
รบ.คุมเข้ม “หลักสูตรระยะสั้น นักศึกษาต่างชาติ” ลุยจัดระเบียบเต็มรูปแบบ
26 พ.ค. 2568 – นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้ความสำคัญและจริงจังในการแก้ปัญหานักศึกษาต่างชาติที่แอบแฝงเข้ามาเพื่อทำงานในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย โดยออกประกาศ “หลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติการจัดการเรียนการสอนหลักสูตรระยะสั้น (Non-degree) สำหรับนักศึกษาต่างชาติของสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ.2568” ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินการขออนุญาตให้นักศึกษาต่างชาติที่พำนักอยูในประเทศไทยเป็นไปตามกฎหมายและข้อตกลงร่วมกันระหว่างกระทรวง อว. และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.)
โดยสาระสำคัญของประกาศฯ คือ 1.สถาบันที่เปิดสอนหลักสูตรระยะสั้นต้องมีความเชี่ยวชาญ มีความพร้อมทั้งในด้านเนื้อหา ผู้สอน และผลลัพธ์การเรียนรู้ (Learning Outcomes) ที่ชัดเจน 2.สถาบันต้องจัดส่งข้อมูลหลักสูตร อาทิ ชื่อหลักสูตร หน่วยงานและอาจารย์ผู้รับผิดชอบ วัตถุประสงค์ โครงสร้างและเนื้อหา รูปแบบการเรียนการสอน โดยต้องเรียนแบบออนไซต์ไม่น้อยกว่า 60% ออนไลน์ไม่เกิน 40% ของเนื้อหาวิชาและระยะเวลาของหลักสูตร ระยะเวลาของหลักสูตรไม่เกิน 180 วัน ตารางการเรียนการสอนรายวันและรายสัปดาห์ บันทึกการเข้าเรียน คุณสมบัติของนักศึกษา ระยะเวลาการรับสมัคร จำนวนนักศึกษาต่างชาติที่เปิดรับ รวมถึงภาษาที่ใช้ สถานที่เรียน และวิธีการประเมินผล ให้ สำนักงานปลัดกระทรวง อว. ทราบ
3.สถาบันต้องดำเนินการออกหนังสือรับรองและขอให้นักศึกษาต่างชาติพำนักอยู่ในประเทศไทยเพื่อการศึกษาในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ตามความเหมาะสมและความจำเป็นของหลักสูตร โดยต้องไม่เกินครั้งละ 180 วัน และควรมีการตรวจสอบผลการศึกษา กรณีนักศึกษาต่างชาติเคยเข้าศึกษาในหลักสูตรอื่นๆ ของสถาบันอุดมศึกษาแห่งใดแห่งหนึ่งมาก่อน 4.เมื่อ สตม.อนุญาตให้พำนักในราชอาณาจักรเพื่อศึกษาหลักสูตรดังกล่าว สถาบันต้องรายงานข้อมูลนักศึกษาต่างชาติให้สำนักงานปลัดกระทรวง อว. ทราบภายใน 30 วัน 5.สถาบันต้องกำหนดแนวปฏิบัติในการตรวจสอบการเข้าเรียนของนักศึกษาต่างชาติ และต้องจัดส่งรายงานความก้าวหน้าในการศึกษาของนักศึกษาในหลักสูตรดังกล่าวเป็นประจำทุกเดือนผ่านระบบฐานข้อมูลติดตามนักศึกษาต่างชาติของสำนักงานปลัดกระทรวง อว. โดยต้องระบุรายชื่อนักศึกษาที่กำลังศึกษา พ้นสภาพ และสำเร็จการศึกษาอย่างครบถ้วน และ 6.หากพบว่าสถาบันใดดำเนินการไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ สำนักงานปลัดกระทรวง อว. จะแจ้งให้สภาสถาบันพิจารณายกเลิกการเปิดหลักสูตรดังกล่าว
รัฐบาลมุ่งยกระดับมาตรฐานการศึกษาระยะสั้นของไทยให้เป็นไปอย่างโปร่งใส โดยมุ่งส่งเสริมให้ระบบการจัดการเรียนการสอนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อยู่ภายใต้กรอบกฎหมายที่ชัดเจน เพื่อป้องกันปัญหาการแอบเข้ามาในประเทศของนักศึกษาต่างชาติที่มีวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่ตรงกับการศึกษา โดยประกาศฉบับนี้กำหนดให้สถาบันอุดมศึกษาดำเนินการอย่างรัดกุม ตลอดจนรายงานผลการดำเนินงานให้กระทรวง อว. รับทราบอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าระบบการศึกษาของไทยมีมาตรฐานและตรวจสอบได้ ส่งผลให้นักศึกษาต่างชาติให้ความสนใจและเลือกเข้ามาศึกษามากยิ่งขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ผบ.ทสส.' สั่ง ศป.กฉ.ส่วนหน้า 8 ข้อ เร่งฟื้นฟู 'หาดใหญ่'
'ผบ.ทสส.' สั่ง ศป.กฉ.ส่วนหน้า 8 ข้อ จัดระเบียบ ‘ศูนย์พักพิง-การแพทย์’ เร่งเปิดระบบ ‘ไฟฟ้า-ประปา’ แจกถุงยังชีพ-อาหาร มาตรการ รปภ. เก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิต ตั้งจุดรวบรวมขยะ 4 พื้นที่ ย้ายยานพาหนะกีดขวาง
‘คารม’ สวนสื่อนอก ปมพาดหัว ‘ราชากัญชาไทย’
นายคารมยืนยันคำว่า “ราชากัญชา” ไม่เป็นความจริง ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ซึ่งใครๆ ก็รู้ว่า นโยบายกัญชาเสรี เป็นเรื่องที่มีเจตนาดีในการทำให้กัญชามาใช้โดยมีกฎหมายควบคุม
ย้อนเกล็ดหมออ๋อง! 'คารม' ยัน 'อนุทิน' ไม่ยึดติดอำนาจ ไม่เหมือนคนกระสันเก้าอี้รองปธ.สภาฯ
นายคารม พลพรกลาง สมาชิกพรรคภูมิใจไทย อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวพาดพิงนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ ในทำนองที่ว่า “นายอนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยอยู่ในลิสต์ของนายกรัฐมนตรี
เอาแล้ว! รัฐบาลลุยปราบแรงงานต่างชาติลักลอบทำงานผิดกฎหมาย
รองโฆษกรัฐบาลเผย ตรวจเข้มทั่วประเทศ ปราบปรามแรงงานต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตทำงาน ย้ำทำผิดซ้ำเจอโทษหนัก ทั้งคนงานและนายจ้าง ระบุเฉพาะปีงบฯ 68 จับแล้วกว่า 2,500 ราย
กระทรวงยุติธรรม เปิดตัว AI Chatbot ‘พี่คุ้มครอง’ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย
"คารม" เผย มิติใหม่ AI Chatbot "พี่คุ้มครอง" ที่ปรึกษาด้านกฎหมายให้คำปรึกษาประชาชน สะดวก รวดเร็วทันใจ
เพิ่งตื่น!! รัฐบาลเร่งแก้กฎหมายสกัดนอมินีใช้คนไทยถือครองที่ดิน
รบ. ผนึกกำลังปิดช่องโหว่ทางกฎหมาย สกัดนอมินีใช้คนไทยถือครองที่ดินแทน จับตาเข้มใน 6 ธุรกิจเสี่ยง เตรียมส่งรายชื่อ 2.6 หมื่นรายให้กรมที่ดินตรวจสอบ


