“อนุทิน” แสดงความยินดีผู้ได้รับพระราชทานรางวัลเจ้าฟ้ามหิดล พร้อมหารือประเด็นที่จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาด้านสาธารณสุขของประเทศไทย
28 ม.ค.2565 - น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อเวลา 15.00 น. คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ในฐานะรองประธานมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำคณะผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล(Prince Mahidol Award) ประจำปี 2563 และประจำปี 2564 ประกอบด้วย ศ.ดร. นพ. วาเลนติน ฟูสเตอร์ นพ.เบอนาร์ด พีคูล ศ.ดร.กอตอลิน กอริโก ศ.ดร.นพ.ดรู ไวส์แมน และ ศ.ดร. ปีเตอร์ คัลลิส เข้าพบนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล
ทั้งนี้ ระหว่างการเข้าพบ รองนายกรัฐและรมว.สาธารณสุข ได้กล่าวในนามของนายกรัฐมนตรี รัฐบาลไทยและประชาชนชาวไทย แสดงความยินดีและชื่นชมต่อการอุทิศตนของผู้ได้รับพระราชทานรางวัลทุกท่านในการช่วยเหลือผู้ป่วยหลายร้อยล้านคนทั่วโลกด้วยผลงานการศึกษาวิจัยที่สร้างคุณูปการสำคัญต่อมวลมนุษยชาติ วงการแพทย์และสาธารณสุขโลกรวมทั้งประเทศไทย พร้อมกันนี้รองนายกรัฐมนตรีได้หารือกับผู้ได้รับพระราชทานรางวัลเจ้าฟ้ามหิดลในประเด็นที่จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาด้านสาธารณสุขของประเทศไทยด้วย
โดยผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลเห็นพ้องว่า ประเทศไทยมีส่วนสำคัญในการช่วยเหลือและสนับสนุนในด้านการแพทย์และการสาธารณสุข เช่น เรื่องโรคเอดส์ โรคไข้เลือดออก การวิจัยและพัฒนาวัคซีนต้นแบบ “ChulaCoV19” โดยอยากให้ไทยเข้ามามีบทบาทนำในด้านนี้ พร้อมเชื่อมั่นว่าประเทศไทยมีศักยภาพในการพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ เวชภัณฑ์ ตลอดจนวัคซีน และสามารถเป็นศูนย์กลางให้กับอาเซียนต่อไปได้รวมทั้งเสนอแนะให้ไทยนำองค์ความรู้ของผลการวิจัยต่างๆ ที่ค้นพบ และแลกเปลี่ยนทรัพยากรทางการแพทย์ร่วมกับประเทศอื่นๆ มาประยุกต์ใช้ ต่อยอดเป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน
ทั้งนี้ ผู้ได้รับพระราชทานรางวัล ปี 2563 สาขาการแพทย์ ได้แก่ ศ.ดร.นพ.วาเลนติน ฟูสเตอร์ จากสหรัฐอเมริกา เป็นผู้มีผลงานการวิจัยด้านเกล็ดเลือดในกระบวนการเกิดการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งโรคหัวใจนั้นถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของคนไทย ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับการป้องกันและรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดมาโดยตลอด โดยองค์ความรู้จากงานวิจัยของ ดร.ฟูสเตอร์ จะมีส่วนสำคัญช่วยเพิ่มและเสริมศักยภาพทางการแพทย์ของไทยและของโลกต่อไป
ทางด้าน นพ.เบอนาร์ด พีคูล จากฝรั่งเศส ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลปี 2563 ในสาขาสาธารณสุข ถือเป็นผู้อุทิศตนเพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคที่ถูกละเลย อาทิ โรคมาลาเรียซึ่งเป็นปัญหาสาธารณสุขสำหรับประเทศกำลังพัฒนา โดยที่ผ่านมาประเทศไทยได้ทำงานเป็นเครือข่ายให้ความรู้และเฝ้าระวังทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ ซึ่งประเทศไทยได้ตั้งเป้าหมายที่จะกำจัดไข้มาลาเรียเป็นศูนย์ (Zero Malaria)
ทางด้านผู้ได้รับพระราชทานรางวัล ปี 2564 ประกอบด้วย ศ.ดร.กอตอลิน กอริโก จากสหรัฐอเมริกาและฮังการี , ศ.ดร.นพ.ดรู ไวส์แมน จากสหรัฐอเมริกา และ ศ.ดร.ปีเตอร์ คัลลิส จากแคนาดา ซึ่งทั้ง 3 ท่าน เป็นผู้มีบทบาทสำคัญต่อการศึกษาวิจัยวิธีการนำเมสเซนเจอร์ อาร์เอนเอ (mRNA) มาใช้ในทางการแพทย์เพื่อประโยชน์ในการป้องกันหรือรักษาโรค และเป็นรากฐานสำคัญในการนำเทคโนโลยี mRNA มาใช้ในการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' ยันยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟูหาดใหญ่ต่อ จ่อขนนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน
'อนุทิน' ยอมรับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ยัน ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟู-เยียวยาต่อ หยอด อำนาจอยู่ที่ มท.1แล้ว 'นายกฯ คงไม่ขัดอะไร' เผยขั้นตอนนำผู้ประสบภัยกลับบ้าน ทำไปแล้วกว่า 90% จ่อขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียนพรุ่งนี้
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา
นายกฯ ลั่นหากเกิดเหตุชายแดนหลังยุบสภา รัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจสนับสนุนเต็มที่
นายกฯ ย้ำไม่มีปัจจัยบอกเหตุ ก็ต้องมีแผนป้องกัน โดยเฉพาะตามแนวชายแดน มั่นใจผู้ว่าฯ ดูแลได้ หากอยู่ในช่วงยุบสภา ปฎิเสธข่าวการเจรจาที่ออตตาวาไม่เป็นผล
เพื่อไทยกระอัก! 'อนุทิน' ย้อนเจ็บ มีภาพคู่ทักษิณเยอะ ไม่เห็นมีปัญหา
"อนุทิน" เหน็บ "สุริยะ-โฆษกเพื่อไทย" ไม่รู้เรื่องอะไรเพราะไม่ได้ร่วมวง การสนทนาสำหรับผมต้องระดับสูงขึ้นไป ย้อนเจ็บภาพถ่ายคู่ทักษิณก็มีตั้งเยอะ ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย
นายกฯ สั่งผู้ว่าฯ 7 จว.ชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องมีความพร้อมเต็มที่ ดูแล-อพยพประชาชน
นายกฯ มอบนโยบายชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน สั่งผู้ว่าฯ 7 จังหวัดเตรียมแผนดูแลประชาชน เผย ยืมสตาร์ลิงค์ทหารไว้สื่อสารแล้วเปรียบ ”ชรบ.“ เป็นกำแพงมหึมาดูแลแนวหลังให้ปลอดภัย - สร้างความสบายใจให้ทหารไม่ต้องพะวงหลังห่วงครอบครัว ชี้ ใครคิดรบกับไทยคงประสาทไม่ดี


