19 พ.ย.2567- นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ส่ง จดหมายเปิดผนึกถึงรัฐมนตรีคลังเรื่องแต่งตั้งประธานบอร์ดแบงค์ชาติ
ด่วนที่สุด
วันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
เรื่อง ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง
เรียน นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ตามที่ปรากฏข่าวในสื่อมวลชนว่าคณะกรรมการสรรหาประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยได้เลือกนายกิตติรัตน์ ณ ระนองด้วยคะแนนเสียงข้างมาก นั้น
เนื่องจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นตำแหน่งที่ต้องได้รับการโปรดเกล้าฯ ข้าพเจ้าจึงใคร่ขอให้ท่านพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติของนายกิตติรัตน์ฯ เพื่อทำให้การทูลเกล้าฯ ต่อพระมหากษัตริย์เป็นไปอย่างรอบคอบที่สุด โดยมีรายละเอียด ดังนี้
๑. คุณสมบัติกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทยฯ มาตรา ๑๘ (๔) และระเบียบการคัดเลือกที่เกี่ยวข้อง ข้อ ๑๖ (๔) กำหนดว่าบุคคลที่จะได้รับการเสนอชื่อจะต้องไม่เป็นหรือเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เว้นแต่จะได้พ้นจากตำแหน่งมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปี
นายกิตติรัตน์ฯ เคยดำรงตำแหน่งประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งโดยนายเศรษฐา ทวีสิน ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๒๓๔/๒๕๖๖ ลงวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๖๖ และเพิ่งพ้นตำแหน่งเมื่อวันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๗ พร้อมกับนายเศรษฐาฯ
ถึงแม้ระยะเวลายังไม่ครบหนึ่งปี แต่ข้าพเจ้าได้รับข้อมูลว่าคณะกรรมการสรรหาฯ พิจารณาว่ามีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนดเพราะตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีไม่ถือเป็นข้าราชการการเมือง
๒. ตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ข้าพเจ้ามีความเห็นว่า ถึงแม้ตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีจะไม่เป็นข้าราชการการเมืองตามมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการการเมือง พ.ศ. ๒๕๓๕ แต่เข้าข่ายเป็น “ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” ที่ทำให้ขัดด้วยคุณสมบัติ ด้วยเหตุผลต่อไปนี้
๒.๑ นายกรัฐมนตรีออกคำสั่งดังกล่าวมิใช่คำสั่งส่วนตัว แต่เป็นคำสั่งโดยอ้างอำนาจตามความในมาตรา ๑๑ (๖) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ และกำหนดให้นายกิตติรัตน์ฯ ในฐานะประธานฯ ให้คำปรึกษาและพิจารณาเสนอความเห็นหรือข้อเสนอแนะต่างๆ ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย
และยังเป็นตำแหน่งที่มีอำนาจดังระบุไว้ในคำสั่งว่า ให้ส่วนราชการสนับสนุนการดำเนินงานของที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีตามที่ได้รับการร้องขอ และให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ของที่ปรึกษาฯ
สำหรับค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามระเบียบของราชการโดยให้เบิกจ่ายจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
๒.๒ นายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ยังได้แต่งตั้งนายกิตติรัตน์ฯ ในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๓๑๖/๒๕๖๖ ให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อยอีกด้วย เพื่อดำเนินการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับประชาชนรายย่อยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเป็นระบบ และเป็นธรรม
โดยคณะกรรมการนี้มีอำนาจในการเชิญเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมชี้แจง แสดงความคิดเห็น ส่งเอกสารให้ข้อมูล หรือดำเนินการอื่นที่จำเป็น เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ รวมทั้งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือมอบหมายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม
ทั้งนี้ การแต่งตั้งนายกิตติรัตน์ฯ เป็นประธานคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อยนั้น มิใช่นายกิตติรัตน์ฯ ในฐานะผู้ทรงคุณวุฒิทั่วไปอย่างส่วนตัว แต่ในฐานะตำแหน่งประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี
๒.๓ คำว่า “ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” ตามความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ ๑) ที่เคยมีการวินิจฉัยเรื่องฐานะและการดำรงตำแหน่งของผู้ช่วยรัฐมนตรี เรื่องเสร็จที่ ๑๓๙/๒๕๔๗ ไว้ โดยอ้างถึงคณะกรรมการกฤษฎีกา (ที่ประชุมใหญ่กรรมการร่างกฎหมาย) เรื่องเสร็จที่ ๔๘๑/๒๕๓๕ ในการพิจารณาตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีว่า
“ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” หมายถึง ผู้ดำรงตำแหน่งที่มีหน้าที่อำนวยการบริหารประเทศหรือควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน รวมถึงบรรดาผู้ที่รับผิดชอบงานด้านการเมืองทั้งหมด อันเป็นงานที่เกี่ยวกับการกำหนดนโยบายให้ฝ่ายปกครอง มีหน้าที่ปฏิบัติงานประจำรับไปบริหารให้เป็นไปตามนโยบาย จึงหมายถึง คณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภา และผู้ดำรงตำแหน่งอื่นที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน
“ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” จึงมีความหมายกว้างกว่าคำว่า “ข้าราชการการเมือง” ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการการเมือง พ.ศ. ๒๕๓๕
ดังนั้น คำว่า “ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” นี้ จึงหมายถึงคณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภา และผู้ดำรงตำแหน่งอื่นที่มีลักษณะทำนองเดียวกันที่มีอำนาจหน้าที่ในการอำนวยการบริหารประเทศ หรือควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน
และเมื่อระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๔๖ ได้กำหนดอำนาจหน้าที่ของผู้ช่วยรัฐมนตรีในการช่วยเหลือ ในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีต่าง ๆ ของกระทรวงตามที่ได้รับมอบหมาย ในการอำนวยการบริหารประเทศหรือการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีจึงอยู่ในความหมายของคำว่า “ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” ด้วย
ซึ่งข้าพเจ้ามีความเห็นว่าตำแหน่งประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๒๓๔/๒๕๖๖ ลงวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๖๖ เข้าข่าย“ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” ด้วยเช่นกัน
๒.๔ เจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทยฯ มาตรา ๑๘ (๔) และระเบียบการคัดเลือกที่เกี่ยวข้อง ข้อ ๑๖ (๔) ย่อมประสงค์จะให้เกิดความมั่นใจแก่สาธารณะและแก่สังคมเศรษฐกิจตลาดเงินตลาดทุนทั่วโลกว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยมีความเป็นอิสระจากการเมือง และรัฐบาลไม่มีการแทรกแซงเพื่อเบี่ยงเบนนโยบายการเงินให้เป็นประโยชน์แก่พรรคการเมือง
จึงต้องตีความลักษณะต้องห้ามที่เกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งทางการเมืองแบบกว้าง
ข้าพเจ้าจึงทำหนังสือฉบับนี้ให้ปรากฏเป็นหลักฐานและขอให้ท่านโปรดพิจารณาว่าการกระทำที่เกี่ยวข้องเป็นเรื่องที่ถูกต้องตามกฎหมายและหลักธรรมาภิบาลหรือไม่
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
ขอแสดงความนับถือ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'พิชัย' ยันชง ครม. เคาะ 'พ.ร.บ.กาสิโน' ปัดมุ่งพนันยกท่องเที่ยวบังหน้า
'พิชัย' ชง พ.ร.บ.กาสิโน เข้าครม. ย้ำไม่ได้มุ่งการพนัน หวังเก็บรายได้จากนักท่องเที่ยว พร้อมกํากับคุมเข้ม รับมี บางหน่วยงานเป็นห่วง
ชงแก้สัญญารถไฟฟ้าเชื่อม3สนามบิน
บอร์ดอีอีซีชงแก้สัญญารถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน เข้า ครม.ภายในเดือนเม.ย.นี้
ล้วงรายได้โปะ ค่าไฟ3.70บาท เอกชนบี้ทำจริง
“พิชัย” รับลูก “ทักษิณ” เร่งศึกษาหาช่องลดค่าไฟเหลือ 3.70 บาทต่อหน่วย
นายกฯอิ๊งค์ เซ็นคำสั่งแต่งตั้ง 'ข้าราชการการเมือง' จำนวน 16 ราย
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ ๔๖๓/๒๕๖๗ เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการการเมือง
'รมว.คลัง' เผยสรรหาประธานบอร์ดแบงก์ชาติคนใหม่ ขั้นตอนเร็วกว่าเดิม
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวถึงความคืบหน้าในการสรรหาประธานคณะกรรมการ (บอร์ด)ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ภายหลังจากที่คณะกรรมการกฤษฎีกา 3 คณะ ได้วินิจฉัยคุณสมบัติของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง