
นายกฯ วางแนวทางมุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ ททท. คาดการณ์นักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์สูงถึง 17 – 20 ล้านคน พร้อมจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองสงกรานต์อย่างยิ่งใหญ่ ควบคู่กับกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศตลอดปี
26 มี.ค. 2566 – นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม วางแนวทางการทำงานส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2566 สั่งการให้เตรียมความพร้อมจัดงานเพื่อเฉลิมฉลองสงกรานต์แบบยิ่งใหญ่ ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่าการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศจะเติบโตมาก วางแผนวิจิตรสงกรานต์ 5 ภาค พร้อมประชาสัมพันธ์โครงการ “365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทยเที่ยวได้ทุกวัน” กระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวภายในประเทศ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าจากการคาดการณ์แนวโน้มการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2566 ททท. คาดว่าจะคึกคักมากกว่า ปี 2562 ช่วงสงกรานต์ก่อนสถานการณ์โควิด -19 เนื่องจากการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมคาดการณ์ว่า การเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยในช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์จะสนับสนุนให้เกิดการเดินทางในประเทศทั้งเดือนเมษายน ปี 2566 อยู่ที่ 17 – 20 ล้านคน/ครั้ง ประกอบกับปัจจัยสนับสนุนที่ในเดือนดังกล่าวมีโครงการจากรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 การจัดงานเฉลิมฉลองสงกรานต์แบบยิ่งใหญ่ วิจิตรสงกรานต์ 5 ภาค และโครงการ “365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทยเที่ยวได้ทุกวัน”ภายใต้แนวคิด “เที่ยวได้ทุกวันมหัศจรรย์ทั้งปี” ระยะเวลาโครงการตั้งแต่เดือน มกราคม – กันยายน 2566 ซึ่งประกอบด้วยแคมเปญ ดังต่อไปนี้
– แคมเปญ “Wonder Deal” สิ้นเดือน เหมือนการเริ่มต้นใหม่ คือ เปลี่ยนวันสิ้นเดือนให้เป็นการเริ่มต้นวางแผนออกเดินทางครั้งใหม่ในเดือนถัดไป เริ่มกิจกรรมเดือน มีนาคม – สิงหาคม 2566
– แคมเปญ “CODE ลับ 365 พาเพื่อนเที่ยว” สนับสนุนการท่องเที่ยวแบบกลุ่ม รวมตัวเพื่อน 3 คน จองท่องเที่ยวใน 5 จังหวัด ภายใน 6 สัปดาห์ พร้อมสร้างสรรค์ผลงานส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบ “ฉบับของชาวแก๊ง” ส่งต่อประสบการณ์ท่องเที่ยวในมุมมองต่าง ๆ ซึ่งผู้ที่ได้รับคัดเลือกเป็น ขวัญใจมหาชน จะได้รับเงินรางวัล 365,365 บาท เริ่มกิจกรรมตั้งแต่เดือน มีนาคม – มิถุนายน 2566 ทั้งนี้ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://thai.tourismthailand.org/home
“นายกรัฐมนตรีวางแนวทางการทำงานเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ โครงการเราเที่ยวด้วยกันที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง จึงเชื่อมั่นว่ามาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาลจะกระตุ้นให้ภาคการท่องเที่ยวของไทยเติบโต โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ในเดือนเมษายนที่คาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวจะเพิ่มมากขึ้น สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจสู่ประเทศได้อย่างมาก ทั้งนี้ รัฐบาลพร้อมจัดกิจกรรมสนับสนุนการท่องเที่ยวในหลายรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรูปแบบที่ตอบโจทย์ตรงตามความต้องการของนักท่องเที่ยว และสอดคล้องกับเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของไทย” นายอนุชา กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เตือนแก๊งคอลเซ็นเตอร์เล่นบทเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน ระวังถูกหลอกดูดเงินจากบัญชี
โฆษกรัฐบาล เตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อกลโกงมิจฉาชีพ แก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมที่ดินสำรวจผู้เสียภาษีที่ดินและสิ่งป
เริ่มอย่างยิ่งใหญ่ 'วิจิตร @ นครพนม' เล่าเรื่องราวผ่าน แสง สี เสียง
เริ่มอย่างยิ่งใหญ่ “วิจิตร @ นครพนม” นครแห่งความสุขริมโขง เล่าเรื่องราวผ่าน แสง สี เสียง เผยประวัติศาสตร์บนอาคารเก่า ยุคสงครามอินโดจีน
สกสว. จับมือ World Bank ถ่ายทอดความรู้ผลักดันการพัฒนานวัตกรรมให้เอกชนไทย
นายกฯ ส่งเสริมความร่วมมือ สกสว. กับ World Bank ถ่ายทอดความรู้ แลกเปลี่ยนแนวคิด ผลักดันการพัฒนานวัตกรรม เสริมสร้างศักยภาพของภาคเอกชนไทย
ปลื้ม นักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยทะลุ 1 ล้านคน
นายกฯ ส่งเสริมการสร้างความเชื่อมั่น ภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัยด้านในเรื่องการท่องเที่ยว ยินดีนักท่องเที่ยวจีนมาไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง จำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้น 98% เที่ยวไทยแล้วกว่า 1 ล้านคน
'เทศกาลอาหารนานาชาติ' สวรรค์ของนักกิน จัดใหญ่กลางกรุง
อาหารไทยเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ ด้วยเอกลักษณ์ในการนำวัตถุดิบของแต่ละภาคมารังสรรค์จนเกิดเป็นรสชาติเฉพาะพื้นที่นำไปสู่ความอร่อยที่ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติต่างก็ติดใจ หรือจะเป็นอาหารแนวสตรีทฟู้ดในกรุงเทพฯ อยู่อันดับต้นๆ ของเมืองแห่งร้านอาหารริมทางที่ดีที่สุดในโลก
รทสช. ยกเครื่อง! ตั้งคณะทำงานหลายสาขา ปรับกลยุทธ์สื่อสาร ย้ำไม่ใช่รีแบรนด์พรรค
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้พรรครทสช. เตรียมที่จะมีการปรับกลยุทธ์ในการสื่อสารให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นเพื่อสื่อสารไปยังประชาชนให้เข้าใจ