“แบงก์ชาติ” ชี้แจกเงินดิจิทัลหนุนจีดีพี จ่อปรับเป้าปี66 หลังส่งออกยังสาหัส!


31 ส.ค. 2566 – นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)กล่าวว่า นโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของพรรคเพื่อไทย นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี คาดว่าจะใช้เม็ดเงินไม่ต่ำกว่า 500,000 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 3% ของจีดีพี โดยนโยบายดังกล่าวจะมีผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจ แต่อาจจะต้องดูการหมุนของเงินว่ากี่รอบ หากมีการหมุน 1 รอบก็จะสามารถช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้นราว 3% แต่กรณีที่เป็นเงินโอนการหมุนของเงินก็อาจจะน้อยกว่า 1 รอบ และอาจจะกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อให้เพิ่มขึ้นสูงบ้างเมื่อเทียบกับในอดีต

“ประเมินแล้วการกระตุ้นโดยการแจกเงินดิจิทัล ธปท.มีมุมมองความเสี่ยงเชิงบวก แต่ก็ต้องประเมินเรื่องของการจัดเก็บรายได้รัฐบาลด้วย ส่วนถามว่าการแจกเงินจะออกมารูปแบบไหน คงเร็วไปที่จะพูด อยากให้รอดูความชัดเจนก่อน” นายสักกะภพ กล่าว

นายสักกะภพ กล่าวว่า ธปท. เตรียมปรับลดคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจไทยในปี 2566 ลง โดยหลัก ๆ มาจากภาคการส่งออกสินค้าที่ชะลอตัวลงกว่าที่คาด จากเศรษฐกิจหลายประเทศที่ชะลอตัวลง โดยเฉพาะจีนขณะที่ภาคการท่องเที่ยวแม้จะปรับตัวดีขึ้น แต่ก็มองว่าผลดีกับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับกลุ่มท่องเที่ยว อาทิโรงแรมและอื่น ๆ อาจจะน้อยกว่าที่คาดการณ์ จากค่าใช้จ่ายตัวหัวที่น้อยกว่าที่ประเมิน เพราะนักท่องเที่ยวที่เข้ามาส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวระยะสั้น ซึ่งมีค่าใช้จ่ายต่อหัวค่อนข้างต่ำ ขณะที่เม็ดเงินที่เกี่ยวเนื่องกับนโยบายของรัฐบาลก็ไม่ได้มีผลกับเศรษฐกิจในปีนี้มากนัก โดยจะมีผลในปี 2567 เป็นสำคัญ ดังนั้นจึงต้องโฟกัสนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลที่อาจจะมีปัจจัยช่วยทำให้เศรษฐกิจโตได้เร็วในปีหน้า

“ปีนี้คงพูดไม่ได้ว่าตัวเลขจะเป็นเท่าไหร่ แต่คงปรับลดลงพอสมควร แต่คงไม่ได้ลดลงมาต่ำถึงขนาดนั้นเพราะจากข้อมูลที่เข้ามา โดยเฉพาะตัวเลขเศรษฐกิจจริงในไตรมาส 2/2566 ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ก็ออกมาต่ำกว่าที่คาดพอสมควร แต่ยังพูดได้ว่าแนวโน้มข้างหน้ายังอยู่ในทิศทางของฟื้นตัว จากการท่องเที่ยวที่ยังแรง และคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวได้ดีขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีกับภาคการส่งออก และรัฐบาลที่เข้ามาน่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมด้วย ซึ่งหากดูตามเครื่องยนต์ที่เข้ามาทั้งหมดยังเป็นไปในทิศทางกระตุ้น ดังนั้นมีโอกาสสูงที่ปี 2567 จะโตได้มากกว่าปีนี้” นายสักกะภพ กล่าว

นอกจากนี้ มองว่าแนวโน้มภาคการส่งออกยังฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด โดยในช่วงไตรมาส 3/2566 คงไม่เห็นการฟื้นตัว แต่จะเริ่มเห็นการฟื้นตัวได้ในช่วงไตรมาส 4/2566 เป็นผลของฐานวงจรอิเล็กทรอนิกส์โลกที่เริ่มฟื้นตัว แต่ก็ยังมีความเสี่ยงของเศรษฐกิจจีน ซึ่งคาดว่าจะทยอยฟื้นตัวได้ชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า

เศรษฐกิจไทยในเดือน ก.ค. 2566 ยังอยู่ในทิศทางฟื้นตัว โดยการใช้จ่ายในประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งจากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน ส่วนหนึ่งการบริโภคได้รับผลดีจากช่วงวันหยุดยาว ทั้งการใช้จ่ายในหมวดโรงแรมและภัตตาคาร และหมวดขนส่งผู้โดยสาร ซึ่งสอดคล้องกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นขณะที่ปัจจัยสนับสนุนกำลังซื้อภาคครัวเรือนด้านการจ้างงานนอกภาคเกษตรปรับดีขึ้น ขณะที่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับลดลงบ้างจากความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาล

ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐไม่รวมเงินโอนยังขยายตัวเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน จากรายจ่ายลงทุนด้านคมนาคม ขณะที่รายจ่ายประจำทรงตัวจากปีก่อน โดยรายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าและบริการขยายตัว แต่รายจ่ายค่าตอบแทนบุคลากรลดลงหลังเร่งเบิกจ่ายไปในช่วงก่อนหน้า สำหรับรายจ่ายลงทุนของรัฐวิสาหกิจหดตัวจากผลของฐานสูงตามการเบิกจ่ายโครงการลงทุนด้านคมนาคมในปีก่อน

ทั้งนี้ ในส่วนของมูลค่าการส่งออกสินค้า ในเดือน ก.ค. 2566 ติดลบ 5.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเฉพาะฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ไปฮ่องกงและสหรัฐฯ, ทุเรียนไปจีนที่ลดลงตามผลผลิตที่หมดฤดูกาล และเคมีภัณฑ์ไปจีนและอาเซียน อย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้าหมวดยานยนต์เพิ่มขึ้นหลังปัญหาด้านอุปทานทยอยคลี่คลายรวมทั้งหมดเกษตรแปรรูปที่เพิ่มขึ้นตามการส่งออกอาหารกระป๋องไปสหภาพยุโรปและอาหารสัตว์ไปจีน ส่วนมูลค่าการนำเข้าสินค้าไม่รวมทองคำ ลดลงจากเดือนก่อน ตามการนำเข้าเชื้อเพลิง โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติหลังจากเร่งไปแล้วในเดือนก่อนหน้า โดยการนำเข้าวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางที่ไม่รวมเชื้อเพลิงปรับเพิ่มขึ้นตามการนำเข้าชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับการผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับดีขึ้นในหลายหมวด หลังจากชะลอลงไปในช่วงก่อน โดยเฉพาะการผลิตในหมวดอาหารและเครื่องดื่มที่เพิ่มขึ้นตามการผลิตน้ำตาล หมวดยานยนต์จากการผลิตรถยนต์เชิงพาณิชย์ และหมวดยางและพลาสติกตามการผลิตยางล้อที่เพิ่มขึ้นหลังลดต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม การผลิตสินค้าหมวดฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ลดลงตามรอบการส่งมอบสินค้าและหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าปรับลดลงจากเครื่องปรับอากาศที่เร่งตัวไปในช่วงก่อนหน้า

นายสักกะภพ กล่าวอีกว่า ในส่วนของเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากหมวดพลังงานตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ส่วนหมวดอาหารสดปรับลดลงจากทั้งผลของฐานสูงในปีก่อนและราคาเนื้อสุกรและผักที่ลดลง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานลดลงจากผลของฐานสูงในราคาอาหารสำเร็จรูป ด้านตลาดแรงงานยังฟื้นตัว สะท้อนจากจำนวนผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคบริการ

อย่างไรก็ดี ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลจากการค้าที่เกินดุลลดลงตามมูลค่าการส่งออก ประกอบกับดุลบริการ รายได้และเงินโอนขาดดุลเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ด้านอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยแข็งค่าขึ้น เนื่องจากตลาดปรับลดคาดการณ์การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกอบกับสถานการณ์การจัดตั้งรัฐบาลของไทยที่มีทิศทางชัดเจนขึ้นในช่วงปลายเดือน

“กิจกรรมทางเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า ยังพึ่งพาการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ ขณะที่ภาคการส่งออกสินค้านั้น ยังคงมีความเสี่ยง” นายสักกะภพ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดร.เสรี ชำแหละดิจิทัล 10,000

ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า แจกเงินดิจิทัล 10,000 แก่คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไปที่รายได้น้อยกว่า 840,000 หรือเงินเก็บไม่เกิน 500,000 บาท ยังมีคำถามมากมาย

'พิชัย' เซ็ง 'แบงก์ชาติ' ไม่ลดดอกเบี้ยถามสังคมแบบนี้ควรมีอิสระไหม!

'พิชัย' ผิดหวัง 'แบงก์ชาติ' ไม่ลดดอกเบี้ย ทั้งที่ภาพรวมเศรษฐกิจแย่ แต่กลับไม่เดือดร้อน ชี้ไม่ใช่หน้าที่แบงก์ชาติมากำหนดอัตราการเติบโต แนะอย่าอ้างว่าต้องอิสระบนความเดือนร้อนของประชาชน

สรรเพชญ เตือนผลประโยชน์ทับซ้อน 'เงินดิจิทัล' อาจทำรัฐบาลตกม้าตาย

นายสรรเพชญ บุญญามณี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสงขลา ได้ออกมาเตือนรัฐบาลเรื่อง “เงินดิจิทัล” อีกครั้ง โดยหวั่นว่าจะเกิดผลประโยชน์ทับซ้อนตามที่สาธารณชนได้วิจารณ์กัน

มือปราบโกงจำนำข้าว ปล่อยคลิปเตือน 'ผู้บริหาร ธ.ก.ส.' เสี่ยงคุกเซ่นดิจิทัลวอลเล็ต!

ผู้บริหารธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ต่อโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย