คลังโยน 'บิ๊กตู่' ชี้ขาดลดภาษีดีเซล

คลังโยน “บิ๊กตู่” ชี้ขาดลดภาษีสรรพสามิตดีเซลอุ้มราคาน้ำมัน หลังพลังงานเตรียมชง ครม. เคาะแพ็คเกจดูแลค่าครองชีพหมวดพลังงาน

11 ก.พ. 2565 – นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานเตรียมจะเสนอแพ็คเกจมาตรการดูแลค่าครองชีพในหมวดพลังงานให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน พิจารณาในวันที่ 15 ก.พ. 2565 โดยมาตรการภาษีสรรพสามิตน้ำมันก็รวมอยู่ในแพ็คเกจดังกล่าวด้วย ซึ่งนโยบายหลักของรัฐบาลคือการตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ส่วนรายละเอียดคงต้องรอทางกระทรวงพลังงานก่อน

“แพ็คเกจดูแลค่าครองชีพในหมวดพลังงานนั้น เพื่อจะไปดูแล ช่วยเหลือ และบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน ซึ่งมาตรการทางภาษีก็เป็นกลไกหนึ่งที่จะพิจารณาพร้อมกับกลไกของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งแพ็คเกจจะพิจารณาในภาพรวมทั้งหมดทุกด้าน โดยเฉพาะขีดความสามารถของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ก่อนหน้านี้ได้มีการขยายเพดานการกู้เงินเพิ่มอีก 2 หมื่นล้านบาท ของเดิมอีก 1 หมื่นล้านบาท รวมเป็น 3 หมื่นล้านบาท รวมถึงต้องติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิดด้วย เพราะราคาน้ำมันบางช่วงมีขึ้น บางช่วงมีลง และการตรึงราคาน้ำมันตรงนี้ ไม่ได้มีแค่เรื่องภาษี แต่กองทุนก็ยังมีเงินนำส่งเข้ามาอยู่ ทั้งกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และกองทุนอนุรักษ์พลังงาน โดยรายละเอียดทั้งหมดอยากให้รอฟังทางกระทรวงพลังงาน” นายอาคม กล่าว

นายอาคม กล่าวอีกว่า ปัจจุบันมีเม็ดเงินจากหลายส่วนที่คาดว่าจะสามารถนำมาใช้ในการดูแลราคาพลังงานได้ อาทิ เงินงบประมาณ และเงินกู้จาก พ.ร.ก. กู้เงินโควิด-19 เพิ่มเติม วงเงิน 5 แสนล้านบาท ที่ยังมีวงเงินเหลืออยู่ โดยเม็ดเงินในส่วนนี้จะใช้ได้หรือไม่ได้นั้นต้องไปดูวัตถุประสงค์ ถ้าใช้ได้ก็ใช้ ใช้ไม่ได้ก็คือไม่ได้

รายงานข่าวจากกรทรวงการคลัง ระบุว่า การลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลนั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ ครม. โดยการประชุมในวันที่ 15 ก.พ. นี้ ทางกรมสรรรพสามิตได้ทำทางเลือกเกี่ยวกับการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลแบบขั้นบันได้ ตั้งแต่ 50 สตางค์ จนถึง 5 บาท ให้ ครม. พิจารณาเพื่อให้เห็นภาพรวมทั้งหมด โดยเฉพาะผลกระทบว่าจะทำภาษีหายไปเท่าไร ซึ่งยอมรับว่าจะกระทบกับการจัดเก็บรายได้โดยรวมของประเทศ จนทำให้ปีงบประมาณ 2565 ให้มีปัญหา รายได้ไม่พอกับรายจ่าย

เพิ่มเพื่อน