น้อมถวายความอาลัย เพจดัง เผยสิ้นเจ้านายองค์สุดท้ายในสายวังหน้า

23 ก.ค.2565 - เพจเฟซบุ๊ก โบราณนานมา โพสต์ข้อความว่า สิ้นเจ้านายองค์สุดท้ายในสายวังหน้า ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๖๕ “หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี” สิ้นชีพิตักษัย สิริชันษา ๑๐๐ ปี นับเป็นพระราชวงศ์องค์สุดท้ายในสายกรมพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า)

เมื่อพูดถึง “วังหน้า” ความทรงจำเรื่องวังหน้าก็แทบจะเลือนหายไปจากการรับรู้และความทรงจำของคนไทยไปแล้ว ในอดีตประเทศเราเคยมี “วังหน้า-วังหลวง-วังหลัง”

คำว่า “วังหน้า” " จริง ๆ ตีความได้หลายอย่าง วังหน้าคือวังที่ตั้งอยู่หน้าวังก็ได้ วังหน้าคือทัพที่ต้องไปอยู่ข้างหน้าเวลามีสงครามก็ได้ ในสมัยโบราณไม่ได้เรียกว่าวังหน้า จะเรียก อุปราชบ้าง พระมหาอุปราชบ้าง เหมือนเป็นผู้ที่รอขึ้นสืบทอดเป็นพระมหากษัตริย์โดยนัย (ไม่ชัดเจน)

เป็นตำแหน่งเตรียมพร้อมเพื่อขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ แต่จริงๆ แล้วในสมัยนั้นเขาอาจจะไม่ได้คิดในเชิงรัชทายาทสืบทอดอำนาจ เขาอาจจะคิดแค่ว่าเป็นตำแหน่งผู้ช่วย มือขวา ควบคุมกำลังให้ไปรบทัพจับศึก ผู้ที่ครองตำแหน่งก็อาจจะไม่ใช่ลูก อาจจะเป็นพี่ เป็นน้อง เป็นลุง เป็นอา คือเป็นผู้ที่ได้รับความไว้วางใจใกล้ชิดจากพระมหากษัตริย์ ตำแหน่งนี้ก็มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เรื่องมาธนบุรี จนถึงสมัยรัตนโกสินทร์

“วังหน้า” พระองค์แรกในสมัยรัตนโกสินทร์ คือ “สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท” เป็นพระอนุชาธิราชร่วมพระชนกชนนีในรัชกาลที่ ๑ แต่พระองค์สวรรคตก่อนรัชกาลที่ ๑ มีเรื่องเล่าลือให้ถึงพระเนตรพระกรรณ รัชกาลที่ ๑ ว่า กรมพระราชวังบวรฯ ได้ออกพระโอษฐ์ตรัสสาปแช่งขณะประชวรและเสด็จทอดพระเนตรรอบ ๆ วังว่า “...ของเหล่านี้ กูอุตส่าห์ทำด้วยความคิดและเรี่ยวแรงเป็นหนักหนา หวังจะอยู่ชมนาน ๆ ก็ไม่ได้ชม ของใหญ่ของโตของกูดี ๆ ของกูสร้าง ใครไม่ได้ช่วยเข้าทุนอุดหนุน กูสร้างขึ้นด้วยกำลังข้าเจ้าบ่าวนายของกูเอง นานไปใครไม่ใช่ลูกกู เข้ามาเป็นเจ้าของครอบครองขอผีสางเทวดาจงบันดาลอย่าให้มีความสุข...“

เมื่อสมเด็จพระราชวังบวรฯ สวรรคต จากนั้นรัชกาลที่ ๑ จึงสถาปนาสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร พระราชโอรส ขึ้นเป็น “กรมพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า)” พระองค์ใหม่ ตามธรรมเนียมแล้วเมื่อเป็นวังหน้า พระองค์ ต้องไปประทับ ณ พระราชวังบวรสถานมงคล (พระบวรราชวัง) แต่รัชกาลที่ ๑ ไม่ทรงเห็นด้วยเพราะทรงรำลึกถึงคำตรัสสาปแช่ง จึงมีพระราชดำรัสว่า “...ไปอยู่บ้านช่องของเขาทำไม เขารักแต่ลูกเต้าของเขา ๆ แช่งเขาชักไว้เป็นหนักเป็นหนา...“ จึงโปรดให้กรมพระราชวังบวรฯ ใหม่ ประทับอยู่ที่พระราชวังเดิม จนเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติขึ้นเป็นรัชกาลที่ ๒ และพระองค์เป็นวังหน้าพระองค์เดียวในสมัยรัตนโกสินทร์ทีไ่ด้ขึ้นครองราชสมบัติเป็น “พระมหากษัตริย์”

ในสมัยรัชกาลที่ ๒ โปรดเกล้าฯ สถาปนา สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมหลวงเสนานุรักษ์ พระอนุชา ขึ้นเป็นวังหน้า มีพระนามว่า “สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาเสนานุรักษ์” แต่พระองค์ ดำรงพระยศเป็นกรมพระราชวังบวรได้เพียง ๘ ปี เสด็จสวรรคตเมื่อพระชนมายุได้เพียง ๔๔ พรรษา และในรัชสมัยนี้ก็มิได้ทรงแต่งตั้งท่านผู้ใดเป็นวังหน้าแทนจนสิ้นรัชกาล

ในสมัยรัชกาลที่ ๓ เมื่อพระองค์ขึ้นครองราชย์ โปรดเกล้าฯ สถาปนา พระองค์เจ้าอรุโณทัย พระราชโอรสในรัชกาลที่ ๑ เป็นพระปิตุลา แต่มีพระชันษาใกล้เคียงกับพระองค์ สถาปนาขึ้นเป็น “สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ” แต่พระองค์ ดำรงพระยศเป็นกรมพระราชวังบวรได้เพียง ๘ ปี เสด็จสวรรคตเมื่อพระชนมายุได้เพียง ๔๗ พรรษา และมิได้ทรงแต่งตั้งพระราชวงศ์พระองค์ใดเป็นวังหน้าจนสิ้นรัชกาล ยาวนานถึง ๑๘ ปี

ในสมัยรัชกาลที่ ๔ วังหน้าในสมัยนี้ค่อนข้างแตกต่างกับวังหน้าในสมัยใด ๆ พระองค์สถาปนา สมเด็จฯ เจ้าฟ้าจุธามณีกรมขุนอิศเรศรังสรรค์ พระอนุชา ขึ้นเป็นวังหน้า แต่โปรดให้เพิ่มพระเกียรติยศเทียบเท่าพระมหากษัตริย์อีกพระองค์หนึ่งเป็น “พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว” พระองค์ดำรงพระยศเป็นกรมพระราชวังบวรนานถึง ๑๔ ปี และพระองค์สวรรคตก่อนรัชกาลที่ ๔

ในสมัยรัชกาลที่ ๕ เกิดการเปลี่ยนแปลงของวังหน้ามากที่สุด เมื่อรัชกาลที่ ๕ ขึ้นครองราชย์ เมื่อพระชนมายุเพียง ๑๕ พรรษา ตำแหน่งวังหน้า พระองค์มิได้เป็นผู้แต่งตั้งแต่เหมือนรัชกาลก่อน ๆ แต่ในที่ประชุมเจ้านายและขุนนางผู้ใหญ่ ตั้ง “พระองค์เจ้ายอดยิ่งยศ”​ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ ดำรงตำแหน่งวังหน้า มีพระราชอิสริยยศว่า “กรมพระราชวังบวร บวรวิไชยชาญ” ทั้งที่ผิดธรรมเนียมโบราณมาก เพราะการแต่งตั้งพระมหาอุปราชถือเป็นพระราชอำนาจส่วนพระองค์ของพระเจ้าแผ่นดินเท่านั้น

ความขัดแย้งระหว่างรัชกาลที่ ๕ กับวังหน้า ก็มีเรื่อยมา วังหน้าเองก็ไม่สบายพระทัยเกี่ยวกับความปลอดภัยของพระองค์เอง วังหน้าอยู่ในตำแหน่ง ๑๕ ปี จึงทิวงคต ทำให้ยิ่งตอกย้ำความเชื่อว่าตำแหน่ง “วังหน้า” นี้มีอาถรรพ์อันเกิดจากพระดำรัสสาปแช่งของกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท

หลังจากนั้นไม่นาน รัชกาลที่ ๕ โปรดเกล้าฯ ให้ประกาศยกเลิกตำแหน่งพระมหาอุปราชฝ่ายหน้าในวันที่ ๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๔๒๘ และโปรดเกล้าฯ สถาปนาตำแหน่ง “สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร” ขึ้นเพื่อระบุรัชทายาทสืบราชบัลลังก์ต่อไป

“กรมพระราชวังบวร บวรวิไชยชาญ” วังหน้าพระองค์สุดท้าย พระองค์มีพระราชโอรสที่เป็นต้นราชสกุลอยู่หลายราชสกุล ได้แก่ วิไลยวงศ์, กาญจนะวิชัย, กัลยาณะวงศ์, สุทัศนีย์, วรวุฒิ, รุจจวิชัย, วิบูลยพรรณ, รัชนี และวิสุทธิ

แต่เจ้านายพระองค์สุดท้ายของสายวังหน้า คือ “หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี” ที่เพิ่ง สิ้นชีพิตักษัย สิริชันษา ๑๐๐ ปี เป็นพระโอรสในพระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ องค์ต้นราชสกุล “รัชนี” ประสูติแต่หม่อมเจ้าพรพิมลพรรณ รัชนี (วรวรรณ) และมีเจ้าพี่ร่วมพระมารดาหนึ่งพระองค์คือ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต

และเมื่อตำแหน่ง “กรมพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า)” ถูกยกเลิกไป พระราชวังบวรสถานมงคล (พระบวรราชวัง) ที่เคยโอ่อ่าจึงค่อย ๆ ลดทอนความสำคัญลง พื้นที่ส่วนหนึ่งถูกนำมายังประโยชน์อื่น ๆ ตามพระราชประสงค์ของรัชกาลที่ ๕ ด้วยทรงไม่ปรารถนาให้กลายเป็นที่ร้างไปเปล่า ๆ เช่น โปรดให้เขตวังชั้นนอกเป็นโรงทหารรักษาพระองค์ วังชั้นกลางโปรดให้จัดเป็นพื้นที่ของพิพิธภัณฑสถาน ณ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย, พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ และพระที่นั่งศิวโมกขพิมาน ส่วนวังชั้นในซึ่งยังมีเจ้านายฝ่ายใน พระธิดาของวังหน้าพระองค์ก่อนๆ ประทับอยู่ ก็โปรดให้จัดเป็นพระราชวังต่อไป และมีเจ้าพนักงานดูแลอยู่เช่นเดิม

วังหน้าที่เคยทรงอำนาจมานานถึง ๑๐๖ ปีก็ค่อย ๆ เลือนหายไปจากการรับรู้และความทรงจำของผู้คนตามกฎอันเป็นธรรมชาติของกาลเวลา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ปิ่น เก็จมณี' เปิดใจครั้งแรก! เผยลูกรู้ทุกอย่างมาหลายปี แค่รอเวลาเลิกเมื่อพร้อม

"ปิ่น-เก็จมณี พิชัยรณรงค์สงคราม" เปิดใจแบบหมดเปลือกครั้งแรก! หลังหย่าขาดจากอดีตสามีที่คบกันมาเกือบ 30 ปี ลูกๆ รับรู้ทุกอย่างมาตลอดหลายปี แค่รอเวลาเลิกกันเมื่อพร้อม ตอนนี้กลับมาใช้นางสาวอีกครั้ง ยังไม่คิดมีใครใหม่ ในรายการ WOODY FM

รำลึก ร.9 วันกีฬาแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติในหลวง-พระราชินี ทรงสืบสานกีฬาเรือใบ

17 ธ.ค.2566 - กองทัพเรือและสมาคมกีฬาแข่งเรือใบแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี 2566 ณ อนุสรณ์สถานราชนาวิกโยธิน (หาดเตยงาม) โ

จากสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ มาเดินตามรอย ‘ในหลวง ร.9’ พิสูจน์ ‘เศรษฐกิจพอเพียง’ ปฏิบัติได้จริงทุกมิติ

“พระเจ้าอยู่หัวมีรับสั่งว่า เศรษฐกิจพอเพียงเปรียบเหมือนบ้าน โครงสร้างบ้านจะมั่นคงอยู่ที่ฐานราก เราต้องพึ่งพาตนเองก่อน พออยู่พอกิน แล้วพัฒนาเป็นขั้นตอนแบบค่อยเป็นค่อยไป”

ชมหลักฐานเก่าแก่'วัดมหาธาตุ' งานสมโภช 338 ปี

วัดมหาธาตุฯ เป็นพระอารามหลวงแห่งแรกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ที่มีความสำคัญด้านประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และศิลปกรรม  ตั้งอยู่ติดสนามหลวง เขตพระนคร ถือเป็นวัดคู่บ้านคู่เมือง เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองสมโภชพระอาราม 338 ปี วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์

เปิดโลกลวดลายผ้าไทยสุดวิจิตร กับละครดังทางช่อง3 'พรหมลิขิต'

เรียกได้ว่าเป็นละครไทยที่กำลังมาแรงที่สุดในตอนนี้ สำหรับ "พรหมลิขิต" ทางช่อง3 ที่นอกจากบทละครจะสนุกและสอดแทรกความรู้ด้านประวัติศาสตร์แล้ว สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ "เครื่องแต่งกาย" ซึ่งหลายคนชื่นชมว่างดงามและใส่ใจในรายละเอียดเป็นอย่างมาก งานนี้ผู้เขียนเลยจะพาไปเปิดโลกของ "ผ้า" ลวดลายต่างๆที่นำมาทำเครื่องแต่งกายของตัวละครในละคร พรหมลิขิต

เตรียมใจให้พร้อม! 'พรหมลิขิต' จันทร์นี้ ดราม่าหนักมาก

ไม่อยากให้พลาด แต่ก็อยากให้เตรียมใจให้พร้อม เพราะ "พรหมลิขิต" วันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายนนี้ เรื่องราวเข้มข้น ถึงพริกถึงขิงไม่ไหว