'วิษณุ' ชี้ 2 นายกฯพบกัน เป็นเหตุการณ์แปลกและนิมิตหมายที่ดี ข้าราชการจะได้สบายใจ

25 ส.ค.2566 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี 2 นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายเศรษฐา ทวีสิน พบปะกันถือเป็นเรื่องประวัติศาสตร์หรือไม่ว่า อย่าให้ถึงขั้นเป็นประวัติศาสตร์เลย หมายความว่าเป็นเหตุการณ์ที่แปลกและเป็นนิมิตหมายที่ดี ซึ่งที่จริงนายกฯในอดีตหลายคนพยายามที่จะทำอย่างเดียวกันทุกสมัย แต่ว่าทำไม่ได้ เพราะไม่สะดวกหรือบางทีก็เคอะเขินกันบ้าง

"การที่เคยหาเสียงแข่งกัน วันนี้พอถึงเวลาฝ่ายค้านมาเป็นรัฐบาล ก็อาจจะยังเคอะเขินด้วยกันทั้งสองฝ่าย ก็พยายามจะให้ทำกันอยู่ แต่ว่าไม่ใช่เป็นเรื่องของประวัติศาสตร์อะไร จะทำหรือไม่ทำก็ได้ ถ้าทำก็เป็นนิมิตหมายที่ดี ข้าราชการทั้งหลายจะได้สงบสบายอกสบายใจ จริงๆ นายก พล.อ.ประยุทธ์ ท่านก็ไม่ได้มีอะไรหรอกท่านก็ยินดี" นายวิษณุ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เพื่อไทย' จ่อเคลียร์ใจ 'ปานปรีย์' ชวนนั่งกุนซือพรรค ไม่รู้ 'นพดล' เสียบแทน

'เลขาฯ เพื่อไทย' รับต้องคุย 'ปานปรีย์' หลังไขก๊อกพ้น รมว.ต่างประเทศ แย้มชงนั่งที่ปรึกษาพรรค มั่นใจไม่เกิดแรงกระเพื่อม ปัดวางตัว 'นพดล' เสียบแทน ชี้ 'ชลน่าน-ไชยา' หน้าที่หลักยังเป็น สส.

พท. จัดใหญ่! '10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10' ตีปี๊บผลงาน 'รัฐบาลเศรษฐา'

'เพื่อไทย' เตรียมจัดงาน '10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10' สรุปผลงาน 'รัฐบาลเศรษฐา' 3 พ.ค.นี้ เดินหน้าเติมนโยบายที่สัญญาไว้กับประชาชน พร้อมเปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ.

‘เศรษฐา’ แจงยิบปรับครม. ขอโทษ ‘ปานปรีย์’ ทำให้ไม่สบายใจ บอกมีคนแทนในใจแล้ว

‘เศรษฐา’ เผย ส่งข้อความผ่านกลุ่มงานต่างประเทศขอโทษ ‘ปานปรีย์’ ถ้าทำให้ไม่สบายใจ บอกได้คุยกันก่อนปรับ ครม.แล้ว ชี้มีทั้งคนสมหวัง-ผิดหวัง พร้อมรับผิดชอบ แย้มมองหาคนใหม่ตั้งแต่เมื่อคืน ดีกรี การทูต-การเมือง ทำงานเบื้องหลัง’เพื่อไทย’ มานาน

‘จตุพร’ ซัดอำนาจเบื้องหลังปรับครม. ยังมีจิตปกติหรือไม่ แนะไปตรวจสุขภาพจิต

‘จตุพร’เย้ยอำนาจเบื้องหลังปรับ ครม.ยังมีจิตปกติหรือไม่ แนะรีบไปตรวจสุขภาพจิต อ้างเขี่ยทิ้งชลน่าน สะท้อนเอาแต่ใจตัวเอง ไม่มีมาตรฐานอารมณ์ ส่วน ‘ปานปรีย์’ลาออก รมต.ต่างประเทศ บอกความนัยคนจริง ยึดหลักการ สั่งซ้ายหันขวาหันไม่ได้

‘เด็กเศรษฐา’ ข้องใจ ‘ปานปรีย์’ ลาออกหลังมีพระบรมโองการ ชี้ไม่เคยมีใครทำ

ตกใจกับการตัดสินใจ ที่เกิดขึ้นหลังมีพระบรมราชโองการฯ ซึ่งไม่เคยมีใครกระทำแบบนี้มาก่อน เพราะมันไม่ได้หมายถึงการปฏิเสธตำแหน่งเพียงอย่างเดียว