหว่างเร่งกำลังการผลิต
“กระทรวงพลังงานระบุว่ากลางปีหน้าจะเร่งกำลังผลิตให้ได้ราว 400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และช่วงปลายปี 2567 จะสามารถอัปกำลังการผลิตได้ตามสัญญา ดังนั้น รองนายกฯ จึงอยากให้เอกชนเข้าใจและขอความร่วมมือให้ประหยัดพลังงานและฝ่าฟันวิกฤตินี้ไปด้วยกัน พร้อมกับขอบคุณภาคธุรกิจที่ถือเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตเศรษฐกิจให้กับประเทศ” แหล่งข่าว กล่าว
รายงานข่าว ระบุว่า ในการหารือระหว่าง นายสุพัฒนพงษ์ กับ กกร. ในครั้งนี้ ไม่มีตัวแทนจาก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เข้าร่วมหารือทั้ง ๆ ที่เป็นองค์กรหลักในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมกรรมให้กับประเทศไทย โดยสื่อมวลชนได้สอบถามไปยัง นาย เกรียงไกร เธียรนุกูล ประธาน ส.อ.ท. ได้รับคำยืนยันว่า ติดภาระกิจของครอบครัวที่ได้มีการกำหนดวันเดินทางไว้ล่วงหน้าแล้ว และสอบถามไปยังตัวแทน ส.อ.ท. ก็ไม่มีใครสามารถเข้าร่วมหารือได้ เพราะติดภาระกิจและวางวันหยุดปีใหม่ 2566 เหมือนกันทุกคน
ด้านนายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณสำหรับกำลังใจและข้อมูลสนับสนุนจากส.อ.ท. ในการผลักดันให้รัฐบาลช่วยทบทวนค่าไฟฟ้าของภาคเอกชน ส่วนตัวมองว่า จากนี้ต่อไปภาคเอกชน โดย ส.อ.ท. และคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ควรผลักดัน แก้ไข โครงสร้างค่าไฟฟ้า รวมถึงค่าพลังงานของประเทศ ในระยะสั้น ระยะกลาง และ ระยะยาวต่อไป ตามแนวทางที่เคยเสนอมาโดยตลอด
สำหรับมติ สำนักงาน กกพ. วันที่ 29 ธ.ค. 2565 พิจารณาค่าเอฟที งวดเดือนม.ค. – เม.ย. 2566 นั้น ต้องยอมรับว่า เอกชนมีเวลาให้ผลักดันต่อสู้น้อยไปนิดนึงเมื่อเทียบกับ Deadline แต่การที่ภาครัฐ ยอมทบทวนค่าเอฟที ในระดับหนึ่ง รวมทั้งการตื่นตัวของทุกภาคส่วน ทั้งเอกชน ทั้งประชาชน และวงการสื่อมวลชน ก็น่าจะถือว่า ส.อ.ท. มาถูกทางในระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งค่าไฟฟ้าที่ลดลงถือเป็นการบรรเทาปัญหา ไม่ได้แก้ปัญหา
ทั้งนี้ จากการปรับขึ้นค่าไฟฟ้ารอบเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2565 มาที่ 17% และรอบเดือน ม.ค.-เม.ย. 2566 ขยับมาที่ 13% หากรวมกันก็ 30 % เข้าไปแล้ว ถือว่าหนักหนาสาหัสแล้วสำหรับธุรกิจ แต่เอกชนก็ต้องขอบคุณที่ภาครัฐยอมถอย ครึ่งก้าว รับฟังสิ่งที่ภาคธุรกิจนำเสนอ เพียงแต่ยังไม่ได้แก้ต้นเหตุของปัญหา ดังนั้น เอกชนก็จะเดินหน้าในเชิงสร้างสรรค์ต่อไป
“ผมขออนุญาตเป็นตัวแทนคณะทำงานข้อร้องเรียนค่าไฟฟ้า และค่าพลังงาน ภายใต้ นโยบายม One FTI ของนายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธาน ส.อ.ท. ในการขอขอบคุณ ทุกแรงใจ และคำแนะนำ ข้อเสนอแนะดีๆ ของทุกคน และเราจะเดินหน้าต่อไปในภารกิจนี้ ซึ่งในปี 2566 และต่อ ๆ ไป ด้วยความมุ่งมั่นในการรักษาความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจของเรา ตลอดจนความยั่งยืนของสังคม”อิศเรศ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปตท.สผ. คว้ารางวัล Best CEO และ Best IR จาก IAA Awards for Listed Companies 2024
นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล (กลาง) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. รับรางวัล Best CEO
ปตท.สผ. จัดงาน PTTEP KM Week 2024 แบ่งปันองค์ความรู้ ส่งเสริมการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล (กลาง) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. และ น.ส.คณิตา ศาศวัตายุ (ขวา)
'พีระพันธุ์' เผยร่างกฎหมายพลังงานเสร็จแล้ว วางระบบใหม่ทั้งหมด ราคาเป็นธรรมเหมาะสม
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการนำเสนอนโยบายของ รทสช.ต่อรัฐบาล
ปตท.สผ. เผยผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือนแรกของปี 2567 พร้อมจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 4.50 บาทต่อหุ้น
ปตท.สผ. เผยความคืบหน้าการดำเนินงานครึ่งแรกปี 2567 ประสบความสำเร็จในการขยายฐานการลงทุนในตะวันออกกลาง