'กรุงไทย' ชี้ปี 66-67 ท่องเที่ยวคึกครื้นต่างชาติทะลุ 36.6 ล้านคน

“Krungthai COMPASS” ชี้ท่องเที่ยวฟื้นต่อเนื่อง ประเมินปี 2566 ต่างชาติแห่เข้าไทย 27.1 ล้านคน ปี 2567 เพิ่มเป็น 36.6 ล้านคน เคาะกลุ่ม GIFT+ น่าจับตามองจากศักยภาพด้านการใช้จ่าย และเป็นตลาดใหม่ที่มีโอกาสเติบโตได้อีก แนะผู้ประกอบการศึกษาพฤติกรรม-วัฒนธรรมนักท่องเที่ยวกลุ่ม GIFT+ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงใจ

11 เม.ย. 2566 – นายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ภาคการท่องเที่ยวถือเป็นเครื่องยนต์สำคัญของเศรษฐกิจไทย โดยในช่วง Pre-COVID (ปี 2562) ภาคการท่องเที่ยวสามารถสร้างรายได้ถึง 2.7 ล้านล้านบาท หรือราว 16% ของจีดีพีทั้งนี้แม้การระบาดของโควิด-19จะทำให้ภาคการท่องเที่ยวของไทยซบเซาลง แต่ปัจจุบันเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัดหลังการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบในครึ่งหลังของปี 2565 ที่ผ่านมา
โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2566-2567 คาดว่าจะฟื้นตัวต่อเนื่องจาก 11.2ล้านคนในปี 2565 มาอยู่ที่ 27.1ล้านคน และ 36.6 ล้านคน ตามลำดับ กลับมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วง Pre-COVID ที่ 39.9ล้านคน ได้ในช่วงปี 2567 โดยนักท่องเที่ยว GIFT+ ซึ่งประกอบด้วย 1.ประเทศแถบตะวันออกกลาง (Gulf) ที่มีค่าใช้จ่ายต่อหัวสูงกว่านักท่องเที่ยวโดยรวมถึง 70-125% และ2.อินเดีย (India) ที่จำนวนประชากรกำลังจะขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของโลก 3.ประเทศแถบเอเชียตะวันออก (Far easT+) อย่าง จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน และรัสเซีย เป็นกลุ่มที่น่าจับตาเนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพด้านการใช้จ่าย และบางส่วนยังเป็นตลาดใหม่ที่มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก

นายธนา ตุลยกิจวัตร นักวิเคราะห์ ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS กล่าวว่า คาดว่านักท่องเที่ยวกลุ่ม GIFT+ ที่เดินทางเข้าไทยในช่วงปี 2566จะมีจำนวนเท่ากับ 12.2 ล้านคน และใน ปี 2567 ที่18.5 ล้านคน คิดเป็น 45-50% จากนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด โดยสาเหตุหลักที่ทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มGIFT+ มีแนวโน้มเดินทางเข้าไทยต่อเนื่องเป็นเพราะภาคการท่องเที่ยวไทยมีจุดเด่นด้านทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงาม และความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งทางอากาศ ทำให้ไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางหลักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ทั้งนี้ รายงาน Travel & Tourism Competitiveness Reportที่จัดทำโดย World Economic Forumชี้ว่าภาคการท่องเที่ยวไทยมีความสามารถในการแข่งขันอยู่ในอันดับ Top 3ของกลุ่มประเทศอาเซียน โดยเป็นรองเพียงสิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ขณะที่ข้อมูลจากสื่อต่าง ๆ ยังชี้ว่าไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางหลักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยผลสำรวจของ Dragon Trail Internationalบริษัทเอเจนซี่สำหรับการท่องเที่ยวต่างประเทศของชาวจีนระบุว่า หากไม่นับกลุ่มประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ไทยถือเป็น Top1ของประเทศที่ชาวจีนสนใจเดินทางมาท่องเที่ยวมากที่สุด เช่นเดียวกับข้อมูลของ Google Destination Insights ที่ชี้ว่าไทยอยู่ในอันดับต้น ๆ ที่ชาวอินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวันต้องการเดินทางมาท่องเที่ยว

นายกณิศ อ่ำสกุล นักวิเคราะห์ ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS กล่าวว่า การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวกลุ่ม GIFT+ ไม่เพียงแต่จะเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยวโดยตรงอย่างธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร ห้างค้าปลีก และขนส่ง เพียงเท่านั้น แต่ธุรกิจอื่น ๆ อาทิ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจ Healthcareก็มีแนวโน้มจะได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของกำลังซื้อต่างชาติไปด้วยเช่นกัน

“เพื่อเป็นการคว้าโอกาสจากการฟื้นตัวของกำลังซื้อต่างชาติ ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญกับการศึกษาพฤติกรรมและวัฒนธรรมที่หลากหลายของนักท่องเที่ยวกลุ่ม GIFT+ เพื่อจะได้ออกแบบผลิตภัณฑ์หรือบริการ รวมถึงใช้ช่องทางการตลาดให้เหมาะสม ส่วนบทบาทของภาครัฐในระยะสั้นควรมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงจุดอ่อนของภาคการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะปัญหาด้านความปลอดภัยเพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติฟื้นตัวกลับมาอยู่ในระดับเดียวกับช่วง Pre-COVID ให้ได้เร็วที่สุด ส่วนในระยะกลาง-ยาว ควรผลักดันการท่องเที่ยวเมืองรองเพื่อกระจายรายได้สู่จังหวัดอื่น ๆ รวมถึงควรให้ความสำคัญกับนักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพให้มากขึ้น เช่น กลุ่ม Gulf อย่าง ซาอุดิอาระเบีย คูเวต อิสราเอล และสหรัฐอาหรับฯ ที่มีค่าใช้จ่ายต่อหัวอยู่ในระดับสูง” นายกณิศ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สัญญาณดี ส่งออกเดือนมกราคม 2567 ขยายตัว 10.0% สูงสุดในรอบ 19 เดือน

มูลค่าส่งออกเดือน ม.ค. อยู่ที่ 22,649.9 ล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัว 10.0%YoY สูงสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2565 เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนที่ขยายตัว 4.7% และสอดคล้องกับการคาดการณ์ของ Krungthai COMPASS ที่ 11.1% โดยการส่งออกสินค้าทั้งหมวดอุตสาหกรรม

ท่องเที่ยวฟื้น 'ทอท.' กางแผนลุยสร้างอาคารผู้โดยสารทางด้านทิศใต้รับผู้โดยสาร 150 ล้านคน

อุตสาหกรรมการบินโตต่อเนื่อง ทอท.เปลี่ยนแผนแม่บทขยายขีดความสามารถสนามบินระยะ 10 ปีใหม่ ชะลอสร้างอาคารผู้โดยสารในประเทศ “North Expansion” กลับมาหยิบสร้างอาคารผู้โดยสารทางด้านทิศใต้ก่อน เหตุผู้โดยสารระหว่างประเทศพุ่งทะลัก เชื่อเป็นการแก้ปัญหาลดความแออัดในสนามบินสุวรรณภูมิ หวังรองรับผู้โดยสาร 150 ล้านคนต่อปี

กรุงไทยคาดกนง .ยังมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งปลายปี 66

Krungthai COMPASS ออกบทวิเคราะห์เรื่องอัตราดอกเบี้ยของไทย ในอนาคต หลังจาก กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี จากร้อยละ 1.75 เป็นร้อยละ 2.00 ต่อปี ในการประชุมครั้งที่ 3/2566 เมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีเนื้อหาดังนี้

กรุงไทยจับตาส่งออกปีนี้ร่วงหนัก โชคดีท่องเที่ยวฟื้น อุ้มศก.ไทยโต 3.4%

เศรษฐกิจปี 2566 กำลังเผชิญความท้าทายที่ชัดเจนมากขึ้นท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านของเครื่องยนต์หลักจากการส่งออกสินค้าที่ชะลอตัวไปสู่ภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง แม้ว่า Krungthai COMPASS ได้คงประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2566 โดยคาดว่าจะเติบโตได้ที่ 3.4% แต่การเปลี่ยนผ่านของแต่ละเครื่องยนต์หลักได้กระทบต่อเศรษฐกิจส่วนรวมมากกว่าที่เคยประเมินไว้ในเดือน ธ.ค. 2565