'ธนพร' เลขาธิการ สกสค. ร้องนายกฯ เกณฑ์ประเมินผลงานไม่เป็นธรรม

5 ม.ค.65- ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนพร สมศรี เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.)​ เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีคัดค้านเกณฑ์ที่จะใช้ในการประเมินการปฏิบัติงานของเลขาธิการ สกสค.ที่ส่อไม่เป็นธรรม

นายธนพร เปิดเผยว่า เหตุที่ต้องมาร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ เนื่องจากได้เคยร้องคัดค้านถึงความไม่เป็นธรรมของเกณฑ์ประเมินต่อคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (บอร์ด สกสค.) ที่มี น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงจำเป็นต้องมาร้องขอความเป็นธรรมกับนายกฯ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกระทบหลักการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาลที่นายกฯให้ความสำคัญ โดยเฉพาะกับหน่วยงานของกระทรวงศึกษาธิการ ที่เป็นแม่พิมพ์ของชาติ ต้องดูแลเด็ก และเยาวชนที่เป็นอนาคตของประเทศ

นายธนพร กล่าวว่า ที่ผ่านมา บอร์ด สกสค.มีมติ​ที่ส่อถึงความผิดปกติหลายครั้ง โดยเปลี่ยนแปลงมติกลับไปกลับมาว่า จะใช้เกณฑ์แบบใดในการประเมิน ก่อนที่จะมีมติให้เกณฑ์การประเมินล่าสุดเป็นที่ยุติ ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ถูกประเมินได้มีโอกาสคัดค้านหากเกณฑ์ประเมินยังคงไม่เป็นธรรม ซึ่งไม่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล และไม่เคยมีปรากฏมาก่อนในระบบราชการ ถือเป็นการละเมิดสิทธิ์ของตนเอง ที่มีสิทธิ์จะไม่ยอมรับกระบวนการที่ไม่เป็นธรรมดังกล่าว จึงจำเป็นต้องร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อนายกรัฐมนตรีในเรื่องนี้

เนื่องจาก เกณฑ์การประเมินการทำงานของเลขาธิการ สกสค.ที่บอร์ด สกสค.ถือเป็นข้อยุติ และห้ามคัดค้าน เป็นเกณฑ์ที่ไม่สามารถผ่านการประเมินได้ ​ตั้งแต่ยังไม่ได้ทำการประเมิน เพราะแม้ทำได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ในแผนปฏิบัติงานของเลขาธิการ สกสค. ซึ่งได้อนุมัติ​จากบอร์ด สกสค.แล้ว จะได้คะแนนเพียงร้อยละ 60 ซึ่งถ้าจะผ่านการประเมินกลับต้องได้คะแนนรวมถึงร้อยละ 65 ขึ้นไป รวมทั้งเกณฑ์​ประเมินก็ถูกกำหนดขึ้นหลังที่ได้ปฏิบัติ​งานเสร็จภารกิจตามระยะเวลาของการประเมินไปแล้ว ทำให้ไม่สามารถย้อนกลับมาทำตามเกณฑ์​ใหม่ได้ ตลอดจนมีการนำหัวข้อด้านสมรรถนะผู้บริหาร ที่ใช้ดุลยพินิจของบุคคลคือกรรมการประเมินในการให้คะแนนโดยปราศจากตัวชี้วัดที่เป็นวิทยาศาสตร์ และไม่ได้กำหนดไว้ในสัญญาจ้างและแผนปฏิบัติงานของเลขาธิการ สกสค.มาใช้เป็นตัวชี้วัดในการประเมินอีกด้วย

นายธนพร กล่าวอีกว่า เมื่อเกณฑ์ประเมินยังเป็นไปในลักษณะไม่เป็นธรรมเช่นนี้ ย่อมไม่สามารถร่วมประเมินได้ และขอยืนยันว่าจะไม่เข้ารับการประเมิน ทั้งที่ความเป็นจริงได้จัดทำเล่มผลงานของเลขาธิการ สกสค.ไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว และอยากที่จะเข้าสู่กระบวนการประเมิน เพราะมั่นใจในผลงานกว่า 1 ปีที่ผ่านมาในฐานะเลขาธิการ สกสค.ได้ทำงานตามแผนงาน และยุทธศาสตร์ รวมทั้งนโยบายโปร่งใส ทันสมัย ใส่ใจบริการ ที่วางไว้

นายธนพร กล่าวต่อว่า สำหรับสาระสำคัญของข้อร้องเรียน ต่อเกณฑ์การประเมิน มีดังนี้ 1.ความผิดปกติที่คณะกรรมการประเมินชุดเดิมลาออกทั้งชุด เมื่อตั้งคณะกรรมการชุดใหม่มีกรรมการประเมินบางคนที่มีอดีตที่ส่อถึงความไม่เป็นกลางและมีอคติต่อผู้ถูกประเมิน 2.คัดค้านเกณฑ์การประเมินที่จะนำมาใช้ เพราะแม้ทำได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ในแผนปฏิบัติงานของเลขา สกสค. ซึ่งได้อนุมัติ​จากบอร์ด สกสค.แล้ว จะได้คะแนนเพียงร้อยละ 60 ซึ่งถ้าจะผ่านการประเมินกลับต้องได้คะแนนรวมถึงร้อยละ 65 ขึ้นไป จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะสามารถผ่านการประเมิน​ตั้งแต่ยังไม่ได้ทำการประเมิน อีกทั้งเกณฑ์​ประเมินนี้ถูกกำหนดขึ้นหลังจากเลขาฯสกสค.ได้ปฏิบัติ​งานเสร็จภารกิจตามระยะเวลาของการประเมินไปแล้ว ไม่สามารถย้อนกลับมาทำตามเกณฑ์​ใหม่ได้ 3.คัดค้านการนำหัวข้อด้านสมรรถนะผู้บริหารซึ่งไม่ได้กำหนดไว้ในสัญญาจ้างและแผนปฏิบัติงานของเลขาธิการ สกสค.มาใช้เป็นตัวชี้วัดในการประเมินเพราะเป็นใช้ดุลย์พินิจ ของบุคคลคือกรรมการประเมินในการให้คะแนนโดยปราศจากตัวชี้วัดที่เป็นวิทยาศาสตร์

นายธนพร กล่าวอีกว่า 4.ตัวชี้วัดหลายงาน ถูกผลกระทบจากภาวะโควิด-19 เช่นโรงแรมครู โรงพยาบาลครูและการตรวจสุขภาพครู ซึ่ง เลขาฯสกสค. ได้ร้องขอให้มีการปรับลดเกณฑ์ประเมินผ่านในหัวข้อเหล่านี้ เนื่องจากสุดวิสัยทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะต้องปฏิบัติตามมาตรการของศบค.และกระทรวงศึกษาธิการแต่กลับไม่ได้รับการพิจารณา 5.มีการประชุม​เปลี่ยนแปลงมติ กลับไปกลับมา ว่าจะใช้เกณฑ์แบบใดในการประเมินของคณะกรรมกาา​ สกสค.จนส่อถึงความผิดปกติ 6.คณะกรรมการ สกสค.มีมติให้ เกณฑ์การประเมินล่าสุดเป็นที่ยุติ จึงไม่เปิดโอกาสให้ผู้ถูกประเมินได้มีโอกาสคัดค้านหากเกณฑ์ประเมินยังคงไม่เป็นธรรมซึ่งไม่เคยมีปรากฏมาก่อนในระบบราชการ

“โดยจากนี้จะเป็นขั้นตอนของสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรีในการดำเนินการเสนอเรื่องพล.อ.ประยุทธ์ พิจารณา”เลขาฯ สกสค.กล่าว

///

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เรืองไกร ตามติด ร้องนายกฯ สั่งสรรพากร สอบภาษีเอ็นแอนด์เอ็น กรณีขายที่ดินให้แสนสิริ

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่า กรณี นายเศรษฐา ทวีสิน แถลงข่าว ตอบโต้นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ เรื่องที่ดินทองหล่อ

บุกร้องนายกฯ สอบสรรหาพนักงานเทศบาลไม่โปร่งใส วอนตรวจข้อสอบใหม่

กลุ่มผู้บริหารท้องถิ่น บุกยื่นหนังสือถึงนายกฯ ร้องสอบสรรหาพนักงานเทศบาล ซัดไม่โปร่งใส ชี้ มีซื้อขายตำแหน่ง วอน ตรวจข้อสอบใหม่ พร้อมเยียวยาผู้เข้าสอบ

'ธนพร สมศรี' ไขก๊อกพ้นเลขาธิการ สกสค.

'ธนพร สมศรี' เลขาธิการ สกสค.แถลงลาออก หลังปมค้านเกณฑ์ประเมินไม่เป็นธรรมยืดเยื้อ เชื่อ มี“อำนาจเหนือระบบราชการ” ลั่นขอสู้ต่อในบทบาทอื่น เพื่อพัฒนาให้สังคมไทยสร้างสรรค์