'ทิพานัน' คุยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ให้ความสำคัญ MSMEs มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ทั้งเสริมแหล่งทุน-ช่องทางขาย-ขยายวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์-ดันดิจิทัล พาไทยเติบโตสู่ตลาดโลก
12 ม.ค.2566 - น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ครั้งที่ 1/2566 ว่า ในปี 2565 รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประสบความสำเร็จในการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดย่อมและขนาดกลาง (Micro, Small and Medium-sized Enterprises: MSMEs) พบว่า เป็นความสำเร็จที่จำนวนวิสาหกิจขนาดย่อมและขนาดกลาง มี 3.21 ล้านราย คิดเป็น 99.55% ของจำนวนวิสาหกิจทั้งหมดของไทย เพิ่มขึ้น 0.67% เมื่อพิจารณาขนาดวิสาหกิจแบ่งเป็น รายย่อย (Micro-sized Enterprises) 2,742,416 รายคิดเป็น 85.74%, ขนาดย่อม (Small-sized Enterprises) จำนวน 412,962 รายคิดเป็น 12.91%, และขนาดกลาง (Medium-sized Enterprises) จำนวน 43,106 รายคิดเป็น 1.35% โดยในปี 2564 มูลค่า GDP ของวิสาหกิจขนาดย่อมและขนาดกลางมีจำนวน 5.60 ล้านล้านบาท และคาดขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9 คิดเป็นมูลค่า GDP ของวิสาหกิจขนาดย่อมและขนาดกลางปี 2565 จำนวน 6.02 ล้านล้านบาท
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า นอกจากมูลค่า GDP ที่เพิ่มขึ้นแล้ว ในปี 2565 กลุ่ม MSMEs วิสาหกิจขนาดย่อมและขนาดกลางยังมีจำนวนการจ้างงานสูงถึง 12.60 ล้านคน คิดเป็น 71.75% ของการจ้างงานทั้งประเทศ ดังนั้นรัฐบาลจึงเดินหน้าส่งเสริม MSMEs อย่างเต็มที่เพราะเป็นเครื่องจักรสำคัญในด้านเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นจึงมีมาตรการช่วยเหลือต่างๆ เช่น จัดทำฐานข้อมูล Big Data การสนับสนุนแหล่งทุนในรูปแบบต่างๆ การสนับสนุนเชื่อมโยงระหว่างผู้ซื้อรายใหญ่กับผู้ขายรายย่อย และที่สำคัญคือ ความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมเอเปก 2022 โดยรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ ประสานความร่วมมือและผลักดันให้ MSMEs วิสาหกิจขนาดย่อมและขนาดกลางเป็นประเด็นพัฒนาร่วมกัน กับเอเปกที่มี 21 เขตเศรษฐกิจเข้าร่วม โดยประชากรรวม 1 ใน 3 ของโลก มีผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) รวมกันและมูลค่าการค้ารวมกันเกินครึ่งของโลก เป็นตลาดสินค้าขนาดใหญ่ของโลกยอมรับในเป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bangkok Goals on BCG Economy) และมุ่งมั่นสนับสนุนสินค้าและการค้าการลงทุนของ MSMEs ในตลาดต่างประเทศ ดังนั้นทิศทางของรายได้และการพัฒนาวิสาหกิจขนาดย่อมและขนาดกลางของไทยจึงมีแนวโน้มเพิ่มสูงมากขึ้น มีอนาคตที่ดีในตลาดการส่งออกต่างประเทศ
“ที่ผ่านมารัฐบาลสนับสนุนส่งเสริมทั้งทางด้านการเข้าถึงแหล่งเงินทุน การพัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์ การหาช่องทางจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการโดยพัฒนาระบบ SME One ID ที่เป็นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการบริหารงานและให้บริการประชาชน ดังนั้นไม่มีรัฐบาลใดให้ความสำคัญกับ MSMEs แบบรัฐบาลนี้ เพราะท่านนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งใจทำอย่างมุ่งมั่นเพื่ออนาคต ให้ MSMEs ไทยเติบโตและสามารถเข้าไปสู่ห่วงโซ่ของธุรกิจขนาดใหญ่ สามารถเป็นกลไกที่สำคัญที่จะนำพาประเทศก้าวเดินไปข้างหน้า” น.ส.ทิพานัน กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
14 พ.ค.ได้ลุ้น คกก.ค่าจ้างฯ ถกค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ
'คารม' ย้ำขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศ รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ พิจารณาอย่างเหมาะสมและรอบคอบ เผย 14 พ.ค.นี้ คกก.ค่าจ้างฯ เตรียมประชุมพิจารณาค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ
รัฐบาลโวแก้ปัญหาชาวบ้านร้องเรียนได้ถึง 75%
รัฐบาลทำจริง! แก้ไขปัญหาประชาชนแบบจับต้องได้ ไตรมาส 2 ปีงบ 67 ศูนย์บริการประชาชน 1111 แก้ปัญหาเสร็จสิ้นถึง 75%
รัฐบาลกวักมือเรียกผู้กู้ กยศ.ที่ถูกดำเนินคดีเร่งปรับโครงสร้างหนี้ด่วน!
รัฐบาลเชิญชวน ผู้กู้ยืม กยศ. ถูกดำเนินคดีในปี 2557 ที่ยังมีภาระหนี้ค้าง เข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อขยายระยะเวลาชำระหนี้ ปลดภาระผู้ค้ำประกัน
ไฟเขียวเข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติฯ ไม่ถือเป็นวันลา!
รัฐบาลร่วมแสดงความจงรักภักดี และถวายพระราชกุศล เห็นชอบให้รัฐวิสาหกิจ ลาเข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติฯ โดยไม่ถือเป็นวันลา
รัฐบาลห่วงยอดโควิดพุ่ง แต่ขอให้มั่นใจโรงพยาบาลพร้อมรับมือ!
'เกณิกา' เผยรัฐบาลห่วงใยยอดโควิดยังพุ่งหลังสงกรานต์ ขอให้ประชาชนมั่นใจโรงพยาบาลทุกแห่งมีความพร้อมรับมือผู้ป่วยโควิด แนะใส่หน้ากากอนามัยในพื้นที่แออัด รีบตรวจ ATK หากมีอาการคล้ายหวัด
ไฟเขียวพ.ร.ฎ.เลือกสว. สมัคร13พ.ค.รู้ผล2ก.ค.
ครม.คลอดร่าง พ.ร.ฎ. เลือก สว. เปิดรับสมัคร 13 พ.ค. ประกาศผล 2 ก.ค.