พาณิชย์เอาจริงลงพื้นที่ตรวจสอบต่างด้าวเปิดธุรกิจในไทย

กรมพัฒนาธุรกิจ เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบ คนต่างด้าวถือวีซ่านักท่องเที่ยวทำธุรกิจในไทย ชี้อาจเข้าข่ายผิดหลายกฎหมาย ของหลายหน่วยงาน ส่วนกรณี “นอมินี” จากการตรวจสอบพบ ปีละ 400-500 ราย ในธุรกิจเกี่ยวกับท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ ส่งดำเนินคดีแล้ว 66 ราย พร้อมส่งดีเอสไอตรวจสอบเชิงลึกเส้นทางการเงิน

นายจิตรกร ว่องเขตกร รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยถึงกรณีคนต่างชาติที่เข้าประเทศไทยโดยถือวีซ่านักท่องเที่ยวแต่กลับประกอบธุรกิจขายอาหารและเครื่องดื่มในไทยว่า กรมได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ลงพื้นที่ตรวจสอบการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวในไทยว่าเป็นการกระทำผิดตามกฎหมายฉบับใด ของหน่วยงานใดบ้าง เช่น ผิดพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวพ.ศ.2542 ที่กรมกำกับดูแลอยู่หรือไม่ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่กำลังเป็นกระแสข่าวขณะนี้ อย่าง ย่านเยาวราช

สำหรับการตรวจสอบการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าย ภายใต้พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว กรมจะตรวจสอบว่า กรณีคนต่างด้าวที่เป็นนิติบุคคล หากขายอาหารและเครื่องดื่ม ได้รับการอนุญาตก่อนหรือไม่ เพราะตามพ.ร.บ.ฉบับนี้ นิติบุคคลต่างด้าว จะขายอาหารและเครื่องดื่มได้ ต้องขออนุญาตจากอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ที่มีปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน หากไม่ขออนุญาตจะถือว่ามีความผิด

นอกจากนี้ จะตรวจสอบด้วยว่า หากนิติบุคคลต่างด้าว ขายอาหารและเครื่องดื่ม โดยไม่ขออนุญาตก่อนนั้น มีคนไทยให้การช่วยเหลือ สนับสนุน หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าว (นอมินี) เพื่อให้คนต่างด้าวสามารถประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยง หรือฝ่าฝืนกฎหมายหรือไม่ หากพบว่า มีนอมินี จะมีความผิดอีกเช่นกัน ส่วนกรณีต่างด้าวที่เป็นบุคคลธรรมดา ขายอาหารและเครื่องดื่ม ก็อาจเข้าข่ายมีความผิดกฎหมายแรงงาน ของกระทรวงแรงงาน ที่ห้ามต่างด้าวขายเช่นกัน หรืออาจผิดกฎหมายของกรุงเทพมหานคร (กทม.) กรณีการวางขายบนทางเท้า เป็นต้น

“การตรวจสอบกรณีนอมินี ไม่ง่าย เพราะต้องปรากฏพฤติการณ์ที่ชัดเจน หรือหลักฐานเอกสารที่แสดงว่าคนไทยมีพฤติกรรมตั้งใจ ปกปิด อำพราง หรือจัดทำเอกสารหลักฐานในลักษณะอำพราง ให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน หรือถือหุ้นแทนต่างด้าว ซึ่งจะมีความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 – 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังมีโทษปรับรายวันอีกวันละ 10,000 – 50,000 บาท จนกว่าจะเลิกฝ่าฝืน”

นายจิตรกร กล่าวต่อถึงกรณีคนไทยเป็นนอมินีของคนต่างด้าวว่า จากการตรวจสอบของกรม พบว่า มีนิติบุคคลที่เข้าข่ายเป็นนอมินีเฉลี่ยปีละ 400-500 ราย ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ เข้ามาประกอบธุรกิจด้านการท่องเที่ยว และอสังหาริมทรัพย์โดยใช้คนไทยถือหุ้นแทน ซึ่งหากพบกรณีที่อาจเข้าข่ายนอมินี กรมจะส่งหนังสือเชิญให้มาชี้แจง หากไม่สามารถชี้แจงได้ หรือชี้แจงไม่สมเหตุสมผล จะถือว่ามีความผิดตามฐานเป็นนอมินี ตามพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว และจะส่งต่อให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สอบสวนในเชิงลึกถึงเส้นทางการเงินด้วย

ทั้งนี้ กรมได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ดีเอสไอ, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, กรมที่ดิน ฯลฯ ตรวจสอบกรณีนอมินีในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ ร้านอาหาร ฯลฯ มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 58 จนถึงปัจจุบัน ได้ดำเนินคดีกับนิติบุคคล หรือคนไทยที่เป็นนอมินีแล้ว 66 ราย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พาณิชย์ โชว์ ม.ค. ต่างชาติลงทุนในไทย 7,171 ล้าน

เบิกฤกษ์..มกราคม 2567 ต่างชาติลงทุนในไทย 7,171 ล้านบาทญี่ปุ่นลงทุนอันดับหนึ่ง 3,793 ล้านบาท ตามด้วย สิงคโปร์ 1,083 ล้านบาท และจีน 768 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 172 คน

'ผู้เฒ่าไทลื้อ' สุดปลื้มได้บัตรประชาชนไทย เผยดีใจยิ่งกว่าถูกรางวัลที่ 1

นายณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สาย เป็นประธานในพิธีมอบบัตรประจำตัวประชาชน “ผู้เฒ่าไร้สัญชาติ” ซึ่งได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาติให้แปลงสัญชาติเป็นไทยของคนต่างด้าวที่เป็นชนกลุ่มน้อย ทำให้บุคคลดังกล่าวเป็นบุคคลสัญชาติไทย