18 มี.ค.2567 - ที่กรมราชทัณฑ์ อ.เมือง จ.นนทบุรี กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ร่วมกับ ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และ กลุ่มกองทัพธรรม 150 คน นำโดย นายพิชิต ไชยมงคล พร้อมด้วย นายอานนท์ กลิ่นเเก้ว , ดร.ใจเพชร เเก้วจน , นายนัสเซอร์ ยีหมะ เคลื่อนขบวนมาจากเวทีคปภ. สะพานชมัยมรุเชษฐ์ เดินทางมายื่นหนังสือต่อนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เพื่อขอให้นำตัวนักโทษเด็ดขาดชาย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาจำคุกตามคำพิพากษาอันถึงที่สุดและตามพระบรมราชโองการลดโทษ โดยมี นายไพรัตน์ ขมินทกูล ผู้ตรวจราชการ กรมราชทัณฑ์ เป็นผู้รับหนังสือแทน
โดยนายพิชิต กล่าวว่าตามที่มีพระบรมราชโองการ ซึ่งประกาศเมื่อวันที่ 1 ก.ย.66 พระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษให้นักโทษเด็ดขาดชาย นายทักษิณ เหลือโทษจำคุกต่อไป อีก 1 ปี ตามกำหนดโทษตามคำพิพากษาของศาลนั้น ปรากฎข้อเท็จริงเป็นที่ประจักษ์ว่า นับแต่วันที่ 22 ส.ค.66 นายทักษิณ ไม่เคยได้รับโทษจำคุก เพราะหนีคุกมาอยู่โรงพยาบาลตำรวจในตอนกลางดึก โดยไม่มีอาการป่วยถึงขนาดที่ต้องนำตัวออกจากเรือนจำเพื่อมารักษาตัวอย่างเร่งด่วน แต่เป็นอาการเฝ้าระวัง ดังที่ทราบจากคำชี้แจงของเรือนจำและนายแพทย์ผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นเหตุที่ไม่อาจอ้างเพื่อให้พักรักษาตัวได้ตามกฎหมายจึงเป็นการกระทำที่เป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย อันเป็นการช่วยเหลือ นายทักษิณ ให้ไม่ต้องถูกจำคุกตามคำพิพากษา ซึ่งเป็นโทษที่เหลือจากที่ได้รับการพระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษให้นักโทษเด็ดขาดชาย นายทักษิณ เหลือโทษจำคุก 1 ปี
โดยช่วงเวลา นายทักษิณ อยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ เป็นเวลา 180 วัน หรือ 6 เดือน จึงเป็นการอยู่โดยหลบหนีหรือหลบเลี่ยงการจำคุก เนื่องจากไม่มีการรักษาอาการป่วยไข้ จึงไม่อาจนับวันจำคุกตามกฎหมายได้ ต่อมาเมื่อครบ 180 วัน ที่นายทักษิณอยู่ในโรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่มีอาการป่วยไข้ที่จำต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ จึงไม่อาจใช้ประโยชน์จากวันที่อยู่ที่โรงพยาบาล นำมานับเป็นวันจำคุกได้
ทั้งนี้เมื่อไม่อาจใช้ประโยชน์จากวันที่อยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ 180 วัน เป็นวันจำคุกดังกล่าวได้ ประกอบกับ นายทักษิณ ไม่ได้มีการป่วยจริง และมีการช่วยเหลือโดยมีการทำรายงานทางการแพทย์เท็จ การพิจารณาพักโทษดังกล่าว จึงเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ต่อมาปรากฎว่า มีการเสนอข่าวสารต่อสาธารณะชนทางสื่อมวลซนทุกแขนง โดยเฉพาะที่ปรากฏ นับตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ.67 และช่วงวันที่ 14-17 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่ง นายทักษิณ ไม่มีอาการปวยไข้ หรือฟื้นจากการป่วยไข้ให้เห็น คือ บทพิสูจน์ที่ชัดเจนว่านักโทษเด็ดขาดชาย นายทักษิณ ไม่เคยป่วยไข้ตามที่อ้างกันตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.66
นายพิชิต กล่าวอีกว่า คปท. กองทัพธรรม ศปปส. และประชาชนคนไทย เห็นว่า กระบวนการช่วยเหลือนายทักษิณ ตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.66 ถึงปัจจุบัน เป็นกระบวนการที่ทำลายกระบวนการยุติธรรม อันเป็นเสาหลักของประเทศไทย เป็นการร่วมกันทำลายหลักการยุติธรรมในการลงโทษผู้กระทำผิด ทั้งเป็นการร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ด้วยการทำลายความเป็นธรรมของกระบวนการยุติธรรมที่ผู้กระทำผิดกฎหมายจะต้องได้รับการลงโทษเหมือนกันทุกคน และเห็นได้อย่างชัดเจนว่า กระบวนการช่วยเหลือไม่ให้นายทักษิณ ได้รับการลงโทษและการช่วยเหลือให้ได้รับการพักโทษนั้น เป็นการกระทำที่ช่วยกันฟอกคดีทุจริต คอร์รัปชั่น ก่อให้เกิดกระแสคัดค้านและไม่เห็นด้วยจากประชาชนทั้งประเทศ ซึ่งเห็นว่านายทักษิณ ได้ยื่นขออภัยลดโทษโดยอ้างว่าได้สำนึกและยอมรับผิดต่อการกระทำของตนเองไปแล้ว แต่กลับปฏิบัติเหมือนการไม่สำนึกต่อความผิดของตัวเองที่ได้ยื่นขออภัยลดโทษไป เป็นการกระทำที่ย่ำยีกระบวนการยุติธรรมจนเสียหายย่อยยับ ตกต่ำอย่างสุดขีด
โดยคปท.ได้ทำหนังสือคัดค้านการพักโทษของนักโทษเด็ดขาดชาย นายทักษิณ ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แล้วเมื่อวันที่ 12 ก.พ.67 แต่กลับยังเพิกเฉย จึงขอให้ท่านสั่งการให้นำตัวนักโทษเด็ดขาดชายกลับเข้ามารับโทษจำคุก ซึ่งเป็นโทษที่เหลือจากที่ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษให้นายทักษิณ ที่คงเหลือโทษจำคุกอีก 1 ปี ทันที หากไม่ดำเนินการจะถือว่า รมว.ยุติธรรม กรมราชทัณฑ์และข้าราชการที่เกี่ยวข้องกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ทั้งนี้ เพื่อคืนความเป็นธรรมและรักษาความยุติธรรมแก่กระบวนการยุติธรรมต่อไป
ด้าน นายไพรัตน์ กล่าวว่า ตนเป็นตัวแทนของกรมราชทัณฑ์มารับหนังสือเนื่องจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ มีราชการต่างจังหวัด ดังนั้น ตนเองจะรับหนังสือดังกล่าวไว้ โดยจะต้องดูเนื้อหารายละเอียดของหนังสือว่ามีคำร้องทุกข์และความต้องการอะไร เพื่อที่จะนำเรียนเสนอผู้บริหารรับทราบต่อไป
ทั้งนี้หลังจากนั้นมวลชนได้เดินทางกลับไปยัง สะพานชมัยมรุเชษฐ์ พร้อมกันนี้ แกนนำได้แจ้งว่าในวันพรุ่งนี้ (19 มี.ค.) จะเดินทางมายื่นหนังสือที่สำนักงาน ป.ป.ช. ต่อไป![]()
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'หมอวรงค์' มองภาพ 'เบนสมิธ' ร่วมวง 'ทักษิณ-ธรรมนัส' น่ามีผลต่อปท. มากกว่ารูปเก่า 'อนุทิน'
ภาพที่มีเบน สมิธกับทักษิณ และมีธรรมนัส น่าจะมีน้ำหนักสร้างผลกระทบต่อประเทศชาติมากกว่า เมื่อเทียบกับภาพเมื่อ 10 ปีที่แล้วของนายอนุทิน แต่สิ่งที่นายอนุทินต้องพิสูจน์ อาจจะมีบางสิ่งบางอย่างผ่านมาทางธรรมนัสก็ได้
ดีเอสไอเผยคืบหน้าคดีคุกวีไอพี อธิบดีราชทัณฑ์ ยันขรก.ทุจริตต้องถูกลงโทษ
"ดีเอสไอ" เร่งสอบเส้นทางเงินผู้ต้องขังชาวจีน พร้อมเรียกเจ้าหน้าที่และอดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ให้ปากคำครบทุกฝ่าย
ป.ป.ช. สอบคุกวีไอพี ไล่เช็กกล้อง-เส้นทางนำคนนอกเข้าเรือนจำ
ป.ป.ช.ลุยตรวจเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เปิดปฏิบัติการเชิงรุกสอบสิทธิพิเศษ “ผู้ต้องขังจีนเทา” ไล่เช็กกล้อง-เส้นทางนำคนนอกเข้าเรือนจำ จ่อรายงานบอร์ดป.ป.ช.พิจารณาต่อ
กสม. มีมติสอบ 'คุก VIP' ส่อละเมิดสิทธิ เรียกหน่วยเกี่ยวข้องแจง
'กสม.' มีมติตรวจสอบ กรณีพบห้องวีไอพีของผู้ต้องขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่อเลือกปฏิบัติละเมิดสิทธิ จ่อเชิญหน่วยเกี่ยวข้องให้ข้อมูล
แจงยิบสางผบ.คุกฉาว 28พ.ย.สรุปชงรมว.ยธ.
โฆษกกรมราชทัณฑ์เผยคืบหน้าปมตรวจสอบ "คุก VIP เทา" แย้มไล่กวดเอกสารลาพักร้อน “มานพ” อดีต ผบ.คุก-เอกสารการเงินปรับปรุงห้องลับใต้บันได
รมว.ยุติธรรม เผยเจ้าหน้าที่อึดอัดพฤติกรรมอดีต ผบ.คุกพิเศษกรุงเทพ
รมว.ยุติธรรม เผยข้าราชการในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ-กรมราชทัณฑ์ สุดอึดอัดกับพฤติกรรมของ “อดีตผบ.มานพ” แย้ม ดีเอสไอเร่งตรวจสอบเส้นทางการเงิน

