“ผบ.ทสส.” พบ “มิน อ่อง ไหล่” ประชุมคณะกรรมการระดับสูง ที่รัฐยะไข่ สานสัมพันธ์ทางทหาร กองทัพไทย ย้ำเดินตามนโยบายรัฐบาลไม่ยุ่งเกี่ยวการเมืองภายใน
20 ม.ค.2566 - กองทัพไทยได้แจกเอกสารประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ข่าว การประชุมคณะกรรมการระดับสูง (High Level Committee : HLC) ไทย–เมียนมา ครั้งที่ 8 จัดขึ้น ระหว่างวันที่19 – 21 มกราคม 2566 ณ เมืองงาปาลี รัฐยะไข่ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยมี พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง ไหล่ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมา เป็นประธานร่วมการประชุมดังกล่าว เป็นการดำเนินการตามกลไกปกติระหว่างกองทัพไทย–กองทัพเมียนมา มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือทางทหารระหว่างกองทัพไทย–เมียนมา ในการรักษาความสงบเรียบร้อยและการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนไทย–เมียนมา รวมทั้งปัญหาเฉพาะอื่นๆ เพื่อความมั่นคงปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนตามแนวชายแดนทั้งสองประเทศ
ที่ประชุมรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) ไทย – เมียนมา การประชุมของหน่วยงานด้านความมั่นคงอื่นๆ และการเยือนของนายทหารระดับสูง รวมทั้ง ความคืบหน้าการดำเนินการโครงการความร่วมมือชายแดน ความร่วมมือด้านการเกษตรกรรม การจัดการฝึกอบรมโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริให้กับทหารเมียนมา เป็นต้น
ที่ประชุมให้ความเห็นชอบต่อการการกำหนดแนวทางความร่วมมือทางทหาร อาทิ การจัดการแข่งขันกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ การแลกเปลี่ยนการเยือนของกำลังพลและครอบครัว การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมทางทหาร และการแลกเปลี่ยนทางการแพทย์ทหาร รวมทั้งการใช้ประโยชน์ของศูนย์ฝึกบรรเทาสาธารณภัย หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย ในการเสริมสร้างความร่วมมือด้านความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ ขณะเดียวกันได้ยืนยันที่จะร่วมมือกันในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน ได้แก่ การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โครงการหมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนาน การส่งผู้หนีภัยการสู้รบ จากเมียนมากลับประเทศ การสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน เป็นต้น
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมาได้แสดงความขอบคุณที่ได้ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ ในการป้องกันและการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงมิตรภาพและความสัมพันธ์ที่ดียิ่งระหว่างประเทศทั้งสอง
ทั้งนี้ กองทัพไทยยึดมั่นในการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง โดยให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงชายแดนที่เกี่ยวกับกองทัพไทย กับกองทัพประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะด้านเมียนมา ซึ่งมีเส้นเขตแดนติดกันมากที่สุดมีความยาวถึง 2,401 กิโลเมตร จึงมีความจำเป็นที่ทั้งสองกองทัพจะดำรงไว้ ซึ่งความสัมพันธ์ ให้เกิดความเข้าใจ และเป็นการป้องกันปัญหาในพื้นที่ชายแดนที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งในระดับประเทศ บรรยากาศการประชุมเต็มเปี่ยมไปด้วยไมตรีจิตมิตรภาพ บนพื้นฐานของความจริงใจและความเข้าใจซึ่งกันและกัน สำหรับการประชุมคณะกรรมการระดับสูงไทย–เมียนมา ครั้งที่ 9 ฝ่ายไทยรับเป็นเจ้าภาพ โดยจะแจ้งกำหนดวัน เวลา และสถานที่ให้ทราบต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ทูตญี่ปุ่น' ขอบคุณตำรวจไทย จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมมอบเกียรติบัตร
พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ให้การต้อนรับ นายโอตากะ มาซาโตะ เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งญี่ปุ่น ประจำราชอาณาจักรไทย และคณะ
ต่ออายุ 'มาตรการ 3 ตัด' แก๊งคอลเซ็นเตอร์เมียนมา
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลภายหลังการประชุมคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน
ชายแดนระอุ! ทหารเมียนมา ถล่มหนักในพื้นที่กลุ่มต่อต้าน เสียชีวิต 2 ราย
รายงานข่าวจากหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร (ฉก.ราชมนู กกล.ราชมนู) เปิดเผยว่า ช่วงเย็นวานนี้ (19 มี.ค.) ทหารเมียนมา จาก กองพลทหารราบที่ 55 (พล.ร.เบา 55) นำกำลังบุกโจมตี กองกำลังกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา
หนุ่มเมียนมา เคยถูกจับลักทรัพย์ เปลี่ยนชื่อย่องกลับมาไทยแต่ไม่รอด
ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสมุทรสาคร พ.ต.อ.ปกฉัตร ชัยสุกวัฒน์ ผกก.ตม.สมุทรสาคร ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตามนโยบายของ พล.ต.ท.ภานุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม.ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ตม.จว.สมุทรสาคร
ตม. ตรวจสอบโรงเรียนในสลัมพม่า กลางเมืองภูเก็ต ไม่พบความผิด
เจ้าหน้าที่ ตม.จว.ภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. , เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง , เจ้าหน้าที่จัดหางานจังหวัดภูเก็ต เข้าไปตรวจสอบสถานที่ซึ่งเป็นกระแสสังคมดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ใน ซ.หัชนานิเวศน์ 2/9 ถ.อนุภาษภูเก็ตการ ต.ตลาดใหญ่
ชายแดนไทยตรึงกำลังเข้ม! KNLA ยึดฐานปูลูตู่สำเร็จ ทหารเมียนมาหนีตายข้ามฝั่ง
กองกำลังกองทัพปลดปล่อยชาติกะเหรี่ยงหรือเคเอ็นแอลเอ (Karen National Liberation Army–KNLA) กองพลน้อยที่ 7 ได้นำกำลังพลโจมตีทหารรัฐบาลเมียนมา