
ทบ.ระบุการกำหนดชั้นความลับในเอกสารประกอบการชี้แจง กมธ.งบประมาณ เป็นไปตามระเบียบ สำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ 2544
1 ส.ค.2565-พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ตามที่กองทัพบกได้เข้าชี้แจงต่อคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ฯ ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ตามกระบวนการจัดทำงบประมาณของรัฐบาล และต่อมาได้มีการแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อมวลชนถึงเอกสารที่หน่วยงานนำมาเสนอประกอบการประชุมว่าไม่ควรปฏิบัติแบบเป็นเอกสารลับนั้น
ขอเรียนว่า ในกระบวนการนำเสนอข้อมูลให้กับคณะกรรมาธิการ มีทั้งการนำเสนอด้วยเอกสารและการเข้าชี้แจงโดยผู้ที่รับผิดชอบด้านงบประมาณของกองทัพบกและผู้บังคับบัญชาระดับสูง ทั้งนี้เอกสารที่ใช้ประกอบการชี้แจงงบประมาณ กองทัพบกได้ ดำเนินการตามระเบียบ สำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการพุทธศักราช 2544 ข้อ 17 ที่ระบุว่า “การกำหนดชั้นความลับของข้อมูลข่าวสารที่มีชั้นความลับหลายชั้นในเรื่องเดียวกัน ให้กำหนดชั้นความลับสูงสุดที่มีอยู่ในข้อมูลข่าวสารลับนั้น” กล่าวคือกองทัพบกได้กำหนดชั้นความลับของเอกสารที่นำเสนอโดยพิจารณาจากภาพรวมของเอกสารทั้งหมด อย่างรอบคอบตามระเบียบ เนื่องจากเป็นชุดเอกสารเดียวกันที่ข้อมูลมีชั้นความลับหลายชั้น ประกอบด้วยเรื่องยุทโธปกรณ์สำคัญทางทหาร จนถึงการจัดหาครุภัณฑ์ปกติ โดยเฉพาะข้อมูลคุณลักษณะและขีดความสามารถของอาวุธยุทโธปกรณ์ ถือว่าเป็นชั้นความลับทางทหาร ที่มีความสำคัญยิ่งในงานด้านความมั่นคง โดยเฉพาะการป้องกันประเทศ จึงจำเป็นต้องปฏิบัติต่อชุดข้อมูลที่มีหลายชั้นความลับดังกล่าว โดยยึดตามข้อมูลที่มีชั้นความลับสูงสุด เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลข่าวสารที่มีชั้นความลับรั่วไหลหรือถูกนำไปเผยแพร่อย่างไม่เหมาะสม อันจะส่งผลกระทบต่อการบริหารงานของหน่วยงาน
สำหรับการนำเอกสารที่มีชั้นความลับไปแสดงต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ โดยเมื่อพิจารณาเสร็จและหน่วยงานขอคืนเอกสาร แสดงว่าไม่ประสงค์ให้มีการนำไปเปิดเผยต่อ ทั้งนี้การเปิดเผยเอกสารลับของทางราชการ จะต้องได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานเจ้าของเอกสารก่อนถึงจะดำเนินการได้
ขอเรียนว่าในการชี้แจงตามระบบผ่านกลไกของรัฐสภา กองทัพบกได้นำเสนอข้อมูลครอบคลุมทุกด้าน ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบประกอบการพิจารณา อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทุกส่วนต้องตะหนักคือ การที่ผู้ใดส่วนใดที่ได้รับสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลหรือเอกสารลับของทางราชการ จำเป็นต้องให้ความสำคัญในการปฏิบัติตามระเบียบ สำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ พ.ศ.2544 ระมัดระวังในการนำข้อมูลที่ตนเองเข้าถึงไปเผยแพร่ในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง อันอาจนำมาซึ่งการก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ หรือความเสียหายต่อผลประโยชน์แห่งรัฐ รวมทั้งความเข้าใจอันดีของสังคมโดยรวมได้เช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทหารเหยียบทุ่นระเบิด ขาที่ 11 ส่งรักษาด่วน รพ.สุรินทร์
จ.ส.อ. สุจินต์ จิตกรียาน สังกัดกองพันทหารช่างที่ 8 เหยียบทุ่นระเบิด PMN-2 ขณะปฏิบัติหน้าที่ บาดเจ็
ด่วน! ทหารเหยียบกับระเบิดขาที่ 11 ขณะเข้าเคลียร์พื้นที่ 'สัตตะโสม'
ทหารเหยียบกับระเบิดขาที่ 11 ทบ.เผยเกิดเหตุในพื้นที่ "สัตตะโสม"ขณะที่เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดน เพจกองทัพบกเดือด จี้กัมพูชาต้องชัดเจนเรื่องเก็บกู้ทุ่นระเบิด
เกาะช้างรับร่างพลทหารวีรบุรุษ พลีชีพสมรภูมิบ้านหนองจาน
ครอบครัวศรประดิษฐ์ ร่วมรับร่าง พลทหารปฏิพัทธิ์ ศรประดิษฐ์ วีรบุรุษผู้เสียชีวิตในเหตุความไม่สงบที่บ้านหนองจาน ญาติเผยเขาสมัครเป็นทหารเพื่อรับใช้ชาติและดูแลครอบครัว
ทภ.1 แจ้ง 'พลทหารนิธิกร' ไม่ได้เสียชีวิต
กองทัพภาคที่ 1 ชี้แจงกรณีมีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ระบุว่า พลทหาร
นายกฯ แยกเรื่องถกจีบีซี กับทหารขาขาดราย 9 ชี้หน้าที่กองทัพตอบโต้
นายกฯ ชี้ทหารเหยียบทุ่นระเบิดขาขาดรายที่ 9 คนละเรื่องกับประชุมจีบีซี ส่วนการตอบโต้เป็นหน้าที่กองทัพ
ดร.กิตติธัช สอนพวกเท้าราน้ำ 'การทำลายให้สิ้นสภาพ' ไม่ใช่การบุกไปยึดครองกัมพูชา
นักวิชการ อธิบายชัดการทำลายให้สิ้นสภาพ ไม่ใช่การบุกไปยึดครองกัมพูชา หรือทำลายกองทัพกัมพูชาแบบเบ็ดเสร็จ

