
‘พิชัย’ ชักแม่น้ำทั้งห้า หวัง กนง. ลดดอกเบี้ย กระตุ้นเศรษฐกิจ-หนุนส่งออก วอนแบงก์ชาติอ่อนเกณฑ์ LTV ยืดหยุ่นปล่อยสินเชื่อมากขึ้น
24 ก.พ. 2568 – ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันพุธที่ 26 ก.พ.นี้ว่า ทุกประเทศตอนนี้เรื่องของการพิจารณาเรื่องอัตราดอกเบี้ยเป็นเรื่องของการพิจารณาจากเงินเฟ้อ โดยเงินเฟ้อของประเทศไทยถือว่าต่ำอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ หากเงินเฟ้อลงแล้วสามารถเพิ่มความร้อนแรงทางเศรษฐกิจได้บ้างก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีกว่าปีที่แล้ว ปีที่แล้วนั้นตัวเลขเศรษฐกิจขยายตัวได้ 2.5% แต่ว่าในสองไตรมาสแรกของปีนั้นทำอะไรไม่ได้ เมื่อมาดูว่าการเติบโตของเศรษฐกิจนั้นในไตรมาส 3 – 4 ของปีเป็นเท่าไหร่ แล้วเราทำให้เศรษฐกิจขยายตัวต่อเนื่องได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
นายพิชัย กล่าวว่า ในเรื่องของการลดดอกเบี้ยลงนอกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจยังช่วยเศรษฐกิจไทยได้ ในเรื่องของการส่งออกเนื่องจากค่าเงินที่อ่อนค่าลงจะเป็นประโยชน์กับประเทศส่งออก โดยขณะนี้ประเทศนั้นค่าเงินถือว่ายังแข็งค่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ซึ่งเรื่องนี้ต้องดูย้อนหลังไปก็จะเห็นว่าแนวโน้มค่าเงินของเราแข็งขึ้น ซึ่งค่าของเงินเป็นผลลัพธ์ของมาตรการต่างๆ และเกี่ยวข้องกับความสามารถในการแข่งขัน เรื่องนี้ในตอนที่ตนเองเดินทางไปต่างประเทศ ล่าสุดที่ไปยังประเทศญี่ปุ่นได้มีการหารือกับรัฐบาลของญี่ปุ่นในเรื่องนี้ ซึ่งญี่ปุ่นบอกว่าเขาเป็นประเทศส่งออกค่าเงินก็เคยแข็งค่าอยู่นานก็อ่อนค่าลง โดยได้ประโยชน์จากการส่งออก แต่ว่าในเรื่องของการนำเข้าผู้ประกอบการก็ได้รับผลกระทบบ้าง แต่ว่าเศรษฐกิจของเขาก็ฟื้นขึ้นมาได้ ตอนนี้ถ้ามองเรื่องอะไรต้องไม่มองด้านเดียว ต้องมองว่าทำอย่างไรให้มีเงินหมุนเวียนและเหมาะสมกับสถานการณ์ สำหรับเงินกู้ที่ธนาคารพาณิชย์มีการปล่อยกู้โดยเฉพาะการปล่อยกู้ให้กับเอสเอ็มอี ปัจจุบันในเรื่องนี้มีการกระเตื้องขึ้นในทางเศรษฐกิจ ก็น่าจะมีความยืดหยุ่นในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น
นอกจากนั้นในเรื่องของอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV ratio) เรื่องนี้ตนเองพยายามพูดเช่นกันให้มีการผ่อนคลายมาตรการ คิดว่าเรื่องเหล่านี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีข้อมูลเหล่านี้หมดแล้ว น่าจะมีการใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการพิจารณาด้วย ทั้งนี้ ได้มีการหารือกับ ธปท. และสถาบันการเงินเพิ่มเติมเรื่องของการเพิ่มมาตรการแก้หนี้ครัวเรือน และการปรับโครงสร้างหนี้ ที่มีบางเรื่องที่สามารถที่ปรับโครงสร้างได้อัตโนมัติ ซึ่งเร็วๆ นี้จะมีมาตรการออกมาเพิ่มเติม ซึ่งเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ถือว่าเป็นเป้าหมายในการทำงานที่สำคัญของรัฐบาล
“เรื่องของการแก้หนี้มีอยู่หลายล้านบัญชี ซึ่งในขณะนี้ก็ต้องดูว่าจะทำอะไรเพิ่มเติมได้ อาจเป็นการลดเลยได้หรือไม่ เพราะลูกหนี้ที่เป็นรายย่อยมากๆ ก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไร การปรับโครงสร้างหนี้ในส่วนนี้เป็นเรื่องวิธีการในการจะปรับแต่หลักการยังเหมือนเดิม”นายพิชัย ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'พิชัย' ขอรอดูประเทศอื่นก่อน หลังเลื่อนเจรจาภาษีสหรัฐ บอกรีบเกินไปก็ไม่ดี
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ในฐานะหัวหน้าทีมเจรจาการค้าไทย-สหรัฐฯ แถลงถึงสาเหตุการเลื่อนเจรจากับสหรัฐฯว่า เพราะขอรอดูสถานการณ์ก่อน โดยต้องการศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ
ครม.ไฟเขียว ‘สมชัย สัจจพงษ์’ นั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติคนใหม่
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมคร
เลื่อนไม่มีกำหนด! 'ทรัปม์' ยังไม่ได้เรียกคุย ทีมไทยแลนด์แม่สายบัว
มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่าขณะนี้ ทีมไทยแลนด์ ที่มีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ในฐานะ หัวห
ธปท.ชี้ภาษีสหรัฐส่งผล ‘สินค้าไทย’ เจอการแข่งขันรุนแรง
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกบทวิเคราะห์ผลกระทบของนโยบายการค้าโลกต่อเศรษฐกิจไทย โดยระบุว่า นโยบายการค้าของสหรัฐ รวมถึงการตอบโต้ของประเทศเศรษฐกิจหลัก จะส่งผลต่อภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจ การเงิน และการค้าโลกอย่างมีนัย สถานการณ์คาดว่าจะยืดเยื้อ