หมดเวลา 'แอมเนสตี้' ประชาชนแห่ลงชื่อขับไล่พ้นประเทศไทย

สุดทน 'แอมเนสตี้' ประชาชนตั้งโต๊ะลงชื่อขับไล่ออกจากประเทศไทยแล้ว หลังจุ้นทำตัวเหนืออำนาจกฎหมายและวัฒนธรรมจารีตประเพณีของคนไทย 'นิตยา-นักสู้ปอสี่' แฉเคยถูกพวกล้มเจ้าหลอกให้ล่ารายชื่อไปยกเลิก มาตรา 112

25 พ.ย.2564 - ณ ศูนย์เรียนรู้กลุ่มวิสาหกิจชุมชน บ้านอ่างหิน ต.ธงชัยเหนือ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา นางนิตยา นาโล หรือ “นักสู้ปอสี่” อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคอีสาน ได้เชิญตัวแทนอดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดง 20 จังหวัดภาคอีสาน เพื่อมารับทราบการจะนำรายชื่อประชาชนจำนวน 1 ล้านชื่อ ขับไล่กลุ่ม “แอมเนสตี้ อินเตอร์ เนชั่นแนล ประเทศไทย” ออกจากประเทศไทย เพราะกลุ่มนี้มักชอบอ้างตัวเองว่าเป็น “กลุ่ม NGO” ระหว่างประเทศออกช่วยเหลือปกป้องสิทธิมนุษยชนทั่วโลก จึงได้พากันตั้งโต๊ะให้ประชาชนได้มาลงชื่อตามแคมเปญของ ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ “แรมโบ้” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศเอาไว้

นางนิตยา กล่าวว่าการที่พวกตนได้ออกมาตั้งโต๊ะให้ประชาชนมาลงชื่อเพื่อขับไล่กลุ่มแอมเนสตี้ อินเตอร์ เนชั่นแนล ในครั้งนี้ก็เพราะต้องการออกมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะพวกเรามีหัวใจรักในพระเจ้าแผ่นดินของพวกเรา ที่ผ่านมาแม้แต่เงินเหรียญบาทตกที่มีรูปของพระเจ้าแผ่นดินพวกเราเองก็ไม่กล้าจะเดินข้ามแต่อย่างใด แต่วันนี้กลุ่ม แอมเนสตี้ หรือNGO ที่คอยสนับสนุนยุยงส่งเสริมกลุ่มนักเรียน นักศึกษา หรือ ม็อบต่าง ๆ ที่จะล้มล้างสถาบันและยกเลิก ม.112 พวกเรายอมไม่ได้จึงได้ออกมาตั้งโต๊ะให้ประชาชนมาลงรายชื่อกัน เพราะประชาชนชาวรากหญ้าอย่างพวกเรา อาจจะไม่เก่งเรื่องอินเทอร์เน็ตไม่เข้าใจการลงชื่อทางแอป แต่พวกเรามีความจงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จึงขอลงชื่อในกระดาษแล้วจะนำรายชื่อดังกล่าวไปมอบให้กั บดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ ที่กรุงเทพฯอีกต่อไป

นางนิตยา กล่าวต่อว่าที่ผ่านมากลุ่มแอมเนสตี้ หรือNGO กลุ่มนี้ได้ร่วมกับทางอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ออกไปหาพวกตน เพื่อล่ารายชื่อ 1 แสนคน จะขอยกเลิก ม.112 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553-2554 ตอนที่ไปหาพวกเราจะโกหกบอกว่าจะเอารายชื่อไปสนับสนุนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ จนทำให้พวกเราหลงเชื่อและถูกประชาชนชาวไทยหลายคนประณามเข้าใจผิดว่าพวกตนคือ “หมู่บ้านเสื้อแดงล้มเจ้า ล้มพระเจ้าแผ่นดิน”

ต่อมาพวกเราได้มาเจอและพูดคุยกับทางคุณแรมโบ้ ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ เพื่อจะขอชี้แจงความเป็นจริงที่เกิดขึ้นพร้อมกันนั้นก็ต้องการที่จะทำตามหัวใจของพวกเราที่มีความจงรักภักดีต่อพระเจ้าแผ่นดิน ของคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งครั้งนี้พวกเราชาวอีสานทั้ง 20 จังหวัด จะไม่ยอมให้พวก NGO มาหลอกลวงตนและประชาชนตามหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และ จังหวัดต่างๆ อีกต่อไปแล้ว พวกเราจะขอต่อสู้ถวายชีวิตเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยครั้งต่อไปพวกเราจะไปตั้งโต๊ะลงชื่อตามอำเภอและจังหวัดต่าง ๆ ทั่วทั้งภาคอีสาน เพื่อจะได้รายชื่อให้ครบ 1 ล้านชื่อ อย่างรวดเร็วเพราะต้องการจะเห็นแอมเนสตี้ ออกจากประเทศไทยไปโดยเร็วที่สุด

ด้าน นายอานนท์ แสนน่าน ผู้ริเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย ได้กล่าวว่า ที่ทางแอมเนสตี้ ออกแถลงการณ์ว่าทางกลุ่มไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการเมืองแต่อย่างใด ตนขอบอกเลยว่าอย่าตอแหล เลย เพราะการกระทำที่พวกคุณทำยุยงส่งเสริมฝ่ายที่ไม่เห็นดีกับรัฐบาลที่คอยปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ จะให้การสนับสนุน ทั้งทุนทรัพย์และบุคลากรทางปรัชญา วันนี้พวกเราอดีตหมู่บ้านเสื้อแดงทั่วประเทศไทยจะถอดหน้ากากชาวต่างชาติที่อยู่เบื้องหลัง คอยฝังตัวเองอยู่ตามชนบท โดยเฉพาะภาคอีสานที่มีฝรั่งบางคนไปแต่งงานมีภรรยาเป็นคนไทยอีสาน เอาเงิน เอาความสุขไปให้เพื่อปลุกปั่นให้เกลียดชังเจ้า หรือ ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์

"กลุ่มนี้จะแฝงตัวเองเป็นอาจารย์สอนพิเศษตามมหาวิทยาลัยดัง ๆ บางคนก็มีภรรยาเป็นอาจารย์ชักจูงนักเรียน และ นักศึกษา ออกไปรณรงค์ให้ประชาชนชาวรากหญ้าเกลียดชังสถาบันพระมหากษัตริย์"

นายอานนท์ กล่าวต่อไปว่าและที่ทางแอมเนสตี้ บอกว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ไม่เคยได้รับการสนับสนุนจากต่างประเทศหรือนายทุนแต่อย่างไรเลยนั้น ตนขอบอกว่าพวกคุณหลอกอาจารย์มหาวิทยาลัย หลอกนักเรียน นักศึกษาบางคนได้ แต่อย่ามาหลอกพวกเราที่เป็นประชาชนออกมาเป็นนักสู้เรียกร้องเพื่อปากท้องของประชาชนอย่างแท้จริง ตนทราบดีว่าเงินมาจากไหน แล้วทำไมพวกผมหรืออดีตแกนำเสื้อแดงหลายคนมีเงินหลายล้านบาท มาสร้างสถานีวิทยุกระจายเสียงออกมาต่อสู้กับรัฐบาลที่ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ แม้แต่ของสถานีวิทยุกระจายเสียงหมู่บ้านเสื้อแดง เคยทำผ้าป่าไปแล้วได้เงินเพียง 36,000 บาท แต่ทำไมพวกเรามีปัญญาสร้างสถานีวิทยุฯ ได้ด้วยงบประมาณกว่า 5,000,000 บาท อย่าให้พวกเราที่ทำงานเพื่อประชาชนจริงๆ ออกมาพูดไปมากกว่านี้เลย" นายอานนท์ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศชอ. คัมแบ็ค! ประกาศกลับมาแล้ว พร้อมลุยใช้กฎหมาย ม.112 ปกป้องสถาบัน

เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ ศชอ.โพสต์ข้อความว่า "กลับมาแล้ว" หลังจากเมื่อเดือนกันยายน 2566 ได้ประกาศยุติบทบาทการเคลื่อนไหวใช้กฎหมายในการปกป้อง ช

'ดร.อานนท์' ร่ายยาว ไม่เคยมีใครสั่งให้เขียนหรือพูดเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์

ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์เฟซบุ๊ก Arnond Sakwora