ป.ป.ช.ก้นร้อนลั่นชงแนวทางแก้รถบรรทุกน้ำหนักเกินให้ ครม.มีมติแล้วจี้หน่วยงานเร่งจัดการ

ป.ป.ช.เร่งหน่วยงานรัฐเดินหน้ามาตรการป้องกันทุจริตรถบรรทุกน้ำหนักเกินอย่างจริงจัง เชื่อส่วยสติกเกอร์มีเจ้าหน้าที่รัฐเอี่ยว ตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน แนะนำเทคโนโลยีมาช่วย ลดใช้ดุลยพินิจปิดช่องโกง

01 มิ.ย.2566 - นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ในเรื่องของติดตามควบคุม และลดปัญหาการทุจริตรถบรรทุกน้ำหนักเกิน เป็นเรื่องที่สำนักงาน ป.ป.ช.ได้ดำเนินการขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่อง โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้เสนอมาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับรถบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัดต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) มื่อวันที่ 6 ต.ค.2564 เพื่อเป็นมาตรการในการแก้ไขปัญหา เพราะเล็งเห็นว่าทำให้เกิดความเสียหายต่อทางหลวงแผ่นดินและถนนหมดอายุการใช้งานก่อนช่วงเวลาที่ได้ออกแบบไว้ ทำให้ภาครัฐต้องใช้เงินงบประมาณจำนวนมากในการซ่อมแซมและบำรุงรักษาถนน และยังเป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน โดย ครม.ได้มีมติเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2564 รับทราบข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตดังกล่าว ตามที่ ป.ป.ช.เสนอ และกำหนดให้กระทรวงคมนาคมเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กระทรวงพาณิชย์, กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับข้อเสนอแนะนำไปดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

นายนิวัติไชยกล่าวต่อว่า โดยประกอบด้วย 6 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1.การบังคับใช้กฎหมายให้สามารถเอาผิดและลงโทษผู้ประกอบการที่บรรทุกน้ำหนักเกินได้อย่างเป็นรูปธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 84 2.พิจารณาการจัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน (เอ็มโอยู) ในการควบคุม กำกับ ดูแลถนนในแต่ละเขตความรับผิดชอบอย่างบูรณาการ 3.จัดให้มีการประชุมหารือร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาในประเด็นการบังคับใช้กฎหมาย 4.ให้มีการออกมาตรการให้รถบรรทุกมีใบชั่งระบุน้ำหนักบรรทุกตั้งแต่ต้นทาง โดยเครื่องชั่งที่ได้รับการตรวจสอบมาตรฐานจากสำนักงานกลางชั่งตวงวัด กระทรวงพาณิชย์ การควบคุมน้ำหนักที่ต้นทางให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และรถบรรทุกต้องจัดให้มีป้ายแสดงน้ำหนักที่บรรทุกจริงขณะวิ่งด้วย พร้อมทั้งสร้างช่องทางให้ประชาชนแจ้งเบาะแสเมื่อพบผู้กระทำความผิด 5.ผลักดันการนำระบบเทคโนโลยีอัตโนมัติมาใช้ในการดำเนินการ เช่น เทคโนโลยีการตรวจชั่งน้ำหนักรถบรรทุกโดยใช้เครื่องชั่งน้ำหนักขณะเคลื่อนที่ความเร็วสูง (High-speed weigh-in-motion: HSWIV) และเทคโนโลยีการตรวจชั่งน้ำหนักรถบรรทุกชนิดติดตั้งใต้สะพาน (Bridge weigh-in-motion: BVIM) มาใช้ในการจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินเพื่อลดปฏิสัมพันธ์และการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ในกระบวนการชั่งน้ำหนัก และ 6.เพิ่มมาตรการการกำกับดูแลและตรวจสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานที่มีปัญหาการทุจริต

เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.กล่าวว่า จากการติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินการตามข้อเสนอแนะข้างต้น กระทรวงคมนาคมได้มีการกำหนดเป็นมาตรการระยะสั้นและมาตรการระยะยาวเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานในด้านต่างๆ อาทิ มีการจัดหลักสูตรอบรมให้แก่เจ้าหน้าที่ให้เข้าใจเกี่ยวกับการจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกิน, กรมทางหลวงได้จัดทำ เอ็มโอยูร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดการกับรถบรรทุกที่กระทำผิดอย่างเข้มงวด, นำระบบเทคโนโลยีอัตโนมัติมาใช้ในการดำเนินการ ซึ่งปัจจุบันกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบทได้มีการนำระบบเทคโนโลยีการตรวจชั่งน้ำหนักรถบรรทุกโดยใช้เครื่องชั่งน้ำหนักขณะเคลื่อนที่ความเร็วสูง และเทคโนโลยีการตรวจชั่งน้ำหนักรถบรรทุกชนิดติดตั้งใต้สะพานมาใช้แล้ว แต่ยังขาดการรับรองเครื่องชั่งน้ำหนักจากสำนักงานกลางชั่งตวงวัดเพื่อให้สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้ โดยกระทรวงคมนาคมได้มีแนวทางในการพิจารณารายละเอียดการบันทึกน้ำหนักโดยเครื่องชั่งน้ำหนักขณะรถเคลื่อนที่ หรือ WIM ทุกรูปแบบ และรูปถ่ายจากกล้อง CCTV เพื่อให้สามารถเป็นเครื่องมือตรวจจับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) เพื่อศึกษาวิจัยความพร้อม และความเที่ยงตรงของเทคโนโลยีก่อนนำมาเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบจับกุมในอนาคต และจะดำเนินการตั้งหน่วยชั่งน้ำหนักยานพาหนะเคลื่อนที่ (Spot Check) เพื่อป้องกันรถบรรทุกหลีกเลี่ยงการเข้าจุดชั่งน้ำหนัก เป็นต้น

นายนิวัติไชยกล่าวอีกว่า สำนักงาน ป.ป.ช.ได้เร่งผลักดันให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานเชิงรุกเพื่อป้องกันการทุจริตรถบรรทุกน้ำหนักเกิน เพราะเป็นเรื่องที่ส่งผลเสียกับประเทศชาติ ซึ่งไม่ได้เพียงแต่เรื่องของการบรรทุกน้ำหนักเกิน ยังรวมไปถึงเรื่องที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้ขับขี่บนท้องถนนด้วย อาทิ การที่รถบรรทุกหนักวิ่งช้าแต่วิ่งเลนขวาสุดตลอดทาง ทำให้รถเล็กที่มีความเร็วมากกว่าต้องขับแซงซ้ายซึ่งอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เป็นต้น ในเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ ก็เป็นสิ่งที่ต้องกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจตรากวดขัน บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง รวมถึงกำชับไปยังเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง ควรยึดมั่นในการปฏิบัติงานด้วยความสุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้

“ส่วนตัวเชื่อว่าจากกรณีที่เป็นข่าวส่วยสติกเกอร์ น่าจะมีเจ้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ทุกหน่วยงานที่ร่วมแก้ปัญหาทุจริตรถบรรทุกน้ำหนักเกิน ควรมีการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในกระบวนการติดตามตรวจสอบ เพราะนอกจากจะมีความแม่นยำแล้ว ยังช่วยลดดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งจะเป็นการปิดช่องโหว่ของการทุจริตคอร์รัปชันได้”นายนิวัติไชยกล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'หมอวรงค์' อัดนายกฯแพทองธาร ไม่รู้กาลเทศะ

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า #ชุดขาวไม่คะ หลายท่านน่าจะได้ชมคลิป นายกฯมาดามแพ ถ่ายรูปหมู่ของคณะรัฐมนตรี

นายกฯแพทองธาร นำคณะรัฐมนตรีถ่ายภาพรวมหมู่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล ด้วยรถเบนซ์

อเมซิ่งไทยแลนด์ ‘อดีตอธิการบดีมธ.’ อัด ครม.วงศาคณาญาติโกโหติกา!

ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับ โฉมหน้าคณะรัฐมนต

'ภูมิธรรม' อวยนายกฯ อิ๊งค์มีภูมิปัญญาไม่ต้องติว

'ภูมิธรรม' เผย วาระครม.นัดพิเศษหารือนโยบายพรรคร่วมก่อนแถลงต่อสภา เน้นนโยบายกรอบใหญ่ แก้ปัญหาความยากจน ส่วน ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ คุยพรรคร่วมตลอด เชื่อ 'นายกฯอิ๊งค์' ตอบกระทู้สภาได้ฉะฉาน ไม่ต้องติว

'ทวี' ตอบแล้ว! ปมนักโทษเทวาดาชั้น 14 'ทักษิณ' กลับมาในยุครัฐบาลประยุทธ์

ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงการโต้เถียงกันระหว่างอธิบดีกรมราชทัณฑ์กับ พล.ต.อ.เสรี