นายกฯ หารือทูตชิลี สานต่อความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน พหุภาคี

18 ก.พ.2565 - เวลา 14.00 น. ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายอเล็กซ์ ไกเกอร์ ซอฟเฟีย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐชิลีประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ โดยภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับเอกอัครราชทูตชิลีฯ ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ในประเทศไทย โดยไทยและชิลีมีความสัมพันธ์ที่ราบรื่นมายาวนาน ซึ่งจะครบรอบ 60 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันในปีนี้ หวังว่าเอกอัครราชทูตชิลีฯ จะสานต่อความร่วมมือระหว่างกันทุกมิติ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคี ด้านการค้า การลงทุน ความร่วมมือทางสาธารณสุข และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งความร่วมมือในกรอบพหุภาคีในเวทีระหว่างประเทศต่าง ๆ ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น โดยสามารถประสานมายังรัฐบาลผ่านกระทรวงการต่างประเทศได้เสมอ

นายธนกร กล่าวว่า เอกอัครราชทูตชิลีฯ รู้สึกยินดีที่ได้มาดำรงตำแหน่งประจำประเทศไทย และขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นจากนายกรัฐมนตรีในวันนี้ โดยไทยและชิลีมีความร่วมมือกันในทุกมิติ ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่ราบรื่น ซึ่งจะครบรอบ 60 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันในปีนี้ นอกจากนี้ ชิลียังเห็นไทยเป็นพันธมิตรที่สำคัญของชิลีในภูมิภาค เอกอัครราชทูตชิลีฯ ยืนยันสานต่อความร่วมมือทั้งทวิภาคีและพหุภาคีให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ทั้งทางการค้า การลงทุน ความมั่นคง และความร่วมมือในเวทีระหว่างประเทศ

นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตชิลีฯ เห็นพ้องกันว่าความร่วมมือทางด้านการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับชิลียังมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก พร้อมยินดีสนับสนุนให้ภาคเอกชนของทั้งสองประเทศขยายการลงทุนซึ่งกันและกัน พร้อมใช้ประโยชน์สูงสุดจาก FTA ไทย – ชิลี ซึ่งอัตราภาษีของสินค้าทุกรายการจะลดเป็นร้อยละศูนย์ในปีหน้า และจะช่วยเพิ่มพูนมูลค่าการค้ารวมระหว่างกันมากยิ่งขึ้น โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ภาคเอกชนไทยเล็งเห็นถึงศักยภาพของชิลี และสนใจเข้าไปลงทุน โดยเฉพาะในสาขาการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และ เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทดแทน ซึ่งเอกอัครราชทูตชิลีฯ ยินดีที่ภาคเอกชนไทยสนใจลงทุนในด้านดังกล่าว

นายธนกร กล่าวว่า ด้านความร่วมมือทางวิชาการไทยและชิลีต่างยินดีที่ความร่วมมือทางวิชาการในกรอบไตรภาคีร่วมกับอาเซียน มีส่วนเสริมสร้างขีดความสามารถด้านการพัฒนาและเพิ่มพูนความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ นายกรัฐมนตรีหวังว่า ทั้งสองฝ่ายจะได้ร่วมกันเผยแพร่องค์ความรู้ในสาขาที่ฝ่ายชิลีมีความเชี่ยวชาญ อาทิ การปลูกพืชควินัว การเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

นายธนกร กล่าวอีกว่า ความร่วมมือด้านสาธารณสุข ทั้งสองฝ่ายยืนยันส่งเสริมความร่วมมือกัน ในการจัดการกับโรคโควิด -19 และสนับสนุนแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศในยุคหลังโรคโควิด-19 โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมนโยบายการบริหารจัดการฉีดวัคซีนของชิลี ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้แก่ประชาชนสูงเป็นลำดับต้นของโลก ด้านเอกอัครราชทูตชิลีฯ ชื่นชมรัฐบาลในการจัดการกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่อยู่ในระดับที่ควบคุมได้จนนำไปสู่การเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว ชิลีหวังว่า ไทยและชิลีจะแสวงหาความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว และเดินทางไปมาหาสู่กันมากขึ้นในอนาคต

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ด้านความร่วมมือในกรอบพหุภาคี นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าไทยในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคในปีนี้ พร้อมต้อนรับคณะผู้แทนชิลีในการเข้าร่วมประชุมต่าง ๆ โดยเฉพาะ นายกาบริเอล โบริก ฟอนต์ ว่าที่ประธานาธิบดีชิลีคนใหม่ ในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคในเดือนพฤศจิกายน 2565 ซึ่งไทยจะเน้นการสร้างภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ในบริบทโลกหลังโรคโควิด-19 ที่เปิดกว้าง เชื่อมโยง และสมดุล โดยมีแนวคิด BCG เป็นแนวคิดหลักในการประชุมเอเปคปีนี้ ด้านเอกอัครราชทูตชิลีฯ ยินดีสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทย และพร้อมร่วมมือกับไทยในเวทีความร่วมมือระหว่างประเทศ ทั้งในกรอบเอเปค และความร่วมมือระหว่างเอเชียตะวันออกกับลาตินอเมริกา (FEALAC)

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ทนายมือหนึ่ง' เผยคนฝากให้กำลังใจนายกฯเยอะ หลังถูก 'บิ๊กโจ๊ก' เอาคืน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีชื่อเป็นรัฐมนตรี ว่า วันนี้ต้องให้กำลังใจนายกรัฐมนต

จะเอาให้ได้! 'เศรษฐา' เรียก 4 แบงก์ยักษเข้าทำเนียบฯ คุยลดดอกเบี้ย หลังธปท.ไม่เล่นด้วย

ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้เรียก 4 ธนาคารเข้าพบ