รฟม.เริ่มทดสอบการเดินรถไฟฟ้า ‘สายสีชมพู’ เตรียมให้บริการไตรมาส 3 ปี65

รฟม. เปิดภาพทดสอบการเดินรถ “MRT PINK LINE”ชวนคนไทยร่วมยลโฉม รถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี พร้อมให้บริการประชาชนได้ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี65

9 ธ.ค.2564-รายงานข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่ารถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี ได้เริ่มทดสอบการเดินรถ เพื่อตรวจสอบความเข้ากันได้ของโครงสร้างงานโยธากับขบวนรถไฟฟ้าและระบบจ่ายไฟฟ้า โดยใช้ความเร็วในการทดสอบไม่เกิน 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทั้งนี้ รถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีชมพูสามารถทำความเร็วได้สูงสุดที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 

สำหรับเส้นทางในการทดสอบการเดินรถ เริ่มต้นจากศูนย์ซ่อมบำรุง (Depot) ผ่านไปยังสถานีมีนบุรี (PK30) ผ่านสถานีตลาดมีนบุรี (PK29) สถานีเศรษบุตรบำเพ็ญ (PK28) และสถานีบางชัน (PK27) รวมระยะทางประมาณ 4.45 กิโลเมตร โดยจะดำเนินการทดสอบอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2564 เพื่อตรวจสอบและสร้างความมั่นใจในการเดินรถและการดำเนินงานโครงการมีความปลอดภัยและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน

อย่างไรก็ตามโดยในการทดสอบครั้งนี้ใช้ขบวนรถโมโนเรลที่จะให้บริการจริงเช่นเดียวกับการทดสอบรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลือง ซึ่งยังคงรูปลักษณ์ที่มีความทันสมัย ภายนอกรถเป็นสีขาวตัดกับชมพูมีสีสันสดใสสะอาดตา ภายในห้องโดยสารมีความกว้างขวาง ช่วยให้ผู้โดยสารเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย ไม่อึดอัด และมีทัศนวิสัยที่ชัดเจนด้วยขนาดของกระจกที่กว้าง ในส่วนของตัวรถมีขนาดกว้าง 3.16 เมตร น้ำหนัก 14,500 – 15,000 กิโลกรัมต่อตู้ โดยใน 1 ขบวน ประกอบด้วยตู้โดยสารจำนวน 4 ตู้ รองรับผู้โดยสารได้ 17,000 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง และยังสามารถเพิ่มตู้โดยสารได้สูงสุด 7 ตู้ต่อขบวน ซึ่งจะทำให้รองรับผู้โดยสารได้มากถึง 28,000 คนต่อขบวนต่อทิศทาง 

ทั้งนี้ปัจจุบันรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี เดินทางมาถึงประเทศไทยแล้ว 13 ขบวน และคาดว่าขบวนรถจะเข้ามาครบถ้วนทั้ 42 ขบวน ในช่วงประมาณกลางปี 2565 โดยภายหลังจากนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ ก็จะยังคงทดสอบการเดินรถอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีความพร้อมเมื่อเปิดให้บริการ ซึ่งคาดว่าน่าจะสามารถให้บริการประชาชนได้ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 

สำหรับการทดสอบการเดินรถในครั้งนี้ถือเป็นปรากฎการณ์ใหม่สำหรับวงการรถไฟฟ้าของไทย ดังนั้น โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ จึงได้มีการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ประชาชนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ครั้งนี้ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการเปิดโอกาสให้ร่วมกิจกรรมในช่องทางต่างๆ เช่น แฟนเพจ Line Official และยังมีการนำเสนอภาพบรรยากาศการทดสอบการเดินรถและพาชมภายในขบวนรถ