คลังเล็งนำประวัติจ่ายค่าไฟมาช่วยพิจารณาสินเชื่อ

การประชุมหารือเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากข้อมูลการชำระค่าไฟฟ้าในการพิจารณาสินเชื่อ

23 ม.ค. 2566 – นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2566 ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงการคลัง (นายชื่นชอบ  คงอุดม) ในฐานะที่ปรึกษาคณะทำงานจัดทำมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ “มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ได้เป็นประธานในการหารือระหว่างการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จํากัด เกี่ยวกับแนวทางการนำข้อมูลการใช้ไฟฟ้าและข้อมูลการชำระค่าไฟฟ้ามาใช้ในการพิจารณาสินเชื่อ เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินของประชาชน 

ตามที่ภาครัฐให้ความสำคัญกับการแก้ไขหนี้ภาคครัวเรือนโดยกำหนดเป็นวาระสำคัญของประเทศ ซึ่งกระทรวงการคลังมองว่า การแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนนั้น จะต้องดำเนินการใน 3 ส่วนหลัก คือ (1) การแก้ไขปัญหาหนี้สินที่มีอยู่เดิม เพื่อช่วยผ่อนปรนภาระให้กับลูกหนี้ (2) การสร้างรายได้ผ่านการให้สินเชื่อเพิ่มเติม เพื่อให้มีรายได้สอดคล้องกับภาระหนี้ และ (3) การสร้างภูมิคุ้มกันด้วยการสร้างทักษะทางการเงิน (Financial Literacy) ทั้งนี้ การประชุมในครั้งนี้เป็นการผลักดันในข้อ 2 เกี่ยวกับการเข้าถึงสินเชื่อในอัตราที่เหมาะสม ซึ่งเป็นการดำเนินการเพิ่มเติมจากที่กระทรวงการคลังได้ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทยจัดมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ “มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ไปแล้ว

ที่ประชุมได้ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลการใช้และการชำระหนี้สาธารณูปโภค (Utility Data) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในข้อมูลทางเลือก (Alternative Data) ที่ได้รับการยอมรับในต่างประเทศว่าเป็นข้อมูลที่สามารถใช้ประโยชน์ในการประเมินความสามารถและความเต็มใจในการชำระหนี้ (Ability and Willingness to Repay) โดยเฉพาะประชาชนรายย่อยและผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Small and Medium Enterprises: SMEs) ที่มีประวัติสินเชื่อสั้นหรือไม่มีประวัติสินเชื่อจากสถาบันการเงิน (Thin Files) ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินในอัตราที่เหมาะสมได้ โดยที่ประชุมมีแนวคิดที่จะใช้ประโยชน์จากข้อมูลการใช้ไฟฟ้าและชำระค่าไฟฟ้าภายใต้การครอบครองของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ประกอบการพิจารณาสินเชื่อของสถาบันการเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ประชาชนรายย่อยและผู้ประกอบการ SMEs ในต่างจังหวัด ให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุนและสภาพคล่องในระบบ และบรรเทาความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงสินเชื่อในสถาบันการเงินในอนาคต 

ทั้งนี้ ในระยะต่อไป 3 หน่วยงานจะร่วมกันหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อจัดทำโครงการนำร่องในการใช้ประโยชน์จากข้อมูลการใช้ไฟฟ้าและชำระค่าไฟฟ้าภายใต้การครอบครองของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนรายย่อยและผู้ประกอบการ SMEs สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินมากขึ้นด้วยอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม

นายชื่นชอบ คงอุดม กล่าวเสริมว่า การประชุมครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการผลักดันให้มีการนำข้อมูลทางเลือกมาใช้ประกอบการพิจารณาสินเชื่อ ซึ่งถือเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ไขปัญญาหนี้สินให้กับประชาชนรายย่อยและผู้ประกอบการ SMEs ให้ได้รับสินเชื่อที่เหมาะสมตามศักยภาพในการชำระหนี้ และสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่กำหนดให้การแก้ไขหนี้ภาคครัวเรือนเป็นวาระสำคัญของประเทศ ทั้งนี้ ภาครัฐได้มีการจัดมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ “มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” แล้วจำนวน 4 ครั้ง ทั่วประเทศ และจะมีการจัดมหกรรมครั้งสุดท้ายใน วันที่ 27 – 29 มกราคม 2566 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จังหวัดสงขลา สำหรับประชาชนและผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมมหกรรม สามารถลงทะเบียนได้ทางเว็บไซต์ https://ln15.gsb.or.th/WEB-DEBT/Page/Consent.aspx หรือ Scan QR Code ท้ายแถลงข่าว หรือแจ้งความประสงค์เข้าร่วมงานได้ที่หน้างานมหกรรม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดอาคาร 150 ปี กระทรวงการคลัง

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ดร.นาฬิกอติภัค แสงสนิท กรรมการผู้จัดการ นายธีธัช สุขสะอาด นายประณต เลิศมีมงคลชัย รองกรรมการผู้จัดการ และนายกรานต์ ฉายาวิจิตรศิลป์