รัฐบาล แจงลดเงินสมทบประกันสังคม ช่วยผู้ประกันตน ยังรับสิทธิทดแทนคงเดิม

รองโฆษกรัฐบาล เผยลดเงินสมทบประกันสังคมทุกมาตรามีผลบังคับแล้วถึง ก.ค. เสริมสภาพคล่องนายจ้าง เพิ่มกำลังใช้จ่ายผู้ประกันตนแต่ยังรับสิทธิประโยชน์ทดแทนคงเดิม 

9 พ.ค.2565-น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้มีมาตรการดูแลภาระครองชีพ เพื่อบรรเทาผลกระทบแก่ประชาชนจากทั้งการแพร่ระบาดของโควิด19 และสถานการณ์ราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้นจากปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคยุโรป ขณะนี้หลายโครงการได้เริ่มมีผลบังคับแล้วและมีระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่ พ.ค.-ก.ค. อาทิ มาตรการเพิ่มส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้มแก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็น 100 บาท/เดือน  มาตรการส่วนลดค่าน้ำมันแก่ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง มาตรการลดอัตราค่าไฟแปรผัน(ค่าFt) แก่ผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยและกิจการขนาดเล็กที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน

นอกจากนี้ อีกมาตรการที่เริ่มมีผลบังคับตั้งแต่เดือนพ.ค.- ก.ค.เช่นกัน คือการลดเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมของผู้ประกันตนมาตรา 33 ซึ่งมีอยู่ประมาณ 11.2 ล้านคน ได้ปรับลดทั้งส่วนเงินสมทบของนายจ้างและผู้ประกันตนจากเดิมร้อยละ 5 เหลือฝ่ายละร้อยละ 1 ของค่าจ้าง ส่วนของผู้ประกันตนมาตรา 39 ซึ่งมีอยู่ประมาณ 1.9 ล้านคน ปรับลดอัตราเงินสมทบจาก 432 บาทต่อเดือน ก็ลดลงเหลือ 91 บาทต่อเดือน

สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 40 ซึ่งมีอยู่ 10.7 ล้านคน ได้มีการขยายระยะเวลาลดเงินสมทบเป็นเวลา 6 เดือนตั้งแต่ ก.พ.-ก.ค. 2565 ซึ่งเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2565 ที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษาก็ได้เผยแพร่อัตราเงินสมทบในส่วนของรัฐบาล ซึ่งจะทำให้อัตราเงินสมทบของผู้ประกันตนกับรัฐบาลลดลง ใน 3 ทางเลือก แยกเป็น  1)ผู้ประกันตนที่เดิมจ่ายเงินสมทบอัตรา 70 บาทต่อเดือน ลดลงเป็น 42 บาทต่อเดือน รัฐบาลลดเงินสมทบจาก 30 บาทเหลือ21 บาทต่อเดือน ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน ในกรณีการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย  กรณีทุพพลภาพ และกรณีตาย 

2)ผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบในอัตรา 100 บาทต่อเดือน ลดลงเป็น 60 บาทต่อเดือน รัฐบาลลดเงินสมทบจากเดือนละ 50 บาท เหลือ 30 บาทต่อเดือน ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน ในกรณีการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย กรณีทุพพลภาพ กรณีตาย และกรณีชราภาพ 3)ผู้ประกันตนที่อัตราเดิมจ่ายสมทบ 300 บาทต่อเดือน ลดลงเป็น 180 บาทต่อเดือน รัฐบาลลดงเงินสมทบจาก 150 บาท เหลือ 90 บาทต่อเดือน ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน ในกรณีการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย กรณีทุพพลภาพ กรณีตาย กรณีชราภาพ และกรณีสงเคราะห์บุตร

“รัฐบาลได้ใช้กลไกของกองทุนประกันสังคม เพื่อช่วยเพิ่มกำลังการใช้จ่ายให้กับผู้ประกันตน และลดต้นทุนให้แก่นายจ้างในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อบรรเทาผลกระทบจากทั้งโควิด-19และสถานการณ์ราคาพลังงาน แต่ผู้ประกันตนทุกกลุ่มทั้งตามมาตรา 33,39 และ40 รวมเกือบ 24 ล้านคนยังได้รับการคุ้มครองตามสิทธิประโยชน์ทดแทนเช่นเดิม”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พิชิต' นำทีม พศ. แจง 'เชื่อมจิต' ไม่มีในพระไตรปิฎก เปิดช่องให้ดำเนินคดี

'พิชิต' เรียก 'สำนักพุทธฯ' แถลงยืนยัน 'เชื่อมจิต' ไม่มีในพระไตรปิฎก เปิดช่องให้หน่วยงานเกี่ยวข้อง-ผู้เสียหาย ดำเนินคดีต่อ

รัฐบาลตีปี๊บ! ช่วยลูกหนี้นอกระบบแล้ว 1.4 แสนราย รวมพันล้านบาท

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากนโยบายรัฐบาลและนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาหนี้อย่างครบวงจรทั้งหนี้ในระบบและหนี้นอกระบบ

รัฐบาลชวน รพ.รัฐทั่วประเทศ ร่วมประกวด 'รางวัลศรีสวางควัฒน'

รัฐบาลชวน รพ.รัฐทั่วประเทศ ร่วมประกวดโครงการ 'รางวัลศรีสวางควัฒน' เทิดพระเกียรติ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี

จับตา 22 สิงหา! 'ทักษิณ' พักโทษยังทำได้ขนาดนี้ พ้นโทษจะขนาดไหน

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อยู่ระหว่างการพักโทษ ยังทำได้ขนาดนี้ พ้นโทษแล้วจะขนาดไหน

'เศรษฐา' ลุยเมืองเพชร เยี่ยมชมแหลมผักเบี้ย ปลูกต้นโกงกางกับชาวบ้าน

นายก​ฯ​ ลุยเมืองเพชร เยี่ยมชมโครงการแหลมผักเบี้ย สั่ง 'ก.เกษตร-ท้องถิ่น' นำองค์ความรู้ไปใช้ลดต้นทุนบำบัดน้ำเสีย ทั้งภาคอุตสาหกรรม-เกษตร-ครัวเรือน พร้อมร่วมปลูกป่าชายเลนกับชาวบ้าน

กุนซือใหญ่ เผยข้อมูลสำคัญ ข้าวเน่ามาตั้งแต่ปี 57 เลิกสร้างกระแสพลิกดำเป็นขาว

ข้าวที่รับจำนำ ล้นอยู่ทุกโกดังทั่วประเทศ นั้นเรียกว่าข้าวเน่ามาตั้งแต่ปี 2557 แล้ว ปีนี้ปี 2567 ข้าวเน่านั้นก็เน่าต่อมาอีก 10 ปีแล้ว