26 ส.ค.2565 - ที่สโมสรทหารบก (ส่วนกลาง) ถนนวิภาวดีรังสิต เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ปาฐกถานำ เรื่อง “จากเล็กสู่ใหญ่ : มองการเมืองและประเทศไทยแบบ 360 องศา” หนึ่งในการปาฐกถาและงานสัมมนานำเสนอยุทธศาสตร์เรื่อง ยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนาการเมือง ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยสถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งจัดขึ้น โดยมี นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวเปิดงาน ร่วมด้วย คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง นักศึกษาหลักสูตรพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง (พตส.) ผู้แทนพรรคการเมืองนิสิต นักศึกษา และประชาชนที่สนใจ จำนวน 200 คน ร่วมรับฟัง
นายชัชชาติ กล่าวว่า ระบอบประชาธิปไตยคือความสำคัญของการสร้างระบบจากฐานรากที่เริ่มจากเล็กไปสู่ใหญ่ได้หน้าที่ของ กกต.ไม่ใช่แค่จัดเลือกตั้ง แต่ยังต้องสร้างความเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย และสร้างความโปร่งใสให้กับคนได้ ถ้าหากเด็กรุ่นใหม่ไม่ได้รู้สึกว่านักการเมืองน่ารังเกียจ นั่นคือการสร้างระบบจากฐานรากว่าประชาธิปไตยมีความหมาย ก็สร้างคำตอบให้ประเทศได้
นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า จากเล็กไปใหญ่ หมายถึงความสำคัญของเส้นเลือดฝอยในการพัฒนาการเมือง เนื่องจากกรุงเทพฯ ก็เหมือนร่างกายคน มีเส้นเลือดใหญ่ และเส้นเลือดฝอย แต่ที่ผ่านมาชอบลงทุนกับเส้นเลือดใหญ่ แต่พอเป็นเส้นเลือดฝอยเข้าชุมชนเราอ่อนแอ ยิ่งเส้นเลือดฝอยตีบ ยิ่งทำงานไม่ได้ เช่น ศูนย์สุขภาพชุมชน ที่เจ้าหน้าที่มีเพียง 80 คน แต่ต้องดูแลคนในชุมชน กว่า 100,000 คน ซึ่งไม่เพียงพอ
"กรุงเทพฯ เราใหญ่ดี เช่นรถไฟฟ้าเรามีทุกสี เป็นสีรุ้ง แต่เส้นเลือดฝอยเปราะบาง ทางเดินไม่สะดวก รอรถตู้นาน รถประจำทางน้อย ต้องรอคิววินมอเตอร์ไซค์ มันคือระบบใหญ่ดี แต่เล็กไม่ดี แม้กระทั่งการจัดการขยะ แม้จะมีเตาเผาราคาหมื่นล้าน แต่หน้าบ้านก็ยังมีขยะอุดตัน ส่วนอุโมงค์ยักษ์ที่ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา ดังนั้นจึงต้องให้ความสำคัญ อย่าละเลยสิ่งเล็ก เช่น การลอกท่อระบายน้ำ" ชัชชาติ กล่าว
ผู้ว่าฯกทม. กล่าวอีกว่า จากผลการสำรวจความเห็นที่พบว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองน่าเที่ยว อันดับ 1 แต่เป็นเมืองน่าอยู่อันดับ 98 จาก 144 เมือง ดังนั้นหากทำเมืองให้น่าอยู่ขึ้น นักท่องเที่ยวจะอยากมาท่องเที่ยวเอง ดังนั้นจึงมีกรอบนโยบาย '9ดี' คือ บริหารจัดการดี สุขภาพดี สร้างสรรค์ดี สิ่งแวดล้อมดี ปลอดภัยดี โครงสร้างดี เศรษฐกิจดี เดินทางดี เรียนดี และพัฒนามาเป็น 216 แผน
"หลักการเอาชนะโลกได้คือ การหาเครือข่ายนอกองค์กร เพราะคนฉลาดส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในองค์กรเรา เราต้องหาแนวร่วม เพื่อจะหาคำตอบให้เมือง คนเก่งๆมีศักยภาพพร้อมทุกอย่างจึงเปรียบเสมือนยักษ์ ดังนั้นเราไม่ต้องเป็นยักษ์ แต่เราต้องได้ยักษ์มาเป็นพวกให้ได้ แล้วอาศัยอยู่บนบ่ายักษ์เพื่อให้เราสามารถมองเห็นทุกอย่างได้กว้างไกลกว่า เพื่อไปถึงเป้าหมาย " นายชัชชาติ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สสส.ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรม ‘พัก กะ Park’ เปลี่ยนสวนสาธารณะให้เป็นพื้นที่สุขภาวะ
กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร (กทม.), กลุ่ม we!park และภาคีเครือข่ายพัฒนาเมืองสุขภาวะและชุมชนสุขภาวะ (Healthy Space Alliance)
เช็กเลย! ค่าฝุ่น PM2.5 ทั่วไทย พร้อมคาดการณ์ 7 วันข้างหน้า
ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศประจำวันที่ 25 มีนาคม 2567 ณ 07:00 น. สรุปดังนี้
ส่องสุขภาพ'มอเตอร์ไซด์รับจ้าง'ใน กทม.
“มอเตอร์ไซด์รับจ้าง” เป็นอาชีพที่ใกล้ชิดกับชาวกรุงเทพฯ ทั้งรับส่งผู้โดยสารและเอกสาร ผลจากปัญหาจราจรและความเร่งรีบในการเดินทางของคนเมือง แม้จะเป็นอาชีพที่เสี่ยงอันตรายบนท้องถนนกรุงเทพฯ แต่พวกเขาก็ไม่บอกลางานอิสระนี้ เพราะประกอบอาชีพได้ง่าย
ฝุ่น PM2.5 ยังท่วม 31 จังหวัด เหนือเบาลงเหลือ 3 พื้นที่
ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศประจำวันที่ 22 มีนาคม 2567 ณ 07:00 น. สรุปดังนี้
คนกรุงโล่งจมูก!คุณภาพอากาศปานกลาง
เพจกองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร
'สามารถ' เปิดแผน กทม. ล้างหนี้ BTS ก่อนหมดสัญญาปี 2572
นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก