ระดมสมองสร้างกลไกลดฝุ่น'ภาคเหนือ'

เครือข่ายสภาลมหายใจภาคเหนือ-สสส. ระดมสมองสร้างกลไกแก้ฝุ่น PM 2.5 ภาคเหนือ เร่งสานพลังอาเซียนจัดการปัญหาหมอกควันข้ามแดน ด้านภาคการเมืองดันกม.อากาศสะอาด สร้างพลเมืองตื่นรู้ติดตามค่าฝุ่นเรียลไทม์-ปรับมาตรฐานมลพิษทางอากาศเทียบเท่าสากล

22 มี.ค.2565 – ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวในพิธีเปิดการประชุมเครือข่ายสภาลมหายใจภาคเหนือ ครั้งที่ 1/2565 ว่า สสส. ตระหนักถึงปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชากรไทย ได้ยกระดับความสำคัญของการดำเนินงานลดผลกระทบสุขภาพจากมลพิษสิ่งแวดล้อมให้เป็น 1 ใน 7 เรื่อง ที่กำหนดไว้ในทิศทางและเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2565-2574) สสส. ร่วมกับ สภาลมหายใจภาคเหนือ จัดงานประชุมเครือข่ายสภาลมหายใจภาคเหนือ ครั้งที่ 1/2565 เร่งระดมความคิดจากสภาลมหายใจภาคเหนือ 8 จังหวัด ผู้แทนพรรคการเมือง สถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐส่วนกลางและท้องถิ่น และภาคีเครือข่าย เพื่อนำไปสู่การพัฒนาข้อเสนอ และสร้างกลไกการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน นำไปสู่การแก้ปัญหาวิกฤตฝุ่นควันในประเทศ
“ การแก้ปัญหาต้องอาศัยความร่วมมือผลักดันให้เกิดกฎหมายเพื่ออากาศสะอาด เพื่อเป็นกรอบการทำงานอย่างบูรณาการ รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมเครื่องมือ และมาตรการเพื่ออากาศสะอาด ที่ผ่านมา สสส. ร่วมกับภาคีเครือข่าย พัฒนานวัตกรรมเครื่องมือสู้ฝุ่น รวมถึงโมเดลห้องเรียนสู้ฝุ่น โดยเริ่มแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในระดับพื้นที่ เพราะเป็นพื้นที่ที่มีปัญหารุนแรงมากที่สุด การประชุมครั้งนี้จะช่วยสะท้อนการดำเนินงานแก้ปัญหาฝุ่นควันครอบคลุมทุกมิติ นอกจากนี้ ยังเปิดรับฟังข้อเสนอจากภาคการเมืองและภาคประชาสังคม เพื่อนำไปพัฒนา ปรับปรุง ต่อยอดการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรมในระดับนโยบาย เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในวงกว้าง ” ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าว

นางสาวภาดาท์ วรกานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การผลักดันให้เกิดกฎหมายอากาศสะอาดจะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดและยั่งยืน เนื่องจากมีการปรับปรุงมาจากร่างของภาคประชาชน เน้นการนำกฎหมายมาใช้จัดการต้นเหตุของการเกิดฝุ่น PM 2.5 ที่ผ่านมาได้เสนอร่างกฎหมายแก่นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขณะนี้ อยู่ในกระบวนการผลักดันให้รัฐบาลโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมออกกฎหมายเพื่ออากาศสะอาดคู่ขนานกับ พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม

นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การแก้ปัญหาฝุ่นควันต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งระดับประเทศและระดับอาเซียน เพื่อสร้างกลไกแก้ปัญหาฝุ่นภาคเหนือ เพราะร้อยละ 60 ของหมอกควันมาจากประเทศเพื่อนบ้านร่วมกับการเปลี่ยนเกษตรเชิงเดี่ยว ขณะนี้ พรรคเพื่อไทยเตรียมยื่นร่างกฎหมายอากาศสะอาดเพื่อสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานต่อกฤษฎีกา และเตรียมความพร้อมร่วมมือทำงานกับทุกภาคส่วนเพื่อให้คนไทยเข้าถึงอากาศสะอาดที่เป็นสิทธิพื้นฐาน


นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กฎหมายสิ่งแวดล้อมอยู่ระหว่างการปรับปรุง ซึ่งนำเนื้อหาสำคัญมาจากร่างกฎหมายอากาศสะอาด ได้แก่ การจัดตั้งศูนย์พยากรณ์มลพิษทางอากาศล่วงหน้า 7 วัน เพื่อให้ประชาชนเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันตัวเองจากฝุ่น PM 2.5 การบริหารจัดการเชื้อเพลิงในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน การขยายสถานีตรวจวัดคุณภาพโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และการสื่อสารเพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจให้แก่ประชาชนให้เป็นพลเมืองตื่นรู้ในการลดมลพิษทางอากาศ


ทั้งนี้ การประชุมมีมติเห็นชอบ 3 ประเด็น ได้แก่ 1. การปกป้องสุขภาพ เชิญชวนประชาชนภาคเหนือ 18 จังหวัด ติดตามคุณภาพมลพิษทางอากาศแบบรายนาที 2. เห็นสุขภาพประชาชนเป็นสำคัญ ขอให้ปรับค่ามาตรฐานมลพิษทางอากาศให้เป็นไปตามวาระแห่งชาติ ได้แก่ ค่ามาตรฐานในบรรยากาศทั่วไปของ PM 2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ที่ 37 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่ามาตรฐานในบรรยากาศทั่วไปของ PM 2.5 เฉลี่ยรายปี ที่ 15 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ 3. กฎหมายคือทางออกสำคัญ ขอให้รับร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดเพื่อสุขภาพเข้าสู่กระบวนการของรัฐสภา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เด็กไทย 1 ใน 10 น้ำหนัก/ส่วนสูงหลุดเกณฑ์ กระทบสมอง เสี่ยงปัญหาสุขภาพจิต ป่วย NCDs

นางเบญจมาภรณ์ ลิมปิษเฐียร รองผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากข้อมูลพัฒนาการเด็กปฐมวัยของไทย ปี 2566 โดยกรมอนามัย

วิจัยพบสังคมไทยเหลื่อมล้ำทุกมิติ สื่อสารในครอบครัวลดช่องว่างได้

ผลสำรวจเด็กและเยาวชนไทยปลอดภัยจากความรุนแรงออนไลน์ รั้งท้ายโลกเป็นอันดับที่ 29 เหนือกว่าอุรุกวัยเพียงประเทศเดียวเท่านั้น เมื่อเปรียบเทียบ 30 ประเทศทั่วโลกเมื่อปี 2022

กทม.เนรมิตเมือง 15 นาทีเป็นจริง สร้างพื้นที่สีเขียวอิ่มเอมใจทั่วกรุง

กทม.ทวีความรุนแรง เมืองจมฝุ่น การจราจรติดขัด ขาดแหล่งอาหาร สำรวจคนกรุงเผชิญรถติดเฉลี่ยวันละ 2 ชั่วโมง หรือใน 1 ปีชีวิตติดหนึบอยู่บนรถเท่ากับ

ไขคำตอบ..ออกกำลังกายเป็นนิจ ตัวช่วยอายุยืนยาวห่างไกล NCDs

อุบัติการณ์โรคในยุคนี้ปรากฏว่า "โรคไม่ติดต่อ (NCDs)" กลายเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 คิดเป็น 75% ของสาเหตุการเสียชีวิตทั้งหมด หรือเกือบ 4 แสนคนต่อปี

เปิดผลสำรวจวัยโจ๋ ขีดเส้นสนามกีฬาฟุตซอล ไม่สูบ ไม่เสพ ไม่พนัน

เครือข่ายงดเหล้า และสสส. ส่งเสริมกีฬาเยาวชนจัดฟุตซอล No-L ชิงถ้วยพระราชทานฯ รร. ราชวินิต มัธยม คว้าแชมป์ไปครองสมัยที่ 2 ด้วยสกอร์ 6:0 ในขณะที่ผลสำรวจร้อยละ 90 ต้องการให้สนามแข่งไม่ดื่ม ไม่สูบ ไม่เสพ ไม่พนัน และร้อยละ 84.8 คิดว่ากีฬาฟุตซอลทำให้เยาวชนเห็นคุณค่าของตัวเอง