
กรมการค้าต่างประเทศเตรียมยกระดับตรวจสอบการนำเข้าเศษกระดาษจากต่างประเทศ เนื่องจากได้รับรายงานว่า มีขบวนการนำเข้าเศษกระดาษปะปนกับขยะและของเสียอื่น เช่น ขยะเทศบาล และขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งก่อให้เกิดมลพิษส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน
29 ก.ย. 2566 – นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ปัญหามลพิษด้านสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาสำคัญระดับประเทศ เพราะส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ โดยตรง ทั้งมลพิษทางน้ำ ดิน และอากาศจากฝุ่นละออง pm 2.5 ซึ่งการนำเข้าเศษกระดาษที่มีสิ่งเจือปนอื่นๆ โดยเฉพาะขยะเทศบาลหรือขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ก็จะถูกทิ้งให้เป็นขยะชุมชน และหากมีการกำจัดที่ไม่ถูกวิธีก็จะก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมต่อไปได้ ดังนั้น การปกป้องรักษาสิ่งแวดล้อมต้องได้รับความร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคการผลิต ได้แก่ โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายโรงงานและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด รวมทั้งผู้นำเข้าก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายด้วยเช่นกัน โดยไม่นำขยะปนเปื้อนและของเสียเป็นพิษเข้ามาในประเทศ
ทั้งนี้ กรณีการนำเข้าเศษกระดาษ ถือเป็นของเสียที่ไม่เป็นอันตราย ผู้ประกอบการสามารถที่จะนำเข้าและส่งออกได้ตามอนุสัญญาบาเซลว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้ายข้ามแดนของของเสียอันตรายและการกำจัด ซึ่งเป็นมาตรการด้านกฎหมายระหว่างประเทศในการควบคุมการเคลื่อนย้ายและการจัดการของเสียอันตรายในระดับสากล แต่ถ้าหากมีการนำเข้าเศษกระดาษที่ปะปนกับของเสียและขยะอื่น โดยเฉพาะขยะเทศบาลและขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นของเสียที่เป็นอันตรายและห้ามนำเข้า ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้ขยะเทศบาลเป็นสินค้าที่ต้องห้ามนำเข้าและห้ามนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ. 2562 และประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้ขยะอิเล็กทรอนิกส์เป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2563 ก็จะถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการค้าต่างประเทศในฐานะหน่วยงานที่มีอำนาจตาม พ.ร.บ. การส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ได้ให้ความสำคัญกับการค้าที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย ซึ่งการนำเข้าเศษกระดาษที่ปะปนขยะ นอกจากจะผิดกฎหมายและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังส่งผลต่อกลไกการรับซื้อเศษกระดาษภายในประเทศอีกด้วย ดังนั้น จึงขอเตือนให้ผู้นำเข้าเศษกระดาษหยุดการกระทำที่ผิดกฎหมาย หากฝ่าฝืนกรมฯ จะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
EU เตรียมคุมเข้มสินค้าเคมีภัณฑ์ที่ทดลองกับสัตว์
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในขณะนี้สหภาพยุโรป (EU) มีแนวโน้มที่จะยกระดับการคุ้มครองสวัสดิภาพสัตว์ ยกตัวอย่างเช่น ในปี 2556
'คต.' ปลื้มชาวจีนแห่ชื่นชมข้าวไทย
กรมการค้าต่างประเทศจัดคณะผู้แทนเดินทางไปร่วมจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ข้าวไทย ภายใต้แนวคิด “Think Rice Think Thailand” ในงาน The 20th China – ASEAN Expo ณ เมืองหนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 16 – 19 กันยายน 2566 มีผู้สนใจล้นหลามเกินคาดตลอดงาน
พาณิชย์แจ้ง ส่งออกแล็ปท็อป แท็บเล็ต & คอมพิวเตอร์ ไปอินเดียต้องขออนุญาต ดีเดย์ 1 พ.ย. 66 นี้
อินเดียประกาศ Notification No. 26/2023 แก้ไข Notification No. 23/2023 Amendment in Import Policy of Items under HSN 8471 กำหนดให้สินค้ากลุ่มคอมพิวเตอร์พิกัดศุลกากร 8471 ที่จะนำเข้าอินเดียต้องขอใบอนุญาต ตามนโยบาย Make in India หวังเป็น Hub ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และคัดกรอง “คู่ค้าที่เชื่อถือได้” โดยมาตรการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการผลิตและจัดจำหน่ายยักษ์ใหญ่ในอินเดีย รวมถึงผู้ส่งออกไทยใน Supply chain ที่ต้องเตรียมพร้อมรับมือความท้าทายใหม่
อินเดียจ่อห้ามส่งออกน้ำตาล คาดทำให้ราคาฯพุ่ง
รัฐบาลอินเดียเตรียมประกาศห้ามส่งออกน้ำตาลฤดูกาลหน้า เพื่อสงวนใช้ในประเทศให้เพียงพอ ปัจจุบัน ราคาน้ำตาลโลกถูกกำหนดโดย 3 ยักษ์ใหญ่ผู้ส่งออก คือ บราซิล ไทย และอินเดีย หากอินเดียดำเนินมาตรการข้างต้นจะส่งผลกระทบให้ราคาน้ำตาลโลกเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
พาณิชย์เดินหน้าลุยค้าชายแดนอีสานเหนือกระตุ้นการลงทุน
กรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เดินหน้าต่อหวังปลุกเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) จาก “มหกรรมการค้าชายแดน ณ จังหวัดหนองคาย” ระหว่างวันที่ 21-23 กรกฎาคม 2566 สานต่อความสำเร็จจากมหกรรมการค้าชายแดน จ.สระแก้ว ก่อนตลุยช่วย SEZ นราธิวาส เดือนหน้า
เสียงแตก หนุน - ค้าน แก้ไขกฎหมายตอบโต้การทุ่มตลาด
กรมการค้าต่างประเทศชงผลการประเมินการบังคับใช้ และข้อเสนอแนะการแก้ไข พ.ร.บ.ตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนฯ ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาแล้ว หลังผลการรับฟังความเห็น กลุ่มเห็นด้วย ต้องการปรับแก้ให้เข้มขึ้น ส่วนกลุ่มไม่เห็นด้วย เห็นว่าช่วยปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศมากไป ผู้บริโภคกระทบ เตรียมตั้งคณะทำงานศึกษาเชิงลึกต่อ ก่อนสรุปจะแก้ไขหรือไม่