โฆษกรัฐบาลเตือนอย่าหลงเชื่อข่าวปลอม รัฐทบทวนสิทธิโอนเงินเข้าบัญชี 5,000 บาทภายในเดือน มิ.ย.นี้ วอนอย่าแชร์ต่อ ป้องกันความสับสนและเข้าใจผิด
08 มิ.ย.2566 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่มีการแชร์และส่งต่อข้อมูลรัฐทบทวนสิทธิโอนเงินเข้าบัญชี จำนวน 5,000 บาท ภายในเดือนมิถุนายนนี้ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด โดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย (Anti-Fake News Center Thailand : AFNC) ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว โดยกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ได้ออกมาชี้แจงข้อมูลดังกล่าวว่าเป็นข้อมูลเท็จ ยืนยันกระทรวงการคลังไม่มีนโยบายโอนเงิน หรือแจกเงิน 5,000 บาทเข้าบัญชีในเดือนมิถุนายนนี้แต่อย่างใด เป็นข่าวปลอมจากผู้ไม่หวังดี ดังนั้น ขอประชาชนอย่าได้หลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว โดยประชาชนสามารถตรวจสอบและรับข้อมูลข่าวสารจากกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ได้ที่เว็บไซต์ www.cgd.go.th หรือโทร 02 127 7000 หรือผ่านทางแฟนเพจ กรมบัญชีกลาง The Comptroller General’s Department
พร้อมกันนี้ โฆษกประจำสำนักนายกฯ ได้ขอความร่วมมือประชาชนอย่าได้ส่งต่อหรือแชร์ข้อมูลอันเป็นเท็จดังกล่าวในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ อีก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสับสนและความเข้าใจผิดขยายไปในวงกว้างเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เมื่อประชาชนได้รับทราบข้อมูลข่าวสารใด ๆ มา หากมีความสงสัยหรือไม่แน่ใจในข้อมูลเหล่านั้น ขอให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและความถูกต้องจากหน่วยงานเจ้าของเรื่องหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนเผยแพร่ หรือแชร์ข้อมูลออกไปให้บุคคลอื่น เพราะหากแชร์ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องนอกจากจะก่อให้เกิดความสับสน และอาจนำไปสู่การหลอกลวงสร้างความเสียหายแก่ประชาชนได้แล้ว ยังผิดกฎหมายด้วย
“กระทรวงยุติธรรมระบุกรณีพฤติกรรมการกด Like และกด Share ของผู้ที่เล่นโซเชียลมีเดียหรือใช้สื่อสังคมออนไลน์ควรรอบคอบ โดยเฉพาะการกดแชร์ ถือเป็นการเผยแพร่ หากการแชร์ข้อมูลนั้นไปกระทบกับบุคคลอื่น อาจเข้าข่ายกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 14 (1) โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” นายอนุชา กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เศรษฐา' เยือนกัมพูชาพบทั้ง 'ฮุน มาแนต-ฮุน เซน'
นายกฯ พร้อมคณะออกเดินทางเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ มั่นใจกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีเพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชนร่วมกัน
อย่างหล่อ! นายกฯ เศรษฐีนิดประกาศมอบเงินเดือนทุกบาททุกสตางค์ให้มูลนิธิ
'เศรษฐา' ประกาศส่งต่อเงินเดือน-เบี้ยประชุมทุกบาทให้มูลนิธิต่างๆ ต่อยอดโอกาสเพื่อกลุ่มเปราะบางในประเทศ ประเดิมมูลนิธิเด็กที่แรก ย้ำ รบ. ต้องมีส่วนช่วยเหลือระยะยาวด้วย
โฆษกรัฐบาลตีปี๊บหนักยกเว้นวีซ่าจีน-คาซัคฯ จะทำให้คนไทยชีวิตดีขึ้น!
โฆษกรัฐบาลเชื่อมั่นความสำเร็จจากการดำเนินมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา กระตุ้นการเดินทางนักท่องเที่ยวจีน เพิ่มความเข้มแข็งศักยภาพการแข่งขันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย
'เศรษฐา' ประเดิมเยือนกัมพูชาแนะนำตัวประเทศแรกในอาเซียน!
นายกฯ เตรียมเดินทางเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ เชื่อมั่นกระชับมิตรภาพและความร่วมมือทุกด้านในฐานะประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิด
ม็อบหวยบุกคลัง! ร้องคืนโควตาสลาก-หยุดขายดิจิทัลเพิ่ม
ม็อบหวยบุกคลัง! ร้องขอคืนโควตาสลาก-หยุดขายดิจิทัลเพิ่ม หวั่นกระทบล็อตเตอรี่ขายลำบาก ด้าน “กองสลากฯ” แจงดิจิทัลใกล้ถึงจุดอิ่มตัว พร้อมนำข้อเรียกร้องไปหารือ
'เศรษฐา' ชู 3 ประเด็นพาอาเซียนมุ่งสู่เศรษฐกิจสีเขียว!
ไทยร่วมมือกับอาเซียน เสริมสร้างศักยภาพและโอกาส ดึงดูดการลงทุนในเศรษฐกิจสีเขียว มุ่งสู่ภูมิภาคของการผลิตที่ยั่งยืน