'ภูมิธรรม' แสดงจุดยืนกรณีเขมร กอด MOU 2543 แน่น ไม่วางกำลัง ไม่ปิดด่าน สันติวิธี เพราะละเอียดอ่อน

3 มิ.ย.2568- นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ กล่าวถึงจุดยืนของไทยต่อสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา ว่า​ จุดยืนตนได้บอกไปหลายครั้งแล้ว คือยึดมั่น ในแนวทางแก้ไขแบบสันติวิธี พยายามหลีกเลี่ยงความรุนแรง และยึดมั่นในการรักษาอธิปไตย และผลประโยชน์ของประชาชน ที่ผ่านมาเราได้พยายามแสดงจุดยืนเหล่านี้ และพยายามหาช่องทางในการเจรจา เพื่อหาทางยุติได้อย่างสงบ

ขณะเดียวกันเราก็ไม่ประมาท มีการประสานงานกันอย่างทั่วถึง ตลอดเวลากับทางกองทัพ กองทัพภาค ผู้บัญชาการทหารบก​ กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ สิ่งที่เราทำขณะนี้ในแง่ของกองทัพ เราเตรียมความพร้อม เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ เท่าที่ตรวจดูในรายละเอียดต่างๆ มีการวางกำลังที่สามารถ ปกป้องอธิปไตยของประเทศ ได้โดยมั่นใจ และกองทัพก็ได้มีการเตรียมการอย่างเหมาะสม ไม่มีความบกพร่อง

ส่วนเรื่องของการเจรจา​ นาภูมิธรรม​ ยืนยันว่า​ เราได้มีการพูดคุยกันมาตลอด ทั้งกระทรวงกลาโหม​ กองทัพ​ และกระทรวงการต่างประเทศ ว่าสิ่งที่เราอยากจะแก้ไขปัญหา ต้องคุยกันภายในให้เป็นเอกภาพ เมื่อวานนี้ก็ได้มีการพูดคุยกันตลอดทั้งวัน สิ่งที่สำคัญก็คือ เราจะใช้มาตรการในการใช้ความรุนแรง หรือสงครามมันจะหักไหม เป็นมาตรการสุดท้าย หลังจากการแก้ไขวิกฤตต่างๆไม่สามารถเดินได้ แต่สิ่งสำคัญคือขณะนี้กำลังเริ่มต้นการเจรจา โดยยึด MOU 2543 และกลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ JBC ในการแก้ไขปัญหา

ขณะที่การปิดด่านชายแดน​ นาภูมิธรรม​ กล่าวว่า ตนอยากทำความเข้าใจ ว่าเราไม่มีการสั่งปิดด่านชายแดน หรือมีการสั่งให้ปิดหรือเปิด และไม่ได้มีความขัดแย้งกันในเรื่องนี้ ซึ่งเรื่องของการปิดด่านชายแดน เป็นอีกหนึ่งมาตรการ ที่จะยกระดับการพูดคุย และตรงบริเวณด่านชายแดน ยังไม่มีเรื่องของการวางกำลัง แต่เราก็ได้มีการเตรียมความพร้อมเอาไว้ ซึ่งการปิดด่านเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องอยู่กับสถานการณ์ที่เป็นจริง และต้องเห็นตรงกันทั้ง 3 ฝ่าย ซึ่งขณะนี้อยู่ในภาวะวิกฤต มันจะมีความเห็นและอารมณ์ มีเหตุผลปะปนกันไป แต่ทั้ง 3 หน่วยงาน ก็พูดคุยกันตลอด ถึงแม้ต่างคนจะมีมุมมองที่ต่างกัน เราไม่อาจจะปล่อยให้การยกระดับต่างๆ เป็นไปตามอำเภอใจ​ แต่ทางถ้าต่างฝ่ายเห็นตรงกันว่าเป็นการเจรจา มาถึงขั้นต้องปิดด่านก็ต้องปิดด่าน ยืนยันว่าการตัดสินใจทั้งหมด ไม่ใช่เรื่องของผลประโยชน์ ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือคนใดคนหนึ่ง ไปยึดผลประโยชน์ที่เป็นอธิปไตยของชาติอย่างแท้จริง และยึดประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ

นายภูมิธรรม​ ยังยืนยันถึงความเป็นเอกภาพ และขอให้มั่นใจว่าหากมาถึงจุดสุดท้าย เราจะใช้สงครามเป็นบรรทัดสุดท้าย​ หากไปต่อไม่ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก เราต้องคำนึงถึงไม่ใช่แค่อารมณ์ ว่าอยากให้ทำอะไร แต่ต้องคำนึงถึงเหตุผลและความจำเป็น เพราะหากยกระดับถึงขั้นสุดท้าย ที่เป็นสงคราม ก็คงไม่มีใครปรารถนา ถึงแม้แนวหน้าทั้งทหารและประชาชน มีความพร้อม ที่จะปกป้องประเทศ แต่เราต้องคำนึงถึงชีวิตและความสูญเสียที่จะเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นถ้าเราหลีกเลี่ยงได้มากที่สุด เราก็จะต้องหลีกเลี่ยง

ส่วนกรณีที่ทางกัมพูชาเตรียมหยิบยกพื้นที่อ้างสิทธิ์​ สามเหลี่ยมมรกต​ ขึ้นสู่ศาลโลกไทยเตรียมความพร้อมเรื่องนี้อย่างไร นายภูมิธรรม​ ระบุว่า ตอนนี้ต่างฝ่ายจะพูดอะไรก็ได้​ แต่กระบวนการเจรจาเป็นไปตามขั้นตอน การพูดในเชิงอารมณ์หรือความรู้สึกหรือความรู้สึกของแต่ละบุคคลของแต่ละบุคคล ไม่อาจเป็นหลักฐาน ไปใช้ในระดับต่างๆได้ ตนคิดว่าหัวใจสำคัญ ก็คือการเอาข้อเท็จจริง มาพูดคุยกัน ว่าข้อเท็จจริงนั้นเป็นอย่างไร ถ้าการเจรจามันจบ ซึ่งมันเคยเกิดขึ้นก็ไม่มีอะไร.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เขมรป่วนเช็กกำลังไทย

อุ๊งอิ๊งรูดซิปปากไม่พูดเรื่องกัมพูชา “หมอมิ้ง” เผยนายกฯ ยื่นขอขยายเวลาแจงศาลรัฐธรรมนูญแล้ว

จเรตำรวจฯ เผยเครือข่าย 'ก๊ก อาน' ซื้อบ้านในไทยเป็นฐานฟอกเงิน ที่พักแก๊งคอลเซ็นเตอร์

พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศปอส.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีเครือข่ายแก๊งคอลเซนเตอร์ของนายก๊ก อาน

จับตา! 17 ก.ค. 'อิ๊งค์' แก้ต่างคดีคลิปเสียง 'ปธ.ศาลรธน.' ชี้ขอยืดแจงได้

'ประธานศาลรธน.' เผย 'นายกฯอิ๊งค์' ขอขยายเวลาชี้แจงคดีจริยธรรมได้อย่างน้อย 1 ครั้ง ปัดตอบกรอบเวลาวินิจฉัย ชี้ให้เป็นไปตามกระบวนการ

'มทภ.2' เตือนอย่าเชื่อเฟกนิวส์สั่งถอนกำลัง ยันทหารตรึงกำลัง 24 ชม.

'แม่ทัพภาค 2' เตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อเฟกนิวส์สั่งถอนกำลัง หวังปั่นกระแสยั่วยุ สร้างความเข้าใจผิด ยันทหารตรึงกำลังปกป้องอธิปไตยเข้มแข็งตลอด 24 ชม.

อายัดทรัพย์เครือข่าย 'ก๊ก อาน' 1.1 พันล้าน ออกหมายแดงล่าตัวคนสนิทฮุนเซน

ผนึกกำลังประชาคมโลกปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์-ค้ามนุษย์ อายัดทรัพย์เครือข่าย "ก๊ก อาน" 1.1 พันล้าน เตรียมออกหมายแดงล่าตัว