เค้น 'เศรษฐา' เทหมดหน้าตักใคร! หวั่นซ้ำรอยจำนำข้าว

‘สว.คำนูณ’ ห่วงนโยบายเงินดิจิทัลสุ่มเสี่ยง เค้น ‘เศรษฐา’ เทหมดหน้าตักใคร หวั่นซ้ำรอยจำนำข้าว

11 ก.ย. 2566 – ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 11.19 น. นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา (สว.) อภิปรายนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาว่า นโยบายเติมเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ถือว่าเป็นนโยบายที่สุ่มเสี่ยง ซึ่งการเทหมดหน้าตักในครั้งนี้ ไม่ใช่หน้าตักของพรรคเพื่อไทยหรือของพรรคร่วมรัฐบาลชุดนี้เท่านั้น แต่เป็นหน้าตักของประเทศไทยใช่หรือไม่ เพราะใช้งบประมาณเท่ากับงบประมาณรายจ่าย 1 ปี สำหรับแหล่งที่มาของเงินทุนเป็นการใช้มูลค่าสูง ซึ่งหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะเหมือนโครงการรับจำนำข้าวเหมือน 10 ปีก่อนหรือไม่ และเมื่อแหล่งที่มาของเงินมีปัญหา ไม่ชัดเจน อาจจะไปแตะสินทรัพย์อื่นในประเทศ เช่น เงินสำรองระหว่างประเทศ เหมือนรัฐบาลของพรรคท่านในอดีตที่ตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ แต่ไม่อาจตั้งได้ เพราะเห็นต่างกัน

“ผมขอตั้งคำถามในนโยบายเติมเงินดิจิทัล ที่มาของเงินจะเป็นเงินในงบประมาณ โครงการในงบประมาณ หรือโครงการนอกงบประมาณ ลักษณะใด เมื่อรวมกับโครงการแก้ปัญหาหนี้สินและการพักหนี้ต้องใช้เงินอีกเท่าไร เมื่อรวม 2 โครงการใช้เงินเท่าไร ใช้เงินในงบประมาณหรือนอกงบประมาณ” นายคำนูณ ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นักประวัติศาตร์' ร่อนจม.เปิดผนึกถึงนายกฯแนะ 6 ขั้นตอน ขอคืน 'ปราสาทพระวิหาร'

นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์เฟซบุ๊ก เผยแพร่ จดหมายเปิดผนึก เรื่อง ขอคืนปราสาทพระวิหารและใช้ข้อสงวนสิทธิ์ เรียน ฯพณฯท่านนายกรัฐมนตรี มีใจความว่า

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะดึง 4 กระทรวงแก้เผาอ้อยและพืชไร่

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะลงนาม 4 กระทรวง ควบคุมการเผาอ้อยและพืชไร่ ป้องกันปัญหาฝุ่น PM 2.5 ด้านกระทรวงอุตสาหกรรม โชว์ผลงานเผาอ้อยเป็น 0% คืนอากาศบริสุทธิ์ให้ประชาชนช่วงปีใหม่