
22 ก.พ.2568-ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “ไทยเจอมลพิษจากอุตสาหกรรมและสถานประกอบการเกลื่อนเมือง จุดอ่อนอยู่ที่ไหน?..ประเทศพัฒนาแล้วเขาป้อง กันอย่างไร?” เนื้อหาระบุ
1.ประเทศยุโรปและอเมริกาจะให้ความสำคัญเรื่องการติดตามตรวจสอบทั้งการปฎิบัติตามมาตรการลดผลกระทบ และการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อม ของสถานประกอบการหรือโรงงานอย่างเข้มข้น โดยกำหนดให้มีผู้ตรวจสอบเอกชนที่ขึ้นทะเบียนกับหน่วยราช การหรือ Certified Environmental Auditor, CEAเป็นผู้ทำการ audit แทนหน่วยราชการเพื่อตรวจสอบว่าสถานประกอบการหรือโรงงานปฏิบัติตามกฎ หมายด้านสิ่งแวดล้อมครบตามข้อกำ หนดในใบอนุญาตหรือไม่ เจ้าของโครง การต้องจ้างผู้ตรวจสอบเอกชนมาควบคุมการปฎิบัติตามมาตรการและตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมทั้งในช่วงการก่อ งสร้างและตลอดช่วงเปิดดำเนินการหาก Auditorตรวจสอบแล้วและได้ให้
การรับรองแล้วว่าโครงการได้ทำตามมาตรการครบหรือตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมแล้วอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ทั้ง หมดจะต้องส่งรายงานให้หน่วยราชการ ทราบทุกเดือน หากเกิดปัญหาขึ้นมาหรือมีประชาชนร้องเรียนหรือหน่วยงานราชการตรวจสอบแล้วพบว่าโครงการไม่ได้ทำจริงผู้ตรวจสอบเอกชนหรือ auditor จะต้องมีความผิดตามกฎหมายด้วยคือถูกปรับ70,000 ถึง 200,000 เหรียญหรือ2,450,000ถึง7,000,000 บาท และถูกถอดถอนใบอนุญาต.. วิธีการเช่นนี้จะช่วยแบ่งเบาภาระงานของหน่วยราชการในพื้นที่
2. คุณสมบัติของผู้ตรวจสอบเอกชนด้านสิ่งแวดล้อมที่ขึ้นทะเบียนในประ เทศอเมริกากำหนดไว้คือ
2.1. จบปริญญาตรี ด้านสิ่งแวดล้อม
2.2 มีประสบการณ์ทำงานด้านสิ่งแวด ล้อมในสถานประกอบการอย่างน้อย 3 ปีหรือ
2.3.มีประสบการณ์ในการเป็นเจ้าหน้าที่ร่วมauditงานด้านสิ่งแวดล้อมอย่างน้อย 4 ปี
2.4 สอบขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานราชการ
3. ปัจจุบันประเทศไทยมีโครงการที่เข้าข่ายทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม EIA หรือ EHIAและEHA ประมาณ40,000แห่ง โครงการจะต้องจ้างห้องแลปทำการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมและเจ้าของโครงการจะต้องส่งรายงานการปฎิบัติตามมาตรการลดผลกระทบและผลการตรวจวัดสิ่งแวด ล้อม ทั้งในช่วงก่อสร้างและเปิดดำเนินการให้หน่วยงานอนุญาตและสผ.ทุก6 เดือน ซึ่งเท่ากับว่าโครงการตองทำการตรวจเช็คการปฎิบัติตามมาตรการป้อง กันผลกระทบและนำผลการตรวจวัดของห้องLabใส่ไว้ในรายงานและส่งให้หน่วยราชการเอง.. ไม่มีโครงการพัฒ นาใดที่ส่งรายงานแล้วจะบอกว่าไม่ได้ทำตามมาตรการหรือทำได้ไม่ครบหรือบอกว่าผลการตรวจวัดมีค่าเกินค่ามาตร ฐาน.. หน่วยราช การทำเพียงแค่อ่านรายงานเท่านั้น..
ขณะที่หลายๆโครง การมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนและร้องเรียนจำนวนมากโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออก เช่น โรงงานเกี่ยวกับการผลิตเหล็ก การหล่อหลอม การผลิตปิโตรเคมี การผลิตพลาสติก โรง งานรีไซเคิลกากอุตสาห กรรม โรงงานปรับของเสียรวมกากอุตสาหกรรม รวมทั้งโครงการประเภทที่พักอาศัย ตึกสูง ท่าเทียบเรือ เป็นต้น โครงการที่มีปัญหาเหล่านี้รายงานผลเท็จเกือบทั้งสิ้น ขณะที่ประเทศไทยไม่มีกฎหมายให้ auditor ไปตรวจสอบ..จึงเกิดปัญหาการแอบทิ้งกากอุตสาหกรรมและปล่อยมลพิษทางอากาศและมลพิษน้ำในแต่ละปีจำนวนมาก..เจ้าหน้าที่รัฐอ้างไม่มีงบประมาณและกำลังคนไปตรวจสอบ.. กากอุตสา หกรรมและมลพิษเกลื่อนเมืองในขณะนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'พิธา' จี้รัฐบาลค้นหาต้นตอสารหนูปนเปื้อนแม่น้ำกก รีบชี้แจงข้อเท็จจริงให้ปชช.คลายกังวล
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาประธานคณะก้าวหน้า กล่าวถึงกรณีการพบสารปนเปื้อน หรือสารหนูในแม่น้ำกก จ.เชียงราย ว่าจากที่ได้รับฟังข้อมูลจากคณะกรรมการธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สะท้อนได้ว่าการดูแลสิ่งแวดล้อม
'แพทย์จุฬาฯ รุ่น 35' ออกโรงค้าน! ประเทศไทยไม่พร้อมมี 'กาสิโน'
ศิษย์เก่า คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รุ่น 35 ออกแถลงการณ์คัดค้านร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
'แก้วสรร' แพร่บทความ 'โครงการกาสิโนของรัฐบาล : ตัวตนและเค้ามูลที่ปรากฎ'
นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการด้านกฎหมาย เขียนบทความในรูปถาม- ตอบ เรื่อง "โครงการกาสิโนของรัฐบาล : ตัวตนและเค้ามูลที่ปรากฎ" โดยมีเนื้อหา ดังนี้
ตรวจพบสารหนูปนเปื้อน 'แม่น้ำกก' เกินมาตรฐานกว่าเท่าตัว
นายอาวีระ ภัคมาตร์ ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษ(สคพ.)ที่ 1 เชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงผลการตรวจคุณภาพน้ำในแม่น้ำกก ว่าได้เก็บตัวอย่างน้ำมาตรวจ ผลการตรวจไม่พบไซยาไนด์
นี่คือสถานการณ์ฉุกเฉินทางเศรษฐกิจ รบ.ต้องยกหูเจรจา 'ทรัมป์' ภายในคืนนี้! นักวิชาการ มธ. ระบุ 'ยิ่งช้ายิ่งเจ็บ'
นักวิชาการธรรมศาสตร์ ชี้การตั้งกำแพงภาษีของทรัมป์ คือสถานการณ์วิกฤตทางเศรษฐกิจ รัฐบาลต้องเร่งเจรจาอย่างช้าที่สุดภายในคืนนี้