บอร์ดสปสช.เห็นชอบจัดซื้อรากฟันเทียมผู้ที่ไม่มีฟันทั้งปากจำนวน 7,000 ชุด วงเงินไม่เกิน 21 ล้าน

9มี.ค.65-ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) วันที่ 7 มี.ค. 2656 โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เป็นประธาน มีมติเห็นชอบให้เพิ่มเติมการจัดหารายการรากฟันเทียม เป็นรายการตามแผนการจัดซื้อยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จําเป็นตามโครงการพิเศษ ประจำปีงบประมาณ 2565

ทั้งนี้ที่มาของโครงการดังกล่าว เกิดจากคณะอนุกรรมการกำหนดประเภทและขอบเขตบริการสาธารณสุข มีมติเมื่อวันที่ 25 ก.พ.2564 มอบหมายให้ สปสช.ดำเนินการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการให้บริการผ่าตัดใส่รากฟันเทียมอย่างครบวงจร รวมทั้งดำเนินการโครงการนําร่องการใช้ผลิตภัณฑ์รากฟันเทียมในบัญชีนวัตกรรมไทยโดยมุ่งเน้นการใช้ผลิตภัณฑ์ในบัญชีนวัตกรรมไทยให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ โดยสามารถพิจารณารูปแบบการจัดซื้อรากฟันเทียมที่เหมาะสมกับหน่วยบริการที่ให้บริการในประเทศไทย ใน 2 รูปแบบ คือ 1.จัดซื้อรากฟันเทียมโดยหน่วยงานส่วนกลาง (central procurement) และสนับสนุนรากฟันเทียมให้หน่วยบริการนําไปดำเนินการผ่าตัดใส่รากฟันเทียมให้กับผู้ป่วย และ 2.ทำการเจรจาต่อรองราคารากฟันเทียมแบบรวมศูนย์ (central bargaining) กำหนดคุณสมบัติของรากฟันเทียมและกรอบอัตราเบิกจ่ายที่เหมาะสมเพื่อให้หน่วยบริการดำเนินการจัดซื้อรากฟันเทียมด้วยตนเอง

หลังจากนั้น คณะอนุกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์การดําเนินงานและการบริหารจัดการกองทุน วันที่ 18 พ.ย. 2564 มีมติเห็นชอบอัตราราคาบริการอุปกรณ์รากฟันเทียม ราคาค่าผ่าตัด และราคาค่าบำรุงรักษารากฟันเทียม ซึ่งผ่านการต่อรองราคาจากคณะทำงานฯ

ต่อมาที่ประชุมคณะกรรมการ สปสช. วันที่ 6 ธ.ค. 2564 เห็นชอบสิทธิประโยชน์ 6 รายการ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีรายการการผ่าตัดใส่รากฟันเทียมสำหรับผู้ที่ไม่มีฟันทั้งปาก หลังจากนั้นคณะอนุกรรมการจัดทำแผนจัดซื้อยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จําเป็นตามโครงการพิเศษ วันที่ 18 ก.พ. 2565 จึงได้เห็นชอบให้เพิ่มเติมการจัดหารายการรากฟันเทียม เป็นรายการตามแผนการจัดซื้อยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จําเป็นตามโครงการพิเศษ ประจำปีงบประมาณ 2565 จำนวน 7,000 ชุด วงเงินจำนวนไม่เกิน 21ล้านบาท โดยคํานวณจากจำนวนกลุ่มเป้าหมาย 5,513 คน ใช้ 2 ชุด/คน คิดเป็น 11,026 ชุด แต่ปรับลดเหลือ 6 เดือน ตามจำนวนเดือนที่เหลือในปีงบประมาณ 2565

ด้วยเหตุนี้ หลังจากที่คณะกรรมการ สปสช. ได้มีมติเห็นชอบให้เพิ่มเติมการจัดหารายการรากฟันเทียม เป็นรายการตามแผนการจัดซื้อยา เวชภัณฑ์ และ อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จําเป็นตามโครงการพิเศษ ประจำปีงบประมาณ 2565 ตามมติข้างต้นแล้ว สปสช.จะได้แจ้งเครือข่ายหน่วยบริการโรงพยาบาลราชวิถีดำเนินการจัดหาต่อไป

“การเพิ่มเติมรายการรากฟันเทียมเป็นรายการตามแผนการจัดซื้อยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จําเป็นตามโครงการพิเศษ เป็นการสนับสนุนเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้สูงอายุ ทำให้มีฟันในการบดเคี้ยวอาหารที่ช่วยให้ผู้สุงอายุมีสุขภาพที่ดีขึ้น เป็นการพัฒนาชุดสิทธิประโยชน์เพื่อให้ครอบคลุมการดูแลคนไทยทุกกลุ่มวัย” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 1330 ตลอด 24 ชม. หรือ คลิก https://lin.ee/zzn3pU6 เพิ่มเพื่อนไลน์กับ สปสช. @nhso

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ สั่ง 'สปสช.-สปส.' ร่วมยกระดับหลักประกันสุขภาพ

นายกฯ สั่งการเดินหน้าบูรณาการการทำงาน สปสช.- สปส. ร่วมมือการทำงาน เริ่ม 1 เม.ย.2567 ยกระดับหลักประกันสุขภาพตรวจสุขภาพเพิ่มเติมตามกลุ่มช่วงอายุ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

สปสช.ยังค้างจ่ายเงินโรงเรียนแพทย์ร่วม 1,000 ล้านบาท แจงยิบติดค้างรพ.ละเท่าไหร่

รศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ประธานคณะกรรมการอำนวยการเครือข่ายโรงพยาบาลกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (UHosNet) กล่าวถึงกรณี รองเลขาฯ สปสช.ชี้แจงค้างจ่ายเงินโรงพยาบาลโรงเรียนแพทย์ ที่ไม่สามารถเรียกเก็บได้ รวม 369 ล้านบาท ว่าเกิดจากการเรียกเก็บค่าชดเชย ที่ติดรหัส C และติดรหัส DENY นั้น ไม่ครบถ้วน