'สุทิน' เปิดนิทรรศการอาวุธ ต่อยอดอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ลดนำเข้าจากเมืองนอก

งานอาวุธคึกคักกว่า 40 ประเทศเข้าร่วม จีนจัดใหญ่โชว์ เทคโนโลยี "สุทิน"เปิดงาน ต่อยอดอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ลดนำเข้าจากต่างประเทศ ตามนโยบายรัฐบาล เตรียมหารือผู้แทนบริษัทเรือดำน้ำ -ฟริเกตจีน

6 พ.ย.2566 - ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพคเมืองทองธานี นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดงาน งานนิทรรศการอุปกรณ์ป้องกันประเทศหรือ difense & Security 2023 ระหว่างวันที่ 6- 9 พฤศจิกายน มีผู้ประกอบการจากทั้งในและต่างประเทศมากกว่า 500 บริษัทจาก 40 ประเทศทั่วโลก พร้อมทั้งศาลานานาชาติจำนวน 25 ประเทศ

โดยมี พลเอกสนิธชนก สังข์จันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ทหารสูงสุด ผู้แทนเหล่าทัพ นอกจากนี้ได้เชิญ รมว.กลาโหม จากมิตรประเทศ ผบ.เหล่าทัพ สมาชิกอาเซียน และเอกอัครราชทูต

นายสุทิน กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า งานนิทรรศการ difense & Security 2023เป็นงานที่ยิ่งใหญ่และมีความสำคัญสำหรับกระทรวงกลาโหมและกองทัพไทย เป็นที่ประจักษ์ทั่วกันว่าเป็นงานนิทรรศการสร้างเครือข่ายชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน ทางด้านความมั่นคงและความปลอดภัยแห่งเอเชียที่ครอบคลุมการทหารทั้ง 3 เหล่าทัพ

นิทรรศการ difense & Security 2023 ถูกสร้างสรรค์บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือทุกระดับชั้นภายใต้แนวคิด พลังแห่งความร่วมมือ โดยนิทรรศการนี้ ได้นำประวัติอันยาวนานและแน่นแฟ้มในความร่วมมือกันระหว่างบริษัทนานาชาติที่ประกอบธุรกิจ รักษาความปลอดภัยและความมั่นคงภายใน มาใช้ให้เกิดประโยชน์ จะเปิดโอกาสให้บุคลากรทางทหาร ได้สร้างความสัมพันธ์ เชื่อมตรงกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนร่วมอาชีพ เพื่อสานสัมพันธ์ไมตรีแห่งประชาคมโลก

การจัดนิทรรศการครั้งนี้ถือว่าเป็นประโยชน์แก่กองทัพอย่างยิ่ง และภูมิภาคในอาเซียน ทั้งนี้กระทรวงกลาโหมเล็งเห็นว่า นิทรรศการ difense & Security 2023 ไม่เพียงแต่มีความสำคัญต่อกำลังพลทางทหารเท่านั้น แต่สำคัญต่อประเทศชาติอีกด้วย เนื่องด้วยรัฐบาลไทยมีนโยบายและเป้าหมายที่สำคัญที่จะส่งเสริมพัฒนา ความสามารถเทคโนโลยีของประเทศไทยด้านความมั่นคงและความปลอดภัยเพื่อให้บรรลุความสามารถในการพึ่งพาตัวเองอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและการรักษาความมั่นคงภายในลดการนำเข้า ส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการส่งออกอุปกรณ์ทางการทหารที่ผลิตภายในประเทศ

ตอนนี้ถึงเป็นช่องทางให้เราประชาสัมพันธ์พัฒนาการของอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและการรักษาความปลอดภัยของประเทศไทยสู่สายตาประชาคมโลก ตลอดจนความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอาวุธยุทโธปกรณ์และซอฟต์แวร์ ที่จะเสริมประสิทธิภาพและศักยภาพ ในการตัดสินใจ และมอบทางเลือกที่ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุด กับความต้องการของกองทัพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุทิน คลัง รมว. กลาโหม ได้เยี่ยมชมเกือบทั่วทั้งงาน โดยเฉพาะบูธของบริษัทที่ประเทศไทยเคยจัดหายุทโธปกรณ์เข้าประจำการ เช่น SAAB ซึ่งทอ.จัดหา เครื่องบิน gripen เข้าประจำการมาแล้ว บริษัทเกาหลีที่ต่อเรือฟริเกตภูมิพลฯ ให้กองทัพเรือ บริษัทชัยเสรีของไทส ผลิตรถเกราะ 8 × 8 กองทัพเรือ เป็นต้น นอกจากนั้นยังให้ความสนใจในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศทั้งของหน่วยงานกองทัพเองและของเอกชน พร้อมทดลองถือปืนที่กระทรวงกลาโหมผลิตที่ชื่อว่าคชสีห์20 และปืนสไนเปอร์ของ SIG SAUER

สำหรับบรรยากาศ งานในวันแรกเป็นไปอย่างคึกคัก โดย มีการจัดพื้นที่ เป็นโซนประเทศต่างๆ ซึ่งบริษัทและรัฐวิสากิจด้านยุทโธปกรณ์ของ สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้จัดโซนเป็นพาวิลเลี่ยน ขนาดใหญ่ เช่น CSSC ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีอู่ต่อเรือ เป็นบริษัทลูกหลายแห่งมีการจัดโมเดล เรือดำน้ำ S26T ที่ต่อให้กองทัพเรือไทย เรือฟริเกตแบบ ต่างๆ รวมถึงยานใต้น้ำ ยานผิวน้ำ เรือดำน้ำไร้คนขับ นอกจากนั้นยังมีบริษัท NorinCo ซึ่งขายรถเกราะให้กองทัพบกและกองทัพเรือ เป็นต้น

ขณะที่บริษัทชั้นนำด้านอาวุธ ของโลก ได้มาเปิดบูธนิทรรศการ เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น Lockheed Martin , BAE system,China aerospace long-march ,Colt CZ Group, Hanwha ocean เป็นต้น ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมีกำหนดการหารือกับผู้บริหารของบริษัท สร้างเรือดำน้ำ เรือหริเกต ซึ่งอยู่ภายใต้ CSSC รัฐวิสาหกิจของจีน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา1/1'เศรษฐกิจ-การเมืองนำ เว้นระยะ'ความมั่นคง-กองทัพ'

โฉมหน้า “คณะรัฐมนตรีเศรษฐา 1/1” ที่ออกมา นอกจากจะเป็นการสับเปลี่ยนหมุนเวียนตัวบุคคลของพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว เป้าหมายที่ฉายภาพชัดต่อทิศทางการบริหารงานของรัฐบาล

งบ68 ทร.ซื้อเครื่องบินลำเลียง  ‘เรือดำน้ำ-ฟริเกต’ ไปถึงไหน?

คงต้องติดตามดูต่อไปว่า “สุทิน” จะได้รับการอนุมัติให้นั่งเก้าอี้ รมว.กลาโหมต่อเพื่อผลักดันโครงการ และปัญหาที่ยังไม่ลุล่วงเหล่านี้หรือไม่

งบ68ทร.ซื้อเครื่องบินลำเลียง “เรือดำน้ำ-ฟริเกต”ไปถึงไหน?

ฟันธงกันว่าปิดจ๊อบปรับคณะรัฐมนตรี “เศรษฐา 2” ที่โรงแรมหรูกลางกรุงไปแล้ว โดยมี ทักษิณ ชินวัตร นั่งหัวโต๊ะคุยรอบสุดท้ายโดยไม่ต้องกระมิดกระเมี้ยน ว่ากันว่า โผนี้ชื่อของ เกรียง กัลป์ตินันท์ กับ สุทิน คลังแสง ยังเหนียว

ศึก“วางคน-วางเกม”รับมือ สะท้อนผ่านวอรูม“เมียนมา”

ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางหลังจาก นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจบริหารสถานการณ์อันเนื่องมาจากความไม่สงบในเมียนมา

อดีตบิ๊กข่าวกรอง ชี้ 'บิ๊กทิน' กินยาผิด! ยันทหารไม่อยากยึดอำนาจถ้านักการเมืองไม่โกง

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Nantiwat Samart หัวข้อ