เผย 4 ช่องโหว่ใหญ่ กม.กาสิโน

19 ม.ค. 2568 – นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน เปิดช่องโหว่ใหญ่ ๆ ของพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ณ ขณะนี้สังคมไทยน่าจะเกินเลยจุดของการถกเถียงกันทางหลักการและแนวคิดว่า “ควรเอาบ่อนพนันใต้ดินขึ้นมาไว้บนดินหรือไม่?” แต่ควรจะมาถกแถลงกันบนฐานของข้อเท็จจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อเท็จจริงที่อิงอยู่กับตัวบทกฎหมายร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรของรัฐบาล เพราะนี้คือ ของจริงว่ากฎหมายนี้จะดลบันดาลให้เกิดอะไรขึ้นได้บ้าง

หากไม่เป็นการมองผู้ร่างกฎหมายในแง่ร้ายเกินไป อาจกล่าวได้ว่าวิธีเขียนกฎหมายฉบับนี้ (รวมถึงกฎหมายอื่นอีกหลายฉบับ) ใช้วิธีเขียนแบบหลวม ๆ ไม่เขียนผูกมัดรัดตัวอะไรไว้มาก ใช้วิธีเปิดช่องไว้กว้าง ๆ เพื่อให้โอกาสสิ่งต่าง ๆ สามารถเกิดขึ้นได้ในอนาคต แล้วใช้วิธียกให้คณะบุคคลเป็นผู้ใช้ดุลยพินิจว่า จะตัดสินใจอย่างไรตามความหลวมและช่องโหว่ที่กฎหมายเปิดให้ไว้

ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ ดูมีเจนตนาเปิดช่องไว้หลายประการ ขอขมวดเป็นช่องใหญ่สัก 4 เรื่อง

1.เปิดกาสิโนได้หลายแห่ง หลายขนาด No Limit

o เงื่อนไข คือ “ต้องเป็นกาสิโน บวกกับอีก 4 กิจการ (มาตรา 41)

o สี่กิจการที่จะเปิดร่วมกับกาสิโน กฎหมายได้ตัดถ้อยคำที่ผูกมัดเกี่ยวกับขนาดของกิจการออกไปทั้งหมด เช่น ตัดคำว่า “ระดับ 5 ดาว”ออกจากคำว่าโรงแรม ตัดคำว่า “ครบวงจร” ออกจากคำว่าห้างสรรพสินค้า และตัดรายการศูนย์ประชุมหรือสถานที่จัดนิทรรศการขนาดใหญ่ ออกจากตัวเลือก ในบัญชีแนบท้าย

o ไม่ได้กำหนดว่าสัดส่วนของกาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจรมีได้ไม่เกินกี่เปอร์เซนต์ของพื้นที่ (มาตรา 11(8))

2. ยกอำนาจการตัดสินใจให้ “คณะกรรมการนโยบาย”

o คณะกรรมการนโยบายประกอบด้วย นายกฯ / รองนายกฯ 1 / รมต.ตามตำแหน่ง 6 / ข้าราชการประจำ 4 /และผู้ทรงคุณวุฒิที่นายกฯแต่งตั้ง ไม่เกิน 6 = 18 อรหันต์ (มาตรา 6)

o จะตั้งที่ไหน จะเปิดที่ไหน จะเปิดขนาดไหน จะเก็บภาษีเท่าไร จะเก็บค่าใบอนุญาตจากผู้ประกอบการรายละเท่าไร ภายใต้มาตรา 11 มาตราเดียว คณะกรรมการนโยบายมีอำนาจตัดสินใจ

o จะให้กลุ่มธุรกิจใดทำ ไม่ต้องมีการประมูล ใช้ระบบอนุญาตโดยกรรมการนโยบาย

o ไม่ต้องจัดให้มีการรับฟังความเห็นประชาชน (ความเดิมในมาตรา 50 ของร่างพ.ร.บ.ที่เสนอโดยกมธ.ถูกตัดออก)

3. เรื่องเงินทองเขียนกำหนดขั้นสูงแต่ไม่กำหนดขั้นต่ำ

o ใบอนุญาตครั้งแรกเก็บได้ไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ใบอนุญาตรายปีเก็บได้ไม่เกิน 1,000 ล้านบาท (มาตรา 11(6))

o อัตราค่าธรรมเนียมของผู้มีสัญชาติไทยที่จะเข้ากาสิโนเก็บได้ไม่เกินครั้งละ 5,000 บาท (มาตรา 11(11))

4. ไม่ล็อคเงินรายได้เข้าแผ่นดิน

o เงินได้จากค่าธรรมเนียมใบอนุญาตหลักพันล้าน เป็นทุนและทรัพย์สินของสำนักงานกำกับกิจการสถานบันเทิงครบวงจร เมื่อหักค่าใช้จ่ายสำหรับดำเนินการต่าง ๆ เหลือเท่าใดให้นำส่งเข้าแผ่นดิน (มาตรา 24 วรรคท้าย)

แค่นี้ช่องโหว่มากพอหรือยังครับ จริง ๆ มีมากกว่านี้

นี่คือเหตุผลเบื้องต้นว่า เหตุใดเราจึงหยุดพ.ร.บ.ซ่อนแอบฉบับนี้ ที่เจตนาซุกกาสิโนไว้ใต้เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ

เงียบ = ยอมรับ ใช่มั้ยครับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ดร.สังศิต' แพร่บทความ สถานบันเทิงครบวงจร : มุมมองด้านเศรษฐกิจ

รศ.ดร. สังศิต พิริยะรังสรรค์ อดีตประธานคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมลํ้า วุฒิสภา เผยแพร่บทความ เรื่อง สถานบันเทิงครบวงจร : มุมมองด้านเศรษฐกิจ มีเนื้อหาดังนี้

นัดส่งด่วน 5 หมื่นรายชื่อต่อ กกต.ขอให้ครม.จัดทำประชามติ 'เอาหรือไม่เอากาสิโน'

เพจ มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน โพสต์ข้อความว่า เชิญสื่อมวลชนและประชาชนร่วมจับตา มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน โดย "นายธนากร คมกฤส" เลขาธิการมูลนิธิฯ และภาคีเครือข่าย กว่า 100 คน

'สถาบันวะสะฏียะฮ์' สำนักจุฬาราชมนตรี แถลงการณ์ค้าน 'กม.กาสิโน' ห่วงสังคมเสียหายใหญ่หลวง

สถาบันวะสะฏียะฮ์เพื่อการพัฒนาและสันติภาพ สำนักจุฬาราชมนตรี ออกแถลงการณ์คัดค้าน 'พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร' บี้รัฐบาลทบทวน ห่วงกาสิโนทำลายสังคมเสียหายใหญ่หลวง

เลิกอีแอบ! ไล่บี้ทุกพรรคประกาศจุดยืน 'กาสิโน' เอาหรือไม่เอา

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ถามดังๆ จุดยืนต่อกาสิโน ของแต่ละพรรค เมื่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร

รัฐบาลเข็นกาสิโนเข้าสภาฯ 9 เม.ย. อ้างต้องหาเงิน เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ-คนพิการ

นายวิสุทธิ์ ไชณยรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

'100 องค์กร' แถลงการณ์ค้าน 'กม.กาสิโน' ตีเช็คเปล่าซูเปอร์บอร์ด-ครม.

เครือข่ายภาคประชาสังคม 100 องค์กร อันประกอบด้วยองค์กรศาสนา องค์กรชุมชน องค์กรเด็กเยาวชนและครอบครัว องค์กรอาสาสมัคร องค์กรการศึกษา และอื่นๆ