‘พิธา’ บอก ยังไกลไปเยอะ หาก ‘ก้าวไกล’ รอดถูกยุบ แล้วฟ้องกลับ ‘กกต.’ มอง ตีความแยกมาตรา 92-93 ทำให้เกิดสองมาตรฐาน มั่นใจ คดี 44 สส. ยื่นแก้ ม.112 อธิบายได้ ย้ำ ต้องให้โอกาสในการพิสูจน์ เหตุคดีก็ยังไม่ถึงที่สิ้นสุด
30 มิ.ย. 2567 – ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีราบชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าพรรคก้าวไกล ไม่ได้กระทำตามข้อกล่าวหา จะมีการฟ้องร้องกลับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หรือไม่ ว่า ตนคิดว่ายังคงไกลไปเยอะที่จะคิดเรื่องนั้น เรื่องที่เราอยากจะขอย้ำ และขอยืนยันว่า คำร้องของ กกต.นั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีส่วนร่วม ไม่มีการถ่วงดุล และผิดขั้นตอนของทาง กกต.เอง ไม่ควรที่จะให้ตีความแบบ กกต.ว่าแยกมาตรา 92 กับ 93 กรณีนั้นทำให้เกิดสองมาตรฐาน บางพรรคถ้ากรณีที่ใช้ดุลยพินิจแล้วเกิดแยกขึ้นมา ตนยืนยันว่าไม่ได้กล่าวหา กกต.โดยตรง แต่โดยหลักการถ้ามีสองมาตรฐานแบบนี้ได้
“ถ้า กกต. อยากจะยุบพรรคไหนเป็นพิเศษก็ส่งขึ้นทางด่วนใช้มาตรา 92 อย่างเดียว ถ้าพรรคไหนไม่อยากยุบเร็วอยากจะประวิงเวลาให้ก็ส่งไปทางธรรมดาใช้มาตรา 93 เข้ามาช่วย ผมมองว่า กกต.จะเลือกใช้แบบนี้ไม่ได้ ทำให้เกิดสองมาตรฐานในประเทศไทย และไม่สามารถจะบอกว่า คดีนั้นจบถือว่าเอาคดีนั้นมาผูกพันกับคดีนี้ถือว่าเป็นหลักฐานนั้นเชื่อได้ว่าอันดุลพินิจล้วนๆ เพราะเรื่องที่กฎหมายรุนแรงขนาดนี้ ไม่สามารถที่จะใช้ดุลยพินิจโดยที่ไม่มีการถ่วงดุลได้ ต้องโฟกัสที่ตรงนี้ก่อน”
ส่วนกระบวนการชี้แจงอาจจะย้อนกลับไม่ได้แล้วพรรคก้าวไกลประเมินฉากทัศน์หลังจากนี้อย่างไร นายพิธา ระบุว่า ก็มีหลายฉากทัศน์ ฉากทัศน์หนึ่งที่วันนี้เรานำเสนอโดยการเทียบเคียงคดี 15/53 ของพรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นฉากทัศน์หนึ่งที่ศาลได้ยกคำร้องในคดีนั้น เพราะว่านายทะเบียนพรรคไม่ได้เสนอความเห็นก่อนถือว่าทำข้ามตามขั้นตอน ก็มีการยกคำร้องนั้นและก็ไม่ได้พิจารณาเรื่องอื่นอีก อันนี้ก็เป็นฉากทัศน์นึง หรืออีกฉากทัศน์นึง เดินหน้าต่อแล้วให้มีการไต่สวน แต่ตนคิดว่าถ้าดูตามการเทียบคดีของพรรคประชาธิปัตย์เมื่อปี 53 กับของเราก็จะเห็นว่ามันยิ่งต้องเป็นเช่นนั้นที่ต้องยกคำร้อง เพราะในคดีนั้นของ กกต. ตอนที่เป็นประธานแต่ตอนนี้เป็นนายทะเบียนพรรคเป็นเลขา กกต. ถ้าดูด้วยข้อกฎหมายตนมองว่าเป็นข้อผิดพลาดที่ทำให้เป็นผู้เสียหายทำให้ตนเป็นผู้เสียโอกาสในการชี้แจงในกระบวนการสำคัญที่ กกต.ร่างขึ้นมาเองในปี 66 ทำให้เราต้องเปรียบเทียบกับคดีอื่นๆ อย่างไทยรักษาชาติ ที่เกิดขึ้นก่อน ปี 66 ยิ่งไม่ได้ใหญ่เลย ตนพูดในเรื่องของกระบวนการไม่ใช่ในแง่ของผลลัพธ์
เมื่อถามว่ามองเรื่องของการรับรู้ของศาลมองเป็นการฟอกข่าวให้กกต.หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ตนไม่อาจก้าวล่วงไปที่ทางศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่สามารถก้าวล่วงไปในมุมของกกต.ได้ ในขณะเดียวกันตนก็ทราบว่าศาลถามอะไรไปที่ กกต.ก็ทราบคำตอบ ตนตั้งใจที่จะแถลงข่าวอย่างตรงไปตรงมาและยึดที่ข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายของฝั่งตนเอง ไม่อาจไปก้าวล่วงไปที่ผู้ร้อง เน้นที่ฝั่งของตัวเองที่ถูกกระทบหรือถูกกระทำ ไม่ได้ต้องการที่จะไปก้าวล่วงในขอบเขตของคนอื่น
เมื่อถามว่าในส่วนตัวของพรรคก้าวไกลนั้นมั่นใจหรือไม่ว่ากรณีนี้จะถูกยุบพรรค นายพิธา กล่าวว่า ถ้ามีความสม่ำเสมอในการใช้มาตรฐานในการทำคำร้องคดีและมาตรฐานในการตัดสินคดี ตนก็มีความมั่นใจ
เมื่อถามว่ากรณีนี้ตัวพรรคก้าวไกลมั่นใจว่าจะไม่ถูกยุบกับการที่เทียบคดีที่มีการร้องป.ป.ช. เรื่องของจริยธรรมที่มี สส. ก้าวไกล 44 คน เข้าชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เรื่องของคดีนั้นกับคดีนี้อันไหนมีแนวโน้มว่าจะมีความเชื่อมั่นมากกว่ากัน นายพิธา กล่าวว่า ตนเชื่อมั่นพอๆ กัน ยังเชื่อมั่นในตัวเองไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเจตนาของพวกเราที่มีเจตนาดีกับระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่ว่าจะเป็นการกระทำใดที่ผ่านมาที่มีคำอธิบายได้ เราประกันตัวเพราะเป็นสิทธิที่เป็นหลักการสันนิษฐานว่าบริสุทธิ์ไว้ก่อน การที่เรามีผู้ต้องหามาตรา 112 เป็นสมาชิกพรรคหรือเป็นสส.พรรค ก็ต้องให้โอกาสเขาในการที่จะพิสูจน์ เพราะคดีก็ยังไม่ถึงที่สิ้นสุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปปช.เปิดทรัพย์สิน 'ก่อแก้ว' สุดอู้ฟู่รวย 263 ล้านบาท
เปิดเซฟ 'ชัยธวัช ตุลาธน' อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล 19.3 ล้านบาท 'อภิชาติ' อดีตเลขาธิการพรรค 13.2 ล้านบาท 'ก่อแก้ว' อู้ฟู่ 263 ล้าน
ก้าวไกลแพ้! ศาลยกฟ้อง 'ณฐพร โตประยูร' แจ้งเท็จ-หมิ่น ล้มล้างการปกครอง
ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.308/2564 ที่พรรคก้าวไกล เป็นโจทก์ฟ้องนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ,หมิ่นประมาทฯพร้อมเรียกค่าเสียหาย 20,062,475บาท
รู้ไว้ซะ 'ปิยบุตร' เผย 'ทักษิณ' ได้กลับบ้าน เพราะก้าวไกลชนะเลือกตั้ง!
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาถกเถียงกันอีกครั้ง
พิราบขาว ตามจิกทักษิณ ยกปราศรัยหาเสียงที่อุดร หลักฐานมัดครอบงำเพื่อไทย
ที่สำนักคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล แกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 ยื่นเอกสารเพิ่มเติมต่อกกต.กรณีคำร้องยุบ 6 พรรคการเมือง