'บิ๊กตู่' ยันไม่มีขัดแย้ง 'ภูมิใจไทย' เรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว

'บิ๊กตู่' ลั่นไม่มีขัดแย้ง 'ภูมิใจไทย' ชี้ปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียวอยู่ที่ มติ ครม.ตัดสินใจร่วมกัน ยันไม่มีผลประโยชน์ใครทั้งสิ้น แต่เพื่อประเทศชาติและประชาชน

09 ก.พ.2565 - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวว่า เมื่อมีข้อสังเกตเพิ่มเติมเข้ามา ซึ่งทราบว่ามีการทำมาหลายครั้ง เมื่อทำมาเดี๋ยวก็ชี้แจงกลับไป และเมื่อเรียบเรียงพร้อมแล้วก็จะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งมันจำเป็นต้องพิจารณา เพราะมันเป็นเรื่องของการแก้ไขปัญหา มันไม่มีวิธีทางอื่นที่จะแก้ไขปัญหา เพราะปัญหามันเกิดขึ้นแล้ว มันมีหนี้สินและอะไรต่างๆ ที่จะเพิ่มขึ้นทุกวัน ที่ถือเป็นภาระของรัฐบาลเหมือนกัน ก็ต้องบอกกันตรงนี้ และถ้าพูดกันจริงๆ รถไฟฟ้าสายสีเขียวเป็นเส้นแรกของประเทศไทยและมีการต่อขยายออกมา เพราะฉะนั้นการเป็นเส้นแรกมันก็อย่างว่า สมัยก่อนก็เป็นการลงทุนจากภาครัฐอย่างเดียว แต่ต่อมาก็จะมีในเรื่องของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) ก็มีความซับซ้อนอยู่เล็กน้อย

“ผมยืนยันไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ใครทั้งสิ้น ผลประโยชน์เพื่อประชาชนและประเทศชาติ ทำอย่างไรเราจะไม่เพิ่มภาระในเรื่องของหนี้สาธารณะ นั่นเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องทำ แต่ทั้งนี้ที่สุดก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ ครม.ว่าจะออกมาอย่างไร ไม่ได้ขัดแย้งอะไรกันหรอก ทุกคนต่างก็มีความเห็น ผมก็ฟังได้ทุกคน แต่ทุกคนก็ต้องขึ้นอยู่กับเหตุและผล และข้อกฎหมายที่มีอยู่ และผมเองก็ต้องให้ฝ่ายกฎหมายไปพิจารณา ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการกฤษฎีกาหรืออัยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ซึ่งทั้งหมดมีคำชี้แจงหมดแล้ว แต่จะทำได้หรือไม่ได้ก็ต้องรอดูต่อไป ปัญหามันเยอะอยู่แล้ว รัฐบาลพยายามแก้อยู่” นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่า แล้วจะเป็นปัญหาหรือไม่ในเมื่อพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ไม่เห็นด้วย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวยืนยันว่า ”ไม่เป็นหรอก จะเป็นได้อย่างไร ถ้าเป็นอย่างนี้มันก็ไม่ใช่เรื่อง”

ถามต่อว่า หากท้ายที่สุดพรรคภูมิใจไทยไม่เห็นด้วยแล้วจะเดินหน้าโครงการต่อไปอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องของ ครม.ใครเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็แล้วแต่ ถ้าเขาสามารถชี้แจงได้ในที่ประชุม แล้วที่ประชุมเห็นชอบก็เป็นเรื่องของการดำเนินการที่จะตัดสินใจร่วมกัน

ถามย้ำว่าในการประชุม ครม.ครั้งหน้าถ้ามติออกมาเป็นอย่างไรก็ถือเป็นมติใช่หรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็สุดแล้วแต่ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร เดี๋ยวก็เตรียมการอยู่ เรื่องนี้อย่าเพิ่งไปตอบตอนนี้เลย เดี๋ยวไปเพิ่มปัญหาขึ้นมาอีก ยืนยันว่ารัฐบาลพยายามแก้ปัญหาทุกอย่าง ทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน และคุยกันเมื่อวันที่ 8 ก.พ. ทุกคนก็รับรู้ถึงปัญหา แต่ว่าบางครั้งทุกคนไปพูดกันปลายทางเสียเยอะ ก็กลายเป็นว่าไปพูดเรื่องความขัดแย้งเสียเยอะ เราควรไปมองต้นทางว่าปัญหามันอยู่ที่ไหน มีอะไรเกิดขึ้นมาแล้วบ้าง จะแก้อย่างไร นั่นเป็นสิ่งที่ต้องทำ รัฐบาลต้องทำ เพราะเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล

เมื่อถามว่ายืนยันใช่หรือไม่ว่าพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีปัญหาอะไรพล.อ.ประยุทธ์กล่าวเสียงดังขณะเดินออกจากโพเดียมว่า “โอ้ย ไม่มีอะไรหรอกๆ ถ้าเธอไม่ยุ่งมันก็ไม่มีมั้ง”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุมคณะกรรมการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ครั้งที่ 1/2565 พล.อ.ประยุทธ์ ได้หารือนอกรอบอย่างเคร่งเครียดเป็นเวลากว่า 20 นาทีกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว. มหาดไทย และ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'วิสุทธิ์' เผย 'ภูมิใจไทย' ไม่ขัดข้อง ญัตติด่วนยื่นศาลตีความแก้ รธน.

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 17 มี.ค.

ดร.เสรี วิจารณ์ 'แพทองธาร' แต่งตัวตามแฟชั่นขาดรสนิยม แนะลด 'อีโก้' พัฒนาทักษะ

ดร.เสรี วงษ์มณฑา วิจารณ์การแต่งกายของนายกฯแพทองธาร โดยมองว่าแต่งตามสมัยนิยมไม่เหมาะสมกับรูปร่างตัวเอง และเสี่ยงที่จะดูแย่ แนะนำลดอีโก้และพัฒนารสนิยมเพื่อให้ประเทศดูดีขึ้น

น้ำล้างถ้วยเผ็ดกว่าน้ำแกง! ปรามบริวารอย่าใจแคบ ให้เวลาฝ่ายค้านซักฟอกนายกฯ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวเรื่อง "น้ำล้างถ้วย เผ็ดกว่าน้ำแกง" โดยระบุว่า

'กรวีร์' แนะปรับปรุงกฎหมายเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า

'กรวีร์' เผย ปราบปราม 'บุหรี่ไฟฟ้า' ได้ดีขึ้น หลังมีข้อสั่งการจาก 'นายกฯ' กังวล หากนำขึ้นมาบนดิน จะควบคุมยาก เหตุเด็กอาจเข้าถึงได้ง่าย ชี้ต้องมีการปรับปรุงกฎหมาย บอก สส. สูบในสภาเป็นเรื่องส่วนบุคคล

รมว.ท่องเที่ยวฯให้กำลังใจ ‘มาดามแป้ง‘ พร้อมเป็นคนกลาง

'สรวงศ์' ให้กำลังใจ 'มาดามแป้ง' หลังศาลสั่งชดใช้สยามสปอร์ต 360 ล้านบาท เชื่อไม่กระทบภาพลักษณ์วงการฟุตบอลไทย เผย 'ก.ท่องเที่ยว' อาจเข้าเป็นตัวกลาง ประนีประนอมการชำระเงิน