ศาลอาญาคดีทุจริต สั่งจำคุก นิพนธ์ บุญญามนี อดีตนายก อบจ.สงขลา 9 ปี คดี 157 ละเว้นไม่อนุมัติจ่ายเงินค่ารถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ให้เอกชน 50,850,000 บาท เพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้ง 5 ปี
28 ก.ย.2566 - ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางนัดฟังคำพิพากษา คดีที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ โจทก์ นายนิพนธ์ บุญญามนี อดีต นายก อบจ.สงขลา จำเลย ข้อหาความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ขอให้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้จำเลยหยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยจนกว่าจะมีคำพิพากษา ให้จำเลยพ้นจากตำแหน่งนับแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่ และขอให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของจำเลยและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดเวลาไม่เกิน 10 ปี
ชั้นรับฟ้อง จำเลยลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่5 กันยายน 2565 ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลง จึงไม่จำต้องมีคำสั่งให้จำเลยหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำพิพากษาและให้จำเลยพ้นจากตำแหน่งนับแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่ จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานของโจทก์และจำเลยมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า จำเลยกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 หรือไม่ เห็นว่า ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิก จ่ายเงิน การฝากเงินการเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2547 ว่าด้วยการซื้อเช่าทรัพย์สิน หรือจ้างทำของ ให้หน่วยงานผู้เบิกรีบดำเนินการวางฎีกาเบิกเงินโดยเร็วอย่างช้าไม่เกินห้าวันนับจากวันที่ได้ตรวจรับทรัพย์สินหรือตรวจรับงานถูกต้อง ข้อ 6 วรรคหนึ่ง ให้หัวหน้าหน่วยงานคลังหรือเจ้าหน้าที่การเงินที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ตรวจฎีกา ข้อ 62 ฎีกาที่ตรวจถูกต้องแล้วตาม ข้อ 6 ให้หัวหน้าหน่วยงานคลังหรือเจ้าหน้าที่การเงินที่ได้รับมอบหมายนำเสนอผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้ที่บริหารท้องถิ่นมอบหมายเป็นผู้อนุมัติฎีกา และข้อ ๖๔ การอนุมัติฎีกาเบิกเงินเพื่อจ่ายเป็นค่าซื้อทรัพย์สินหรือจ้างทำของ ในกรณีที่ไม่มีเหตุทักท้วง ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสามวันทำการนับถัดจากวันรับฎีกา ในกรณีที่มีเหตุทักท้วงให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสามวันทำการนับถัดจากวันที่ผู้เบิกได้แก้ไขถูกต้องแล้ว
แม้โจทก์ไม่มีฎีกาซึ่งหัวหน้าหน่วยงานคลังหรือเจ้าหน้าที่การเงินนำเสนอจำเลยพิจารณาเป็นหลักฐาน คงมีเพียงบันทึกส่วนราซการ ฝ่ายจัดหาพัสดุและทรัพย์สิน กองพัสดุและทรัพย์สิน เสนอจำเลยว่า ผู้ขายจดทะเบียนรถใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2557 กองพัสดุและทรัพย์สินได้ส่งเอกสารหลักฐานการเบิกจ่ายให้กองช่าง และผู้ขายมีหนังสือแจ้งว่ายังไม่ได้รับการเบิกจ่ายเงินเสนอจำเลยเพื่อทราบ
พฤติการณ์แห่งคดีที่จำเลยเห็นควรยื่นแบบคำขอจดทะเบียนรถใหม่แก่สำนักงานขนส่งจังหวัดสงขลา และมอบอำนาจให้ผู้ขายเป็นผู้ดำเนินการโอนทะเบียนแทนผู้ซื้อ และลงนามหนังสือถึงขนส่งจังหวัดสงขลา แสดงให้เห็นว่าจำเลยรู้ข้อเท็จจริงดีว่าผู้ซื้อมีหน้าที่มอบอำนาจให้ผู้ขายเป็นผู้ดำเนินการโอนทะเบียนแทนผู้ซื้อตามสัญญาซื้อขาย ก่อนดำเนินการเบิกจ่ายเงินตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงินและการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2547 และรู้ว่า คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ เห็นว่าการตรวจรับพัสดุนั้นมีปริมาณและคุณภาพถูกต้องครบถ้วนรับพัสดุไว้แล้วมอบแก่เจ้าหน้าที่พัสดุ ลงบัญชีครุภัณฑ์เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับทำใบตรวจรับพัสดุมอบให้แก่ผู้ซื้อเป็นหลักฐานประกอบการขอรับเงินตามสัญญาและระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงินการเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ข้อ 6 เป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิซอบตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2535 ข้อ 64 (4)
มีเจตนาโดยตรงเพื่อประวิงเวลาให้ผู้ขายไม่สามารถดำเนินการโอนทะเบียนและไม่สามารถรับการชำระเงินตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิก จ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2547 เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ขายและองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และข้อต่อสู้อื่นๆ ของจำเลยเกี่ยวกับการกระทำอันอาจมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 เป็นมูลเหตุจูงใจภายหลังการกระทำความผิดของจำเลยดังกล่าวแล้ว และไม่ได้เป็นเหตุที่จำเลยยกขึ้นโต้แย้งผู้ขายในขณะที่จำเลยเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่สั่งการให้ทดลองหรือตรวจสอบในทางเทคนิคและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่มอบอำนาจให้ผู้ขายดำเนินการโอนทะเบียนให้กับผู้ซื้อตามสัญญาซื้อขาย ตั้งแต่ต้นจึงไม่จำต้องวินิจฉัย เพราะไม่ทำให้มีผลคดีเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น
ส่วนที่โจทก์ขอให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของจำเลยนั้น เห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราซการ และไม่ได้กระทำความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้งโดยตรงจึงเห็นสมควรเพิกถอนเฉพาะสิทธิ สมัครรับเลือกตั้งของจำเลย
อนึ่ง ภายหลังการกระทำความผิด ได้มีพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26 ) พ.ศ. 2570 มาตรา 7 ให้ยกเลิกอัตราโทษในมาตรา 157 และให้ใช้อัตราโทษใหม่ แต่กฎหมายที่ใช้ในภายหลังการกระทำความผิดไม่เป็นคุณแก่จำเลย จึงต้องใช้กฎหมายเดิมซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ขณะกระทำความผิดบังคับแก่จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2
พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 (เดิม) จำคุก 9 ปี และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของจำเลยมีกำหนดเวลา 5 ปี คำขออื่นให้ยก
ต่อมานายนิพนธ์ ได้ยื่นประกันตัวชั้นอุทธรณ์ ศาลพิจารณาเเล้วอนุญาต ตีราคาประกัน 2 แสนบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศาลอุทธรณ์ ยกคำร้องประกันตัว ผู้ต้องหาคดี 112 แพร่ข้อความหมิ่นสถาบัน 3 โพสต์
เเพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X (ทวิตเตอร์) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน @TLHR2014 แจ้งว่า ด่วน ! ศาลอุทธรณ์ ยกคำร้องประกันตัว "จิรวัฒน์" พ่อค้าออนไลน์ คดี ม.112
ป.ป.ช. แจงปมดราม่า 'ครูชัยยศ' โรงเรียนบ้านยางเปา ถูกปลด
จากกรณีมีการนำเสนอข่าว นายชัยยศ สุขต้อ ครูโรงเรียนบ้านยางเปา อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทางอาญาและวินัย และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่
ป.ป.ช.บุกรวบถูกกล่าวหาตามหมายจับคาสุวรรณภูมิ ก่อนหนีออกนอกประเทศ
สำนักงาน ป.ป.ช. ภายใต้การอำนวยการของนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะ
จำคุก 3 ปี รอลงอาญา 'ไบรท์ ชินวัตร' สารภาพคดี 112 ดวงตาเห็นธรรมแล้ว
นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือ ไบรท์ ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า ศาลตัดสินจำคุก 3 ปีในคดี 112 แต่ศาลแจ้งว่าผมได้กลับตัวกลับใจ
ป.ป.ช. ฟัน 4 ขรก.สรรพากร 'ร่ำรวยผิดปกติ' โกงเงินคืนภาษี 2 พันล้าน
นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะรองโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงถึงมติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดคดีการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ
เปิดเซฟ '3 รมต.' บิ๊กเพื่อไทย 'พวงเพ็ชร' อู้ฟู่สุด 871 ล้าน
ป.ป.ช. เปิดทรัพย์สิน 3 รมต. เพื่อไทย 'ภูมิธรรม' รวย 49 ล้าน 'พวงเพ็ชร' อู้ฟู่ 871 ล้าน บ้าน 9 หลัง 333 ล้าน 'จักรพงษ์' มี 56 ล้าน ปล่อยกู้บริษัทบิดา 20 ล้าน มีพระสมเด็จ 7 ล้าน