เทรนด์ปลูกต้นไม้ ระวังทำลายพันธุกรรมธรรมชาติ

กระแสต้นไม้ฟีเวอร์ โดยเฉพาะไม้ด่าง และบอนสี มาแรงฉุดไม่อยู่ ราคาพุ่งทะยานทะลุเลขหกหลัก อย่างน่าประหลาดใจในช่วงสถานการณ์โควิดระบาดมากกว่า 2 ปี ยังลามไปถึงไม้ประดับพันธุ์แปลก ไม้ป่าหายากหลายชนิด ราคาขยับสูง เป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น


ส่วนหนึ่งมาจากดารานักแสดงมีชื่อหันมาเล่นต้นไม้ใบด่างและพากันโพสต์ภาพถ่ายไม้ประดับ เพิ่มกระแสความนิยมให้ร้อนแรง ราคาทะยานขึ้น ดึงดูดให้นักปลูกต้นไม้มือใหม่ และคนสนใจทำธุรกิจขายต้นไม้ในวงการมากขึ้น มีการลงทุน หวังจะได้กำไร ผ่านการเปิดขายแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เติบโตชัดเจน


การนำไม้ป่ามาเลี้ยงเป็นไม้ประดับ หรือการขุดต้นไม้พรรณไม้ตามท้องถิ่นมาขาย ตอบรับกระแสการหาต้นไม้สวยๆ มาตกแต่งบ้าน ประดับคอนโด อาจทำลายทรัพยากรธรรมชาติหรือไม่ ซึ่งผู้เริ่มเลี้ยงต้นไม้ใหม่อาจยังไม่มีการศึกษาถึงวิธีการเลี้ยงที่ถูกต้องและเหมาะสม  กลายเป็นว่า  ต้นไม้ตาย อาจจะเป็นการทำลายพันธุกรรมที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติโดยไม่รู้ตัวก็ได้ การปลูกต้นไม้มีประโยชน์ ช่วยฟอกอากาศ กรองมลพิษ และเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศ แต่การดึงทรัพยากรออกมาจากป่ามากเกินไป จะสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพได้ในภายหลัง  


ผศ.ดร.ธรรมรัตน์ พุทธไทย อาจารย์ประจำคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้เชี่ยวชาญพรรณไม้ บอกว่า กระแสนิยมการปลูกต้นไม้ ไม้ดอก ไม้ประดับในบ้าน  คอนโดมิเนียม หรือตกแต่งที่พักอาศัย  เป็นเรื่องดี ความสวยงามและความเขียวของต้นไม้ ทำให้พื้นที่น่ามอง ต้นไม้ยังให้ออกซิเจน และช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ  ลดอุณหภูมิของบ้านให้เย็นลง และต้นไม้หลายชนิดช่วยดูดฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศทั้ง PM 10  และ PM2.5 การมีพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้นบนฐานความรู้และการออกแบบยังสร้างเมืองน่าอยู่อีกด้วย
แต่อีกแง่มุมผู้เชี่ยวชาญพรรณไม้ออกมาเตือนเพราะความฮอตในการปลูกต้นไม้ ส่งผลไม้ต้นไม้ที่ไม่เคยมีราคาเลยอย่างบอนสี กลับมาเป็นที่นิยม ราคาสูงอย่างไม่น่าเชื่อ แม้แต่พืชป่าก็ได้รับผลพลอยได้จากกระแสความนิยมนี้ พืชพรรณที่ดูแปลก บางต้นใบไม่ด่าง แต่มีจุดสีขาว สีน้ำเงิน  สีชมพู เป็นเอกลักษณ์โดดเด่น ทำให้คนสนใจ มีการซื้อขายกัน  

“ การขุดต้นไม้ รวมถึงพันธุ์ไม้แปลกออกจากธรรมชาติอย่างต่อเนื่องเหมือนเงินสะสมในธนาคารถอนออกไปเรื่อยๆ เงินก็หมด เกิดความอ่อนแอทางการเงิน เช่นเดียวกับต้นไม้จาก 100 ต้น  1,000 ต้น ถอนออกไปเหลือแค่ 10 ต้น นั่นหมายถึงการสูญเสียพันธุกรรมที่ดีจากป่าที่หลงเหลืออยู่ พืชพรรณมีน้อยพันธุกรรมก็อ่อนแอ เกิดโรคง่าย  ส่งผลต่ออนาคตอาจสูญพันธุ์ “  ผศ.ดร.ธรรมรัตน์ บอก
นี่คือคำเตือนแรกเพราะนับตั้งแต่โควิดระบาด คนอยู่บ้าน เวิร์คฟอร์มโฮม กระแสความนิยมปลูกต้นไม้มากขึ้น คนอยากซื้อไปปลูก  มีการปั่นราคา คนอยากขาย เวลาผ่านไปเกือบ 2   ความต้องการยังไม่ลด ต้นไม้หลากหลายชนิด มีทั้งเพาะขยายพันธุ์ และขึ้นตามธรรมชาติเป็นสินค้าในตลาดต้นไม้


ผู้เชี่ยวชาญพรรณไม้บอกว่า การขุดบอนสีจากระบบนิเวศธรรมชาติ อย่างพืชวงศ์บุกบอน มีประโยชน์ด้านอาหารต่อคนในชุมชน เป็นสมุนไพรและไม้ดอกไม้ประดับสวยงาม  ในส่วนดอกยังดึงดูดแมลงมากินน้ำหวาน ผสมเกสร คุณค่าในระบบนิเวศไม่แพ้พืชชนิดอื่นๆ บอนเป็นไม้ในกระแส มีราคา ใครก็อยากมี การขุดออกมาขายมากๆ ส่งผลกระทบต่อพันธุกรรม  ต้นไม้เล็กๆ 1 ต้น ก็มีความสัมพันธุ์เชื่อมระบบนิเวศของผืนป่าใหญ่ พืชบางชนิดเป็นแหล่งอาหารแมลง  หากถูกทำลายไป อาหารน้อยลง ส่งผลสืบพันธุ์ของแมลงก็ลดลง  เสี่ยงต่อจำนวนประชากร ในทางกลับกันพืชที่การผสมเกษรลดลง ทำให้เกิดยีนส์ด้อย กระทบความหลากหลายทางพันธุกรรม  นี่คือ ที่มาของประโยคที่ว่า “ เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว”  

กรณีที่เกิดขึ้นในบ้านเรา มีการนำไม้ป่ามาประดับตกแต่งบ้าน ผศ.ดร.ธรรมรัตน์ บอกว่า จากการค้นพบส้มกุ้งใบเฟิร์นในประเทศไทย เป็นพืชที่หน้าตาคล้ายเฟิร์นมาก หลังตีพิมพ์วารสารทางวิชาการ เว็บไซต์ขายของออนไลน์ต่างประเทศโพสต์ขาย 1 ต้น ราคา 3,000 บาท แสดงว่า มีการนำต้นไม้ออกจากธรรมชาติ  แล้วยังมีกล้วยไม้ป่าหลายชนิด โดยเฉพาะรองเท้านารีพบขายเกลื่อนทั้งออนกราวน์และออนไลน์  ยิ่งไม้แปลก หายาก ราคาจะสูงลิ่ว หรือกลุ่มพืชป่าที่สวยงาม  ซึ่งมีถิ่นอาศัยในป่าธรรมชาติหรือพื้นที่อนุรักษ์  จะต้องมีการบังคับใช้กฎหมายควบคุมอย่างจริงจัง ไม้ประดับเหล่านี้จะต้นเล็กหรือใหญ่มีคุณค่าและความสำคัญเท่ากับไม้พะยูง ไม้สัก ไม้แดง  จะต้องมองไกลไปถึงการรักษาทรัพยากรในอนาคต

“ ถ้ารู้ว่าเป็นไม้ป่า ของป่า อยากจะขอให้คนลด ละ เลิก ซื้อหาไม้ป่ามาเลี้ยงประดับบ้าน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์พันธุกรรมที่ดีเอาให้คนรุ่นหลัง  ย้อนไป 64 ปีก่อน ไทยมีพื้นที่ป่า 50% ของพื้นที่ทั้งหมดของประเทศ ปัจจุบันเหลือ 32% เราต้องเผชิญปัญหาฝนไม่ตกตามฤดูกาล น้ำท่วมดินถล่ม เพราะไม่มีป่าดูดซับน้ำ  ภัยธรรมชาติจะทวีความรุนแรงขึ้นจากภาวะความเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ   คนเข้าป่าเก็บไม้ป่า พืชพรรณแปลกๆ มาขาย ส่วนใหญ่จะลักลอบล่าสัตว์ ตัดไม้ไปด้วย ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติลดลง “ ผศ.ดร.ธรรมรัตน์ กล่าว


หนึ่งในข้อเสนอเพื่อธุรกิจต้นไม้ที่บูมมาก ผศ.ดร.ธรรมรัตน์ เห็นว่า ปัจจุบันการลักลอบขายพืชป่าผ่านออนไลน์เต็มไปหมด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรระดมสมองหาแนวทางศึกษา ส่งเสริม ให้จำหน่ายภายในประเทศและส่งออกต่างประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมายแทนที่จะอยู่ขายในตลาดมืด กลไกนี้จะเกิดขึ้นได้ต้องมีความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพราะการอนุรักษ์อย่างแท้จริงต้องใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน  เพราะทรัพยากรเหลือน้อยเต็มที แต่เป็นจุดเริ่มต้นที่ยังไม่สายไป ลดการเสื่อมโทรมธรรมชาติได้  

การเลี้ยงต้นไม้ต้องมีความรู้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญพรรณไม้แนะนำมือใหม่หัดปลูกว่า เมื่อจะเลือกซื้อต้นไม้หรือเลี้ยงไม้ประดับขึ้นกับความพอใจของแต่ละคน แต่ก็ควรศึกษาและเข้าใจวงจรชีวิตของพืชแต่ละชนิด   และอยากให้พิจารณาเลือกเลี้ยงไม้ประดับที่มีอยู่แล้วโดยทั่วไป และได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีความแตกต่างหลากหลาย เป็นลูกผสม ดอกสวยงาม อยู่ได้ทน  จะปลอดภัยกว่าการนำไม้ป่า ซึ่งยังไม่มีการศึกษาถึงวิธีการเลี้ยงที่ถูกต้องและเหมาะสมมาลองผิดลองถูก ถ้าเลี้ยงไม่ถูกวิธี ไม้ป่านั้นๆ อาจตายได้ภายในระยะเวลาอันสั้น จะทำลายพันธุกรรมที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ไม่ต้องตามกระแสไปหาซื้อต้นไม้ ไม้แปลกต่างๆ มาปลูก ถ้าเลี้ยงต้นไม้จนมีความชำนาญ องค์ความรู้เหล่านี้จะช่วยฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติได้อีกด้วย

ในทัศนะของนักพฤกษศาสตร์คนนี้นอกจากการอนุรักษ์ปกป้องพืชป่าแล้ว เห็นว่า ควรมีการศึกษาต่อยอดเพื่อส่งเสริมเป็นไม้ประดับเศรษฐกิจ เนื่องจากมีใบที่มีสีสันสวยงาม และมีความหลากหลายของใบสูงกว่าพืชกลุ่มอื่นค้นพบ อย่างที่ตนค้นพบพืชชนิดใหม่ของโลกใน “วงศ์ส้มกุ้ง” ซึ่งขึ้นตามเปลือกต้นไม้ใหญ่ในป่า ในพื้นที่เขาสูง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ต่อมาได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ว่า “ชมพูราชสิริน” (sirindhorniana) ตามลักษณะของสีของดอก นอกจากจะขยายผลศึกษาและอนุรักษ์ระบบนิเวศทางธรรมชาติแล้ว ยังสามารถต่อยอดส่งเสริมให้เป็นไม้ประดับเศรษฐกิจ ได้เช่นเดียวกับ”ส้มกุ้ง” หรือ “เบโกเนีย” ชนิดอื่น แต่เนื่องจากเป็นพันธุ์ไม้ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ทิศทางการศึกษาวิจัยจึงควรมุ่งไปที่การอนุรักษ์และการขยายพันธุ์ก่อน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ธุรกิจ 'บอนสี' พืชเศรษฐกิจน่าสนใจเงินสะพัดกว่าพันล้าน/ปี

ธุรกิจ “บอนสี” พัทลุง ทอปเท็นระดับประเทศเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท / เดือน ภาพรวมทั้งประเทศสะพัดพันล้าน ตลาดภายใน 90 ส่งออก 10 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีหน่วยงานรัฐหลักดูแล ถ้าดูแลตลาดต่างประเทศจะไปไกล เพราะบอนสีไทยโดดเด่นที่สุดในโลก