เลขาฯ ป.ป.ช. รับเองคดีชั้น 14 อืดไม่คืบหน้า

เลขาฯ ป.ป.ช. รับ คดีชั้น 14 อืด เหตุติดปัญหาขอข้อมูลจากหน่วยงานอื่น ลั่น พยายามเก็บหลักฐานทุกมิติ หวังได้ข้อเท็จจริงมากที่สุด ไม่ฟันธง ใช้เวลาอีกนานหรือไม่ 

23 มี.ค. 2568 – นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีการไต่สวนเจ้าหน้าที่รัฐที่ช่วยเหลือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้ได้รับการรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ต้องถูกคุมขังในเรือนจำว่า ทางคณะไต่สวนได้ดำเนินการไต่สวนและรวบรวมพยานหลักฐานมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งพยานบุคคลและเอกสาร โดยมีการเรียกเอกสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไต่สวนพยานบุคคล รวมถึงการไปตรวจสถานที่ซึ่งมีพยานที่ให้ถ้อยคำไปร่วมตรวจด้วย ขณะนี้เราดำเนินการทุกมิติเพื่อรวบรวมหลักฐานให้ได้ข้อเท็จจริงมากที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางกรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ได้ส่งเอกสารมาให้คณะไต่สวนหรือยัง นายสาโรจน์ กล่าวว่า เท่าที่ทราบก็ส่งมา แต่ไม่ทราบว่าครบถ้วนสมบูรณ์ตามที่คณะไต่สวนขอไปหรือไม่ เป็นรายละเอียดในสำนวน 

เมื่อถามว่า การไปตรวจที่โรงพยาบาลตำรวจ ได้ข้อมูลอะไรมาประกอบสำนวนหรือไม่ นายสาโรจน์ กล่าวว่า ตนทราบแค่ขั้นตอนว่ามีการลงพื้นที่ พาพยานบุคคลไปยืนยันตามจุดต่างๆ แต่รายละเอียดเป็นข้อมูลในสำนวน ซึ่งตนไม่ทราบ

เมื่อถามว่า เจ้าหน้าที่ได้รายงานหรือไม่ว่าการรวบรวมพยานหลักฐานทำไปกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว นายสาโรจน์ กล่าวว่า เป็นดุลยพินิจของคณะไต่สวนว่าตั้งกรอบไว้แค่ไหน สำนักงาน ป.ป.ช.ทราบเพียงว่าเขาดำเนินการถึงขั้นตอนไหนแล้ว แต่ในส่วนแผนการไต่สวนว่าต้องมีพยานหลักฐานมากน้อยเพียงใด เราไม่สามารถเข้าไปประเมินได้

เมื่อถามว่า คาดว่าต้องใช้เวลาอีกนานหรือไม่ในการสรุปสำนวน นายสาโรจน์ กล่าวว่า หากพยานหลักฐานครบถ้วน ก็สามารถสรุปสำนวนได้ อย่างไรก็ตาม คดีนี้ต่างกับคดี 44 ส.ส.พรรคก้าวไกล เพราะคดี 44 ส.ส.ไปถึงขั้นตอนการแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว แต่คดีชั้น 14 ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา ดังนั้น หลังจากสรุปสำนวนต้องพิจารณาเป็นสองส่วน คือ 1.มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะแจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่ หากมีก็จะไปสู่ขั้นตอนการแจ้งข้อกล่าวหา 2.หากไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอ ก็ถือว่าไม่มีมูลเพียงพอที่จะไต่สวนต่อไป ต้องสรุปความเห็นให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณา 

เมื่อถามว่า คดีนี้ติดปัญหาหรือล่าช้าตรงไหนหรือไม่ นายสาโรจน์ กล่าวว่า มีในส่วนของข้อมูลที่เรียกจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีทั้งข้อมูลที่เปิดเผยได้และเปิดเผยไม่ได้ เพราะมีกฎหมายหลายฉบับคุ้มครอง ทางคณะไต่สวนก็พิจารณาว่าเรื่องไหนที่เปิดเผยได้และยังไม่ส่งมา หรือมีข้อจำกัดในการเปิดเผย ก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอน เพราะแต่ละหน่วยงานมีข้อจำกัดและกรอบในการดำเนินการของตัวเอง จึงอาจมีข้อขัดข้องที่ทำให้ระยะเวลาไม่ได้รวดเร็วหรือทำให้ล่าช้า 

เมื่อถามยํ้าว่า จากการลงพื้นที่และการได้รับเอกสาร จะทำให้การทำงานหลังจากนี้รวดเร็วขึ้นหรือไม่ นายสาโรจน์ กล่าวว่า หากครบถ้วนสมบูรณ์ก็เร็ว แต่เราไม่ทราบว่าต้องมีเนื้อหาขนาดไหนจึงจะถือว่าสำนวนครบถ้วน เพราะเป็นดุลยพินิจของคณะไต่สวน ในส่วนของสำนักงาน ป.ป.ช.แค่สนับสนุนและกำกับติดตามการดำเนินการ 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เพื่อไทย ชูเครือญาติ 'ชินวัตร' นั่งแคนดิเดตนายกฯ อันดับ 1

"เพื่อไทย ชู "ยศชนัน" นั่งแคนดิเดตนายกฯ เบอร์ 1 ชี้ไม่เป็นปัญหาถูกมองหนีไม่พ้นตระกูลชินวัตร ลั่นเป็นโอกาส-จุดเด่น รับเป็นหน้าใหม่การเมือง เชื่อเวลา 2 เดือน ชนะใจปชช.ได้ พร้อมยัน ไม่ถูกครอบงำจาก “เยาวภา” ด้าน “สุริยะ” ยังมั่นใจ ถึงเป้า 200 ที่นั่ง ขณะที่ “จุลพันธ์” ประกาศพร้อมฝ่าด่านอำนาจรัฐ กระสุน กระแสชาตินิยม สู่ชัยชนะด้วยนโยบาย

ดีเอสไอ สรุปสำนวนคดีคุกวีไอพีจีนเทา ส่ง ป.ป.ช. เชือด ’ผบ.เรือนจำ’ ม.157 - ค้าประเวณี 

จากกรณีเมื่อวันที่ 24 พ.ย. เจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีความมั่นคง คณะกรรมการตรวจสอบข้

'อิ๊งค์' โพสต์ภาพคู่ 'ทักษิณ' สุขสันต์วันพ่อ อดทนไว้ เราจะได้ไปเที่ยวรอบโลกด้วยกัน

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ภาพถ่ายร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร พร้อมระบุข้อความผ่านอินสตาแกรมว่า

รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ