เช็กเลย 'สปสช.' ยกเลิกสัญญา 9 โรงพยาบาลเอกชนมีผล 1 ต.ค.65

18 ก.ย. 2565 – สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้แจ้งข่าวยกเลิกการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการของโรงพยาบาล (รพ.) เอกชนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 9 แห่ง ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป ได้แก่

1.รพ.มเหสักข์

2.รพ.บางนา 1

3.รพ.ประชาพัฒน์

4.รพ.นวมินทร์

5.รพ.เพชรเวช

6.รพ.ผู้สูงอายุกล้วยน้ำไท 2

7.รพ.แพทย์ปัญญา

8.รพ.บางมด

9.รพ.กล้วยน้ำไท

ทั้งนี้ สปสช.ได้เตรียมความพร้อมรองรับการดูแลประชากรสิทธิบัตรทองดังนี้

1.จัดหาหน่วยบริการปฐมภูมิรองรับประชากร ได้แก่ ศูนย์บริการสาธารณสุข คลินิกเวชกรรม คลินิกชุมชนอบอุ่น คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ และร้านยา ฯลฯ

2.จัดหาระบบบริการปฐมภูมิรูปแบบใหม่เพิ่มเติม ได้แก่ ระบบบริการการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) เพื่อเพิ่มทางเลือกกับให้กับประชาชน

3.จัดหาโรงพยาบาลรับส่งต่อ

4.ประสานและจัดหน่วยบริการแห่งใหม่เพื่อดูแลผู้ป่วยที่มีนัดรักษาหรือติดตามอาการ

สปสช.ขอแจ้งให้ผู้มีสิทธิบัตรทอง 30 บาท (สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ) ที่มี รพ.ทั้ง 9 แห่งเป็นหน่วยปฐมภูมิ/ประจำ หน่วยบริการที่รับส่งต่อ หรือเคยไปรักษารวมถึงที่ยังรักษาที่ รพ.ทั้ง 9 แห่ง ดำเนินการดังนี้

ท่านยังคงใช้สิทธิรักษาที่ รพ.เอกชนทั้ง 9 แห่ง ได้จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2565

ระหว่างนี้ขอให้ท่าน ตรวจสอบสิทธิการรักษาที่เว็บไซต์ สปสช. https://eservices.nhso.go.th/eServices/mobile/login.xhtml
หรือที่ไลน์ สปสช. ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิกลิงค์ https://lin.ee/zzn3pU6 เลือกเมนูตรวจสอบสิทธิ

หรือแอปพลิเคชัน สปสช. เลือกเมนูตรวจสอบสิทธิตนเอง

เมื่อตรวจสอบสิทธิการรักษาของตนเอง

ก.ผู้ที่สถานพยาบาลที่เข้ารับการรักษาเบื้องต้น (หน่วยบริการปฐมภูมิ/ประจำ) และสถานพยาบาลที่รับการส่งต่อ (หน่วยบริการรับส่งต่อทั่วไป) เป็น รพ.ใด รพ.หนึ่งดังนี้ รพ.ประชาพัฒน์, รพ.นวมินทร์, รพ.เพชรเวช, รพ.ผู้สูงอายุกล้วยน้ำไท 2, รพ.แพทย์ปัญญา, รพ.บางมด, รพ.กล้วยน้ำไท

กรณีไม่ใช่ผู้ป่วยรักษาต่อเนื่อง

ระหว่างนี้ ขอให้ท่านลงทะเบียนเลือกหน่วยบริการแห่งใหม่ในเขตพื้นที่ที่ตนพักอาศัย ได้ทางไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี @nhso หรือแอปพลิเคชัน สปสช.

หากไม่มีหน่วยบริการในพื้นที่ให้เลือกลงทะเบียน ไม่ต้องกังวล ขณะนี้ สปสช.อยู่ในระหว่างจัดหาหน่วยบริการเพิ่มเติมเพื่อให้ท่านลงทะเบียนเลือกหน่วยบริการปฐมภูมิ/ประจำ/รับส่งต่อใหม่

ระหว่างที่ท่านยังไม่มีหน่วยบริการประจำ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 หากท่านเจ็บป่วย เข้ารักษาได้ทุกหน่วยบริการปฐมภูมิใกล้บ้านที่อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ดูรายชื่อหน่วยบริการที่อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้ที

เว็บไซต์ สปสช. https://www.nhso.go.th/page/hospital หรือที่เว็บไซต์ Nostra map https://map.nostramap.com/NostraMap/

หรือแอปพลิเคชัน Nostra Map เลือกชั้นข้อมูลที่เขียนว่า รายชื่อสถานพยาบาลในระบบ สปสช.

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

1.สายด่วน สปสช. 1330 กด 6

2.ช่องทางออนไลน์

ด้าน พญ.ลลิตยา กองคำ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ตามที่ สปสช.ได้ยกเลิกสัญญาบริการสาธารณสุขโรงพยาบาล (รพ.) เอกชนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง 30 บาท 9 แห่ง ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป โดย รพ.ทั้ง 9 แห่งนี้ ดูแลประชากรผู้มีสิทธิบัตรทอง จำนวน 696,103 คน ในจำนวนนี้มีเพียง 62,331 คน คิดเป็น 9% ที่ใช้สิทธิรับบริการ โดยเป็นผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 24,058 คน ทั้งนี้ สปสช.ได้เตรียมพร้อมมาตรการรองรับดูแลประชาชน โดยจัดหาหน่วยบริการปฐมภูมิ เช่น คลินิกเวชกรรม คลินิกชุมชนอบอุ่น คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ และร้านยา ฯลฯ พร้อมจัดระบบบริการปฐมภูมิรูปแบบใหม่เพิ่มเติมเพื่อให้บริการ ได้แก่ ระบบบริการการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชน ขณะเดียวกันได้จัดหา รพ.รับส่งต่อ พร้อมกับประสานและจัดหน่วยบริการแห่งใหม่เพื่อดูแลผู้ป่วยที่มีนัดรักษา หรือติดตามอาการ

พญ.ลลิตยากล่าวว่า ผู้มีสิทธิบัตรทอง 30 บาทที่ลงทะเบียนใช้สิทธิกับ รพ.เอกชนทั้ง 9 แห่งนี้ กรณีผู้ป่วยใน ที่ยังนอนอยู่ รพ.รักษาต่อไปจนกว่าจะปลอดภัย กรณีที่เป็นผู้ป่วยนัดรักษาต่อเนื่อง ผู้ป่วยที่มีนัดติดตามอาการ ผู้ป่วยที่รอการผ่าตัด รังสีรักษา เคมีบำบัด และกรณีหญิงตั้งครรภ์ใกล้คลอด ฯลฯ ผู้ป่วยกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเร่งด่วน สปสช.ได้ประสานและจัดหาหน่วยบริการเพื่อให้การรักษาต่อเนื่องแล้ว เบื้องต้นขอให้ท่านติดต่อขอรับเวชระเบียน กับ รพ.ที่ท่านรักษาอยู่ในขณะนี้ โดย สปสช.ได้ทำหนังสือถึง รพ.ทั้ง 9 แห่ง เพื่อขอข้อมูลผู้ป่วยพร้อมประวัติการรักษาด้วยเช่นกัน เพื่อใช้เป็นข้อมูลประสานส่งต่อผู้ป่วยรักษาต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยไม่ได้รับการติดต่อจาก สปสช. ขอให้โทรมายังสายด่วน สปสช. 1330 กด 6 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการต่อไป

สำหรับผู้ป่วยไตที่มีนัดฟอกไตกับทั้ง 9 รพ.เอกชนนี้ คงรับบริการได้ตามนัดเหมือนเดิม เนื่องจากการยกเลิกสัญญาไม่ได้รวมถึงการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ สั่ง 'สปสช.-สปส.' ร่วมยกระดับหลักประกันสุขภาพ

นายกฯ สั่งการเดินหน้าบูรณาการการทำงาน สปสช.- สปส. ร่วมมือการทำงาน เริ่ม 1 เม.ย.2567 ยกระดับหลักประกันสุขภาพตรวจสุขภาพเพิ่มเติมตามกลุ่มช่วงอายุ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ข่าวดี บัตรทองให้สิทธิ 'มะเร็งครบวงจร' คัดกรอง-รักษา-ดูแลระยะท้าย

รัฐบาลเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบาย “มะเร็งครบวงจร” ภายใต้สิทธิบัตรทองอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกัน ตรวจคัดกรอง ดูแลรักษา

สปสช.ยังค้างจ่ายเงินโรงเรียนแพทย์ร่วม 1,000 ล้านบาท แจงยิบติดค้างรพ.ละเท่าไหร่

รศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ประธานคณะกรรมการอำนวยการเครือข่ายโรงพยาบาลกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (UHosNet) กล่าวถึงกรณี รองเลขาฯ สปสช.ชี้แจงค้างจ่ายเงินโรงพยาบาลโรงเรียนแพทย์ ที่ไม่สามารถเรียกเก็บได้ รวม 369 ล้านบาท ว่าเกิดจากการเรียกเก็บค่าชดเชย ที่ติดรหัส C และติดรหัส DENY นั้น ไม่ครบถ้วน